
8 กันยายน 2568 อ.กฤษฎา บุญเรือง นักวิชาการจากสหรัฐฯ วิเคราะห์การบินไป "ดูไบ" ของ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเจ้าตัวยืนยันมาแล้วว่าจะกลับประเทศไทยภายในวันที่ 8 กันยายน 2568 เพื่อจะไปขึ้นศาลรับฟังคำตัดสินคดีบังคับโทษชั้น 14 รพ.ตำรวจ ในวันที่ 9 กันยายน 2568 กรณีดังกล่าวหลายคนเฝ้าจับตาดูว่า "ทักษิณ" จะกลับมาตามที่บอกไว้จริงหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีการตั้งข้อสังเกตจากหลายฝ่าย เรื่องการบินไปต่างประเทศอย่างกระทันหันโดยอ้างเรื่องไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กร่างกาย เหตุใดจึงบังเอิญไประหว่างที่มีการโหวตเลือกนายกฯคนใหม่ รวมถึงเป็นช่วงที่กำลังจะมีการตัดสินคดีของคุณ "ทักษิณ"
โดย อ.กฤษฎา ระบุว่า อดีตนายกรัฐมนตรีและผู้นำตัวจริงของพรรคเพื่อไทย นายทักษิณ ชินวัตร ประกาศแล้วว่าจะเดินทางกลับไทยในวันที่ 8 กันยายน เพื่อมาขึ้นศาลในวันที่ 9 กันยายน
แต่สังคมยังไม่แน่ใจว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และแทบทุกสายตาจะจ้องมองการเดินทางของเที่ยวบินและจะไม่เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์จนกว่าจะลงจอดที่ไทยแล้ว
หากทักษิณแสดงความกล้าหาญกลับมารับเคราะห์กรรมที่ไทย ไม่ว่าจะมีอิสรภาพหรือถูกกักกันภายในบ้านหรือเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ก็จะมีประสิทธิภาพมากกว่าการอยู่ในต่างประเทศในการประสานงานกับเครือข่าย และใช้ทรัพยากรต่างๆ เพื่อสู้คดีในปัจจุบันและอนาคตซึ่งมีรออยู่มากมาย
ทรัพย์สินต่าง ๆ เกี่ยวข้องกับไทยเป็นจำนวนมาก และหากลี้ภัยไปต่างประเทศอีกครั้ง จะทำให้ความเกรงใจของผู้รักษากฎหมายและศัตรูต่าง ๆ ลดน้อยลง อาจนำมาสู่อันตรายต่อทรัพย์สินและเครือข่ายต่างๆทั้งส่วนตัวและส่วนรวมทั้งภาคเศรษฐกิจและการเมือง
การกลับมาไทยตามที่ได้ประกาศสัญญาไว้ทางโซเชียลมีเดียแล้วจะแสดงถึงความกล้าหาญ และยังรักษาความมั่นคงของพรรคเพื่อไทยและกลุ่มสนับสนุนได้บางส่วน
เรื่องนี้สำคัญมากสำหรับคนที่มีความเชื่อมั่นในตนเองสูงและคำนึงถึงเกียรติภูมิของตนต่อไปในอนาคต แต่หากไม่กลับมา จะแสดงถึงความขลาดกลัวและความเห็นแก่ตัว ซึ่งหมายถึงพรรคเพื่อไทยจะเสื่อมลงถึงระดับที่ได้ไม่ถึง 50 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งหน้า
การกลับมาอยู่ไทยแม้จะเสี่ยงต่อการถูกจำกัดอิสรภาพหรือมีอันตรายต่อชีวิตอย่างที่เคยระแวงไว้ แต่อาจจะดีกว่าอยู่ต่างประเทศเช่นที่เคยผ่านมาเป็นเวลา 17 ปี ทั้งนี้มีแนวโน้มว่ารัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ. 2560 กำลังถูกปรับเปลี่ยน ซึ่งอาจนำมาสู่การกดปุ่มเริ่มต้นใหม่ในการยอมรับของสังคมไทย หรือการให้อภัยโทษตามกฏหมายต่างๆ และอาจไม่สายเกินไปที่นายทักษิณเองจะกลับเข้ามาเป็นผู้นำฝ่ายบริหาร และเป็นผู้นำพรรคการเมืองด้วยตนเองโดยอายุ 76 ปี (ฝากความหวังที่คะแนนสงสารและการลืมง่ายของชาวไทย)
***หมายเหตุ
วันที่ 8 กันยายน แทบทุกสายตาจะจับจ้องเที่ยวบินพิเศษสุดในประวัติศาสตร์จากดูไบเข้ากรุงเทพ ซึ่งกลายเป็นข่าวใหญ่อันดับหนึ่งในยุคโซเชียลมีเดีย และดูดออกซิเจนของการสื่อสารออกไปจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครื่องบินออกตามเวลาหรือไม่ หรือมีชื่อรายชื่อของผู้โดยสารเป็นใครบ้าง หรือมุ่งหน้าตรงมาที่กรุงเทพหรืออ้อมไปเมืองอื่นก่อน หรือมีการส่งข้อความออนไลน์ระหว่างอยู่บนเที่ยวบินหรือไม่และมีการเตรียมตัวรับที่สนามบินปลายทางที่กรุงเทพอย่างไร โดยใคร และมีความตื่นเต้นตึงเครียดมากเพียงใด
วันที่ 8 กันยายน จะกลายเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ของการเมืองไทยอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งข่าวทักษิณจะกลับไทยหรือไม่จะแย่งชิงพื้นที่หรือกลบข่าวของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ "อนุทิน1"
ซึ่งเป็นการย้ำเตือนว่านายทักษิณเป็นบุคคลที่มีพลังสูงมากที่สามารถเรียกร้องความสนใจของชาวไทย ทั้งฝ่ายสนับสนุนและต่อต้าน รวมทั้งอำนาจของรัฐและอำนาจลึก ซึ่งความสนใจเหล่านี้อาจเป็นสิ่งที่นายทักษิณแสวงหาตลอดเวลา และใช้เป็นพลังงานได้ผลมาเป็นเวลานานแล้วก็ได้