
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบปราะมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2569 ภายหลังคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ พิจารณาแล้วเสร็จ ในวาระที่ 2 และ 3 ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2
โดยในระหว่างการพิจารณางบประมาณของกระทรวงคมนาคม ในวาระที่ 2 มาตราที่ 15 ปรากฏว่า เสียง สส.พรรคร่วมรัฐบาล ที่เห็นด้วยกับการปรับแก้ของกรรมาธิการเสียงข้างมาก เหลือเพียง 248 คน จาก สส.ทั้งหมด 492 เสียง ซึ่งแสดงว่า มีเสียง สส.พรรคร่วมรัฐบาล มากกว่าครึ่งหนึ่งขององค์ประชุม 246 เสียงอยู่เพียง 2 เสียง
ทำให้นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ได้ลุกขึ้นหารือต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ขอให้รัฐบาล ดูแลองค์ประชุมด้วย พร้อมยืนยันว่า ฝ่ายค้าน พร้อมให้ความร่วมมือเป็นองค์ประชุม และแสดงตนมาโดยตลอด แต่จากการลงมติดังกล่าว ทำให้เห็นได้ว่า ฝ่ายรัฐบาล เหลือองค์ประชุมเพียง 248 คน หากกลับไป 2-3 คน ฝ่ายค้านก็ไม่มั่นใจว่า จะสามารถช่วยแบกองค์ประชุมได้หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ ก็เคยระบุว่า ไม่เคยต้องยืมจมูกฝ่ายค้านหายใจ (ตามการให้สัมภาษณ์ของนายเชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เคยให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา) ซึ่งหากถึงเวลาแล้ว อาจจะต้องมาอ้อนวอนฝ่ายค้านช่วยต่อลมหายใจให้
ทำให้นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นตอบโต้ โดยได้ขอบคุณฝ่ายค้าน ที่เป็นห่วง และเชื่อว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะมีความมั่นคง รับผิดชอบองค์ประชุม และมีจมูกหายใจ ไม่จำเป็นต้องไปพึ่งจมูกใคร
แต่นายปกรณ์วุฒิ ได้ลุกขึ้นตอบโต้กลับ โดยยืนยันว่า ฝ่ายค้าน จะไม่แสดงตนได้ หากพรรคร่วมรัฐบาล สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ในการช่วงการนับองค์ประชุม ก่อนการลงมติหลังจากนั้น ฝ่ายค้าน ก็ไม่ได้แสดงตนก่อนการลงมติ แม้จะนั่งอยู่ภายในห้องประชุมด้วย เช่น มาตรา 16 งบประมาณกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มี สส.แสดงตน 256 คน ลงมติ 395 คน โดยที่ฝ่ายค้าน ไม่ได้ร่วมแสดงตน, มาตรา 17 มี สส.แสดงตนเพียง 262 คน ลงมติ 390 คน โดย สส.ฝ่ายค้าน ไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม
จนในบางช่วง นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ได้แจ้งต่อประธานในที่ประชุม ให้รอองค์ประชุมด้วย เนื่องจาก มี สส.ส่วนหนึ่งติดตามการประชุมอยู่ที่ห้องทำงานส่วนตัว หรือที่ห้องอาหาร สส.และกำลังเดินมาในห้องประชุม เพื่อแสดงตน
ทั้งนี้ ในช่วงก่อนการลงมติพิจารณางบประมาณของกระทรวงพลังงาน มาตรา 18 มี สส.แสดงตนเพียง 255 คน เนื่องจาก ฝ่ายค้าน ไม่ได้ร่วมแสดงตนด้วย แต่ในการลงมติกลับมี สส.ร่วมลงมติถึง 390 คน ทำให้นายมังกร ยนต์ตระกูล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ได้ลุกขึ้นหารือต่อที่ประชุมต่อจำนวนดังกล่าว ซึ่งนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า เมื่อนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ระบุไม่ต้องพึ่งฝ่ายค้านเป็นองค์ประชุม และในทางปฏิบัติฝ่ายรัฐบาล จะต้องเป็นหลักในการเป็นองค์ประชุมอยู่แล้ว ดังนั้น ฝ่ายค้าน จึงยืนยันว่า จะเข้าร่วมการพิจารณาร่างงบประมาณ แต่จะยังคงร้องเพลงเดิมคือ “อยู่อย่างไร้ตัวตน” ถ้ารัฐบาลครบองค์ประชุม ฝ่ายค้านก็พร้อมจะลงมติ แต่ถ้าองค์ประชุมไม่ครบ รัฐบาล จะต้องรับผิดชอบ