“โล่มนุษย์นำทหาร” โมเดลหนองจาน “สงครามเบ็ดเสร็จ”

28 สิงหาคม 2568 สถานการณ์ที่บ้านหนองจาน หากวิเคราะห์ด้วย “ทฤษฎีสงคราม” ต้องบอกว่า สิ่งที่เขมรเปิดแนวรบกับไทย เป็นสงครามรูปแบบใหม่ที่ไปไกลกว่า “สงครามลูกผสม” หรือ “สงครามแบบผสมผสาน” ที่ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Hybrid Warfare เสียอีก แต่สิ่งที่ฮุนเซนใช้ คือ “สงครามเบ็ดเสร็จ” หรือ Total War กันเลยทีเดียว โดยมี "สงครามไฮบริด" แฝงอยู่ด้วยอีกชั้นหนึ่ง 

ความต่างของสงคราม 2 รูปแบบนี้ ค่อนข้างชัดเจน แม้จะมีบางส่วนคล้ายคลึงกันก็ตาม 

สงครามไฮบริด  เป็นแนวคิดร่วมสมัย ใช้เพื่ออธิบายการทำสงครามที่ผสมหลายรูปแบบเข้าด้วยกัน ได้แก่

• การรบทางทหารปกติ (ใช้ทหาร, อาวุธ)
• การรบแบบกองโจร / ผู้ก่อความไม่สงบ
• การโจมตีทางไซเบอร์
• การบิดเบือนข้อมูล / การโฆษณาชวนเชื่อ
• การกดดันทางเศรษฐกิจและการทูต

 
จุดมุ่งหมาย เพื่อทำลายศัตรูโดยไม่จำเป็นต้องทำสงครามเต็มรูปแบบ เปิดศึกได้แบบ “อยู่กึ่งกลาง” ระหว่างสันติภาพกับสงคราม พูดง่ายๆ คือไม่ได้ประกาศสงครามอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งกรณีของไทยกับกัมพูชา ก็อยู่ในนิยามนี้เช่นกัน กล่าวคือ มีการบุกแบบไม่ประกาศสงคราม, มีการใช้กองกำลังไม่เป็นทางการ, มีการโฆษณาชวนเชื่อ เป็นต้น 

สงครามเบ็ดเสร็จ หรือ Total War นักทฤษฎีสงครามที่ชื่อ "เอริช ลูเดนดอร์ฟ" อธิบายเอาไว้ในตำรา เน้นว่า 

• สงครามสมัยใหม่ต้องใช้ทรัพยากรของชาติทั้งหมด
• ไม่มีเส้นแบ่งระหว่างแนวหน้า คือ “ทหาร” กับ แนวหลัง คือ “ประชาชน” 
• อำนาจทหารต้องอยู่เหนือพลเรือน
• สังคมทั้งหมดต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา และสนับสนุนฝ่ายทหาร บางกรณีทำบทบาทเป็นแนวหน้า

 • เป้าหมายคือชัยชนะเด็ดขาดเท่านั้น ไม่ใช่สันติภาพแบบประนีประนอม

สรุปความแตกต่างระหว่าง สงครามไฮบริด กับ สงครามเบ็ดเสร็จ คือ 

•  สงครามไฮบริด ใช้หลายวิธีรวมกัน ทั้งทหารและไม่ใช่ทหาร เพื่อบ่อนทำลายศัตรู โดยเลี่ยงการทำสงครามเต็มรูปแบบ
• สงครามเบ็ดเสร็จ ใช้ทรัพยากรทุกด้านของสังคมเพื่อทำสงครามเต็มรูปแบบ, ไม่เหลือเส้นแบ่งระหว่างทหารกับพลเรือน