
5 สิงหาคม 2568 ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.สุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการด้านความมั่นคง ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับ “สงครามโดรน” ซึ่งเป็นสงครามยุคใหม่ และเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในสงครามยูเครน กับรัสเซีย
อธิบายว่า ในสงครามสมัยใหม่ กองทัพต้องพึ่งพาการใช้กำลังทางอากาศอย่างมาก / ฐานทัพอากาศจึงเป็นเป้าหมายสำคัญของการโจมตีเสมอ เพราะฐานทัพอากาศซึ่งมีเครื่องบินรบประจำการอยู่ ทั้งเครื่องบินขับไล่ และเครื่องบินทิ้งระเบิด
**ถือเป็นเป้าหมายที่มีคุณค่าในทางทหาร
**เครื่องบินรบที่จอดนิ่งอยู่บนรันเวย์ จึงเป็นเป้าหมายที่ดีของการโจมตี
**และการโจมตีที่คุ้มค่า เพราะราคาถูกกว่ามาก คือ การโจมตีด้วย “กองทัพโดรน” ซึ่งนอกจากจะมีค่าใช้จ่ายต่ำแล้ว ยังไม่มีความสูญเสีย เพราะโดรนไม่ต้องใช้นักบิน
**ถือเป็นการเปลี่ยน “เศรษฐศาสตร์สงคราม” เพราะโดรนที่ปฏิบัติการเช่นนี้ได้ มีมูลค่าราวๆ 3 พันเหรียญ แต่เครื่องบินรบ มูลค่า 250 ล้านเหรียญขึ้นไป
นอกจากนั้นโดรนยังโจมตี “พื้นที่ส่วนหลัง” ที่สนับสนุนการทำสงครามได้อีกด้วย
ขณะเดียวกัน พิษสงของโดรนก่อกวน ยังตรงตามคำกล่าวของนักรัฐศาสตร์ชื่อดังจากคอร์แนล “ซาร่าห์ อี. เครพส์” ที่บอกว่า “โดรนขนาดเล็กอาจจะไม่ใช่อาวุธของการทำลายล้างสูง แต่แน่นอนว่า โดรนเหล่านี้สร้างผลกระทบทางด้านจิตวิทยาอย่างมีนัยสำคัญ”
สอดรับกับข้อมูลจากฝ่ายทหารจากกองทัพไทย ที่บอกว่า ปัจจุบันมีโดรนนำทาง เพื่อป้องกันการตรวจจับหรือดักโจมตี แต่โดรนนำทางนี้ สามารถบังคับฝูงโดรนอีกหลายสิบลำ ตามมาโจมตีจังหวะ 2
อาจารย์สุรชาติ บอกอีกว่า การนำโดรนไปบินก่อกวนตามฐานทัพอากาศ ก็ทำให้เครื่องบินขับไล่ขึ้นบินไม่ได้ นี่คืออันตรายของโดรน และเมื่อเทียบราคา ต้องบอกว่าเป็นการลงทุนที่ต่ำมาก ในขณะที่กองทัพอากาศกำลังจะซื้อกริพเพนเพิ่มอีก 4 ลำ แต่คำถามคือ เราเตรียมพร้อมเรื่องโดรนมากแค่ไหน ทั้งเชิงรุก และเชิงรับ คือ การโจมตีด้วยโดรน กับการป้องกันการถูกโดรนโจมตี
อาจารย์สุรชาติสรุปว่า สำหรับตนแล้ว การสู้รบระหว่างไทยกับกัมพูชารอบนี้ ซึ่งมีโดรนเข้ามาเกี่ยวข้อง กำลังเป็น สงครามใหญ่ครั้งแรกของศตวรรษที่ 21 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกำลังลากไทยเข้าสู่ “สงครามสมัยใหม่” คือ “สงครามโดรน”