
9 กันยายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้ส่งรายชื่อบุคคล ที่จะเสนอเป็นรัฐมนตรี ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี ทุกครบทุกคนแล้ว โดยยังไม่ได้ระบุตำแหน่ง ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ส่งไปแล้ว พร้อมหัวเราะ และบอกว่า “ส่งเกินด้วย” ซึ่งคุณสมบัติของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ต้องเป็นคนยุติธรรม พร้อมยอมรับว่า ได้ทาบทาม พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ และได้เชิญมาพูดคุยที่พรรคภูมิใจไทยว่า ท่านมีแนวทางดำเนินการอย่างไร เพราะวันพรุ่งนี้ (10 ก.ย.) จะต้องเดินทางไปประชุมจีบีซี ที่กาะกง
ส่วนเหตุผลที่เลือก พลเอกณัฐพล นายอนุทิน กล่าวว่า เพราะต้องการให้งานของกระทรวงกลาโหม สืบเนื่องต่อไป ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า ไม่เปลี่ยนม้ากลางศึกใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มีคำพังเพยอยู่ เรามองเรื่องประเทศชาติเป็นสำคัญ แต่เราอาจจะมีแนวทางใหม่ให้ท่าน เพราะที่ผ่านมาเห็นท่านบ่นๆ ว่า มีข้อจำกัดหลายเรื่อง จึงต้องทลายข้อจำกัดก่อน จะได้ทำงานสะดวก และสิ่งสำคัญที่จะต้องเรียน พลเอกณัฐพล นำไปเป็นส่วนประกอบสำคัญในการประชุมวันพรุ่งนี้คือ ต้องหาทุกวิถีทางให้คนไทย หรือแม้กระทั่งคนกัมพูชา สามารถทำมาหากินค้าขาย ทำให้เศรษฐกิจของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ กลับมาเป็นเหมือนเดิม ส่วนการทหารก็ว่ากันไป
เมื่อถามว่า เมื่อมีคณะรัฐมนตรีแล้วจะยกหูหา "ฮุน มาเนต" นายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วยตัวเองหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า จะดำเนินการทุกช่องทาง ทางการทหารก็จะไม่มีลดราวาศอก เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ เรื่องนี้ชัดเจน ส่วนเรื่องการทูตการเจรจา เพื่อหาข้อยุติให้ได้ เราก็ใช้กระทรวงการต่างประเทศ ทหารก็ทำหน้าที่ไป กระทรวงการต่างประเทศก็ทำหน้าที่ไป ใช้องคาพยพทุกด้าน ที่จะทำให้ความสัมพันธ์ 2 ประเทศ สู่จุดที่เป็นปกติ เหมือนก่อนที่จะมีปัญหาความขัดแย้ง
เมื่อถามถึงเรื่องคุณสมบัติของว่าที่รัฐมนตรี หากใครไม่ผ่านจะต้องหลีกทางเลยหรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะก่อนที่จะบอกว่า ไม่ผ่าน ก็แต่งตั้งไม่ได้ เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
ส่วนที่มีการจับตา ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นพิเศษ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าเพิ่งระบุว่าเป็นคนใด เราระบุชื่อไม่ได้ ต้องตรวจสอบก่อน ชื่อตนก็ต้องถูกส่งไปตรวจสอบเหมือนกัน
เมื่อถามว่า อายุไขรัฐบาล มีเพียง 4 เดือน จะยึดหลักอะไร ในการเลือกคนที่มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี นายอนุทิน กล่าวว่า ทำได้เร็วทำได้เลย ถึงต้องเลือกคนที่มีประสบการณ์ และจะสังเกตได้ว่า ตนไม่ได้เชิญคนที่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง ไม่ได้เป็นนักการเมืองอาชีพ เข้ามาหลายตำแหน่ง แต่ต้องผสมทางการเมืองด้วย เพราะการเกิดขึ้นของรัฐบาลนี้ ก็เกิดจากพรรคการเมือง เพราะเราชัดเจนว่า เข้ามา 4 เดือนยุบสภา เพราะฉะนั้นต้องตอบโจทย์ทางการเมืองด้วยเช่นกัน พยายามหาคนที่มีความรู้ความสามารถ เฉพาะด้านให้มากที่สุด โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ
เมื่อถามว่า ตอนนี้คนชม ครม.เศรษฐกิจ นายอนุทิน ย้อนถามว่า แล้วชมคนตั้งด้วยหรือไม่ ก่อนจะยอมรับว่า ได้มีการทาบทาม นางศุภจี สุธรรมพันธ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติ เนื่องจากเข้ามาในช่วงสุดท้าย เพิ่งส่งรายชื่อไปต้องรอการตรวจสอบ
เมื่อถาม ว่ามีมือกฎหมายจำนวนมาก เหตุใดจึงเลือก นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เข้ามาเป็น รองนายกรัฐมนตรีดูด้านกฎหมาย นายอนุทิน กล่าวว่า สมัยตนเข้ามาเป็นรัฐมนตรีครั้งแรก นายบวรศักดิ์เป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายให้โทรมาแจ้งตนว่า ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการ ก็เคารพนับถือท่านมาตั้งแต่ตอนนั้น และจะให้มาทำเรื่องรัฐธรรมนูญด้วย ซึ่งนายบวรศักดิ์มีส่วนในการยกร่างรัฐธรรมนูญ และที่ตนต้องย้ายทะเบียนบ้านไปจังหวัดบุรีรัมย์ หลังกำหนดในรัฐธรรมนูญว่า สส.บัญชีรายชื่อจะต้องอยู่ในพื้นที่ด้วย แต่ก็ได้มีการเตรียมพร้อมไว้ และที่มีหลายคนบอกว่า ตนย้ายไปบุรีรัมย์เพราะเกี่ยวข้องกับเขากระโดงไม่ใช่เลย แต่ย้ายไปเพราะเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ แม้จะไม่ได้ใช้รัฐธรรมนูญ ฉบับนั้นก็ตาม แต่เราก็ต้องเผื่อไว้ก่อน จึงไม่ต้องสงสัยว่า เกี่ยวอะไรกับเขากระโดง
เมื่อถามว่า การมีอายุเพียง 4 เดือน รู้สึกกดดันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีอะไรกดดัน แต่กดดันตัวเองมากกว่า การทำงานในส่วนที่ต้องรับผิดชอบคือ แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง ซึ่งเป็นความถนัดของตนอยู่แล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาก็ได้ทำหลายอย่าง และได้ประสานทุกกระทรวงร่วมกัน
ขณะที่รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ นายอนุทิน ระบุว่า จะให้นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ นั่งรองนายกฯ ควบกระทรวงการคลัง เพราะการเป็น รมว.คลัง จะต้องไปพูดคุยในเวทีโลก การสวมบทบาทรองนายกฯ เพิ่มโอกาสมากกว่าเป็นรัฐมนตรีปกติ แล้วการจะได้รับความน่าเชื่อถือจากนานาชาติ จะเพิ่มมาอีก ระดับหนึ่ง
เมื่อถามว่า จะนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ เมื่อใด นายอนุทิน กล่าวว่า ทันทีที่ตรวจสอบประวัติเสร็จสิ้น ตอนนี้ก็พร้อมที่จะดำเนินการต่อ