สส.ร่มธรรม ถามสด "ชัยชนะ" ตอบชัด สธ.เดินหน้าบำบัดยาเสพติดเชิงรุก

7 สิงหาคม 2568 นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาและบำบัดยาเสพติดของประเทศไทย โดยมี นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมช.สธ.) เป็นผู้ตอบ ซึ่งการอภิปรายครั้งนี้ได้เปิดเผยถึงแผนงานและนโยบายเชิงรุกของรัฐบาลในการต่อสู้กับวิกฤตยาเสพติดที่ส่งผลกระทบต่อสังคมไทยอย่างรุนแรง

นายร่มธรรม ได้เริ่มต้นการอภิปรายเพื่อชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์ยาเสพติดในประเทศ ที่เข้าขั้นวิกฤต โดยระบุว่า มีผู้ใช้สารเสพติดสะสมมากกว่า 3 ล้านคน และผู้ใช้ยาบ้ามากกว่า 1 ล้านคน ปัญหานี้ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วเข้าสู่กลุ่มเยาวชน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า แม้ประเทศไทยจะไม่ได้เป็นแหล่งผลิตโดยตรง  แต่ด้วยที่ตั้งที่ใกล้กับพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ทำให้กลายเป็นทั้งตลาดเป้าหมายและเส้นทางลำเลียงยาเสพติดที่สำคัญ จึงตั้งคำถามแรกถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาที่รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2566 ถึงปัจจุบัน

และคำถามที่ 2 ได้สอบถามถึงแนวทางในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไปอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติดให้ทั่วถึงในทุกพื้นที่

ด้านนายชัยชนะ เดชเดโช รมช.สธ. ได้กล่าวขอบคุณที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ความสำคัญกับปัญหายาเสพติด พร้อมกับยืนยันว่าการแก้ไขปัญหายาเสพติด ถือเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล โดยมีการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจนระหว่างกระทรวงมหาดไทย (ปราบปราม) และกระทรวงสาธารณสุข (บำบัดรักษา) ซึ่งเป็นแนวคิดที่มองผู้เสพเป็น "ผู้ป่วย" ที่ต้องได้รับการรักษา

โดยได้เปิดเผยตัวเลขผู้เข้าบำบัดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้เข้าบำบัดในปี 2566 จำนวน 196,535 คน ปี 2567 จำนวน 260,000 คน และถึงปัจจุบันในปี 2568 มีจำนวนแล้ว 210,000 คน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะประสบปัญหาสำคัญในจำนวนอัตราการบำบัดซ้ำที่มีถึง 130,000 คน ในปี 2567 กระทรวงฯ จึงได้ประกาศแผนเชิงรุกในปี 2569 เพื่อจัดการปัญหานี้อย่างจริงจัง ด้วยความมุ่งมั่นให้สังคมปลอดภัย โดยมาตรการสำคัญที่จะเกิดขึ้นในปี 2569 ประกอบด้วย

- การเพิ่มศูนย์บำบัด “มินิธัญญารักษ์” ซึ่งทำการขยายจำนวนศูนย์บำบัดจาก 162 แห่ง เป็น 256 แห่ง และเพิ่มความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการเปิดศูนย์บำบัดในระดับชุมชนมากขึ้น

- การเพิ่มโอกาสสร้างงาน โดยร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงเกษตรฯ สร้างงานให้กับผู้ที่ผ่านการบำบัด เพื่อป้องกันการหวนคืนสู่ยาเสพติด

- ตั้งเป้าหมายลุยชุมชนอย่างเข้มข้น ซึ่งมีการตั้งทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team: MCATT) จากกรมสุขภาพจิต เพื่อลงพื้นที่ในชุมชนให้ความรู้และสร้างความเข้าใจกับกลุ่มเปราะบางทุกสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน เป็นต้นไป

- ใช้เทคโนโลยีช่วยรักษา ผ่านเครื่อง TMS (เครื่องกระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) จาก 12 เป็น 39 เครื่อง สำหรับช่วยลดความต้องการยาให้กับผู้เข้ารับการบำบัด

- มีระบบติดตามผลผ่านแอปพลิเคชัน "ล้อมรักษ์" สำหรับให้ อสม. และผู้นำชุมชนติดตามพฤติกรรมของผู้ที่ผ่านการบำบัด ซึ่งหากพบว่ากลับไปเสพซ้ำจะถูกนำตัวกลับมารักษาอีกครั้ง

ท้ายสุด นายร่มธรรม ได้กล่าวขอบคุณสำหรับคำตอบและขอฝากรัฐบาลว่า ประชาชนอยากเห็นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเข้มงวดและจริงจัง เพื่อให้ลูกหลานได้เติบโตในสังคมที่มีความสุขและปลอดภัย พร้อมกับได้ย้ำว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืนต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกระดับ ตั้งแต่ครอบครัว ชุมชน หมู่บ้าน ท้องที่ ท้องถิ่น และหน่วยงานระดับพื้นที่ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกัน และบำบัดยาเสพติด นอกจากนี้ได้ยังเสนอแนวคิดในการเพิ่มสถานบำบัดฟื้นฟูให้กระจายไปยังแต่ละอำเภอและจังหวัดให้มากขึ้น และเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการทำงานร่วมกันในระดับนานาชาติและภูมิภาค เพื่อหาทางออกในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในระดับภูมิภาคต่อไป

ขณะที่นายชัยชนะ ได้รับปากพร้อมกับยืนยันว่า ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะทำงานร่วมกันเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้ลูกหลานของเราห่างไกลยาเสพติดและคืนคนคุณภาพสู่สังคมไทยให้ได้ในที่สุด