เช็กเครดิต ภท.ก่อนลงมติเลือกนายกฯ กับภารกิจยุบสภาใน 4 เดือน

แม้จะยังไม่มีความชัดเจนจากพรรคประชาชนว่า จะมีมติสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูร หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ภายหลังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่งจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมาหรือไม่

 

โดยมีหนึ่งในคำถามที่สมาชิกพรรคประชาชน สอบถาม คือจะสามารถเชื่อใจพรรคภูมิใจได้มากน้อยเพียงใดว่า จะรักษาคำพูด โดยเฉพาะ "การยุบสภา" ภายในเวลาที่ตกลงกันไว้

หากย้อนดูพรรคภูมิใจไทยมักจะตอกย้ำจุดขาย “พูดแล้วทำ” โดยเฉพาะในการเลือกตั้งปี 2566 โดยชูว่าเป็น DNA ของพรรค ที่จะขับเคลื่อนนโยบายที่เคยให้คำมั่นสัญญาไว้ต่อประชาชนและสามารถทำสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม

 

หนึ่งในนโยบายที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ การผลักดัน "กัญชา" ออกจากบัญชียาเสพติด เพื่อใช้ประโยชน์ด้านการแพทย์ วิจัย และเศรษฐกิจครัวเรือน แม้จะยังมีเสียงถกเถียงเรื่องมาตรการควบคุม แต่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่เกิดขึ้นจริงตามคำประกาศของพรรค

อีกผลงานสำคัญคือ การแก้กฎหมายกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ "กยศ." โดยยกเลิกดอกเบี้ย และค่าปรับผิดนัด ทำให้ผู้กู้สามารถชำระหนี้ได้โดยไม่ถูกซ้ำเติม

 

ด้านสาธารณสุขเดินหน้าโครงการ "หมอครอบครัว" และเพิ่มแพทย์ประจำตำบล รวมถึงปรับค่าตอบแทนให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เพื่อเสริมกำลังบุคลากรด่านหน้า 

 

ขณะเดียวกัน ยังแก้ปัญหารถโดยสารและการใช้แอปเรียกรถ เช่น Grab ให้เข้าสู่ระบบกฎหมาย ลดข้อขัดแย้งระหว่างผู้ประกอบการดั้งเดิมกับแพลตฟอร์มสมัยใหม่ โดยเป็นการชูประเด็นที่จับต้องได้ “พูดแล้วทำ” แต่บทพิสูจน์บทใหม่หลังจากนี้ คือการรักษาคำพูดในการขอเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชน เพื่อแลกกับเสียงโหวตนายกรัฐมนตรี โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ การยุบสภาภายใน 4 เดือน