
8 สิงหาคม 2568 นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัคร สว. และอดีต สส.มหาสารคาม ทำหนังสือถึง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคนาคม ที่กำกับดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เรื่องขอให้ดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายกรณีที่ดินเขากระโดง ระบุว่า
ด้วยกระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งเพิกถอนโฉนดบริเวณเขากระโดง จำนวน 5,083 ไร่ นั้น การรถไฟแห่งประเทศไทย ในฐานะเจ้าของสิทธิ์ของที่ดินดังกล่าว หลังจากกรมที่ดินมีคำสั่งให้เพิกถอนการออกโฉนดโดยมิชอบ การรถไฟมีอำนาจหน้าที่ ที่จะดำเนินการดังต่อไปนี้
มีอำนาจไปแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญากับผู้อยู่อาศัยโดยไม่มีสิทธิ์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 362 เพราะการอยู่อาศัยในที่ดินดังกล่าวเป็นการอยู่อาศัยโดยไม่มีสิทธิ์ เป็นการบุกรุกที่ของการรถไฟและไม่ใช่กรณีที่ดินที่มีข้อพิพาท จึงสามารถดำเนินคดีอาญาได้ ไม่ใช่เรื่องขาดเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 ดำเนินคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายได้ทุกราย เป็นการอยู่อาศัยโดยไม่มีสิทธิ์ เป็นการกระทำละเมิดกับที่ดินของการรถไฟ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ออกคำสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด ถ้าฝ่าฝืนก็มีความผิดตามกฎหมายอาญา ฐานขัดฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงาน ถ้าไม่ยอมรื้อก็ให้การรถไฟตั้งกรรมการรื้อถอน โดยเรียกค่าเสียหายจากผู้อยู่โดยไม่มีสิทธิ์ เป็นการดำเนินการทางคดีปกครอง ผู้อยู่อาศัยโดยไม่มีสิทธิ์จะบอกว่าเป็นคดีที่มีข้อพิพาทกันอยู่ จึงไม่มีสิทธิ์ที่จะดำเนินคดีทั้งแพ่ง ทั้งอาญา และคดีปกครองนั้นจะต่อสู้ไม่ได้ เพราะคดีนี้ศาลฎีกาได้ตัดสินไว้ชัดแจ้งแล้ว ไม่ต้องมีการรังวัด ยกเว้นชาวบ้านที่อยู่บริเวณขอบๆ แต่กรณีของตระกูลชิดชอบและอนุทินนั้น อยู่กลางที่ 5,083 ไร่ และคดีนี้ได้มีการดำเนินฟ้องร้องที่ศาลปกครอง
ซึ่งศาลปกครองได้วินิจฉัยขี้ขาดไว้แล้วนักการเมือง หรือชาวบ้านที่บุกรุกจะฟ้องก็ถือเป็นการดำเนินคดีซ้ำตามหลักกฎหมาย ไม่สามารถดำเนินคดีได้ และหากให้มีดำเนินการลักษณะยืดหยุ่นหรือประนีประนอมเรียกมาทำสัญญาเช่า ซึ่งสำหรับนักการเมืองไม่น่าดำเนินการเพราะกระทำการในลักษณะที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรงและไม่เกรงกลัวกฎหมาย มีการท้าทายตลอดระยะเวลา ใช้อำนาจทางการเมือง
ในขณะที่คนของตัวเองเป็นรัฐมนตรีคมนาคมและรัฐมนตรีมหาดไทย เป็นการทำลายหลักนิติธรรมและนิติรัฐอย่างร้ายแรง จึงไม่สมควรให้เช่าซ้ำ ยังมีการไม่ยอมรับ มีการแถลงข่าวตอบโต้ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568
การแสวงหาผลประโยชน์ในที่ดินที่ตนทราบอยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิ์ เช่น ปล่อยให้บุคคลอื่นเช่าเป็นเวลา 30 ปี มีการสร้างตลาดและสร้างโรงแรม รายได้ก็เป็นผลประโยชน์ส่วนตัว รวมถึงการสร้างสนามแข่งรถเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว สมควรจะดำเนินคดีตามความผิด
และนักการเมืองซึ่งมีทะเบียนบ้านอยู่ในบริเวณเขากระโดง ทั้งที่รู้ว่าศาลทั้ง 3 ศาล คือศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา แต่ละศาลได้ต่อสู้ใช้เอกสาร หลักฐานพยานบุคคล และเอกสารต่างๆในการต่อสู้ว่าเอกสิทธิ์ได้มาอย่างไร เป็นอันพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า ทุกศาลได้ตัดสินในแนวทางเดียวกัน คือ ที่ดินบริเวณเขากระโดงเป็นของการรถไฟโดยชอบธรรมเป็นที่ประจักษ์ แต่ด้วยเหตุใด มีนักการเมืองซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157
ดังนั้น การรถไฟสมควรฟ้องร้องนักการเมือง ในความผิดตามมาตรา 157 และความผิดฐานละเมิดโดยเร่งด่วนด้วย เพื่อให้กฎหมายคือกฎหมาย เป็นหลักให้ประเทศ และชดใช้การรถไฟโดยให้บริษัทประเมินมาประเมินค่าชดใช้ย้อนหลัง ขณะที่ได้บุกรุกทำประโยชน์ เพื่อเป็นบรรทัดฐานกับประเทศไป จึงเรียนมาเพื่อดำเนินการโดยเร่งด้วยด้วยจักขอบคุณยิ่ง