
ในโอกาสที่ปี พ.ศ. 2568 เป็นปีเฉลิมฉลองในใอกาสครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทย กับสาธารณรัฐประชาชนจีน รัฐบาล ภาคเอกชน และภาคประชาชน ของไทยและจีน พร้อมใจกันจัดกิจกรรมฉลองความสัมพันธ์ ทั้งในไทย และในจีน เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการเรียนรู้ร่วมกัน และเพิ่มความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ตลอดจนมีการเยือนในระดับสูง เพื่อตอกย้ำความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างกัน
ขณะที่ กระทรวงมหาดไทย เดินหน้าร่วมกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง (Sister City) หรือ ''เมืองคู่มิตร'' ระหว่างจังหวัดขอ หรือไทยกับมณฑลเมืองของจีนให้ครบ 50 คู่ เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน โดยเน้นความร่วมมือในมิติต่าง ๆ เพื่อจะนำไปสู่การเชื่อมโยงในระดับประชาชนถึงประชาชน (People-to-People Connectivity) เพื่อสร้างความเข้าใจอันดีและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและยั่งยืนระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ ตามเป้าหมายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวมหาดไทย
ทั้งนี้ ปัจจุบันไทย-จีน มีเมืองพี่เมืองน้องระหว่างกัน ราว 40 เมืองคู่มิตร อาทิ ''จังหวัดภูเก็ต'' กับ ''เมืองเซี่ยเหมิน'', ''จังหวัดนครราชสีมา'' กับ ''มณฑลเสฉวน'' , ''จังหวัดพะเยา'' กับ ''เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา'' , ''จังหวัดประจวบคีรีขันธ์'' กับ ''เมืองเล่อซาน'' และ ''จังหวัดเชียงใหม่'' กับ ''นครเฉิงตู'' เป็นต้น รวมถึงยังมีเมืองคู่ความสัมพันธ์ เมืองพี่น้องที่อยู่ระหว่างดำเนินการ อาทิ ''จังหวัดร้อยเอ็ด'' กับ ''เมืองกานซู'' , ''จังหวัดสงขลา'' กับ ''นครฝูโจว'' , ''จังหวัดอุบลราชธานี'' กับ ''มณฑลเจียงซี'' และ ''จังหวัดพิษณุโลก'' กับ ''มณฑลยูนนาน'' ซึ่ง การดำเนินความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง นอกจากเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันแล้ว ยังความเชื่อมโยงพัฒนาประเทศ ดึงดูดการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวจากต่างประเทศด้วย
ขณะที่ “เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์” เป็นอีกมณฑล ที่จะมีแผนส่งเสริมความสัมพันธ์ต่อไปในอนาคต เนื่องจาก เป็นเขตปกครองตนเองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจีน มีพื้นที่มากถึง 1,600,000 ล้านตารางกิโลเมตร มีประชากรราว 25.8 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนอุยกูร์ ซึ่งคิดเป็น 44.96% และนับถือศาสนาอิสลาม มีภาษา และเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเฉพาะตัว ซึ่งทางการจีนได้ส่งเสริมเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างเต็มที่ ทั้งด้านภาษาตามสถานที่สาธารณะ และสถานที่สำคัญทางศาสนา เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขด้วยการพัฒนาประเทศในยุคใหม่ของจีนภายใต้การนำของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
ทั้งนี้ ตามข้อมูลสำนักวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน รายงานจำนวนการเดินทางเยือนซินเจียงในปี 2024 ที่ผ่านมาว่า สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 300 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเทียบปีต่อปี และรายได้จากการท่องเที่ยวสูงราว 355,000 ล้านหยวน หรือราว 1,660,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 21
ขณะเดียวกัน หน่วยงานต่าง ๆ ของไทยให้ความสนใจเดินทางไปศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา นำคณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เข้าเยี่ยมสภาประชาชนแห่งชาติเขตปกครองตนเองซินเจียง อุยกูร์
โดย ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ซินเจียงมีความเปลี่ยนแปลงไปมากในรอบ 27 ปี และไม่คาดคิดว่า จากเมืองเล็ก ๆ ที่เศรษฐกิจไม่ดี นักท่องเที่ยวน้อย แต่ปัจจุบันสนามบินที่ใหญ่โตถึง 3 เทอมินอล สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ 50 ล้านคนต่อปี และยังมีนักท่องเที่ยว 20 กว่าล้านคนในปีที่ผ่านมา