
19 กรกฏาคม 2568 ผ่านมาถึง 3 วันของความสับสน ทั้งที่ไม่ควรสับสน ตั้งแต่เสียงระเบิดดังที่ช่องบก วันนี้เพิ่้งมีเสียงยืนยันชัดเจนจากกองทัพภาคที่ 2 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ทุ่นระเบิดที่ทหารไทยไปเหยียบในเส้นทางลาดตระเวน คือ ระเบิดใหม่ ไม่ใช่ระเบิดตกค้าง และเตรียมประท้วงกัมพูชา
ขณะที่ ศบ.ทก. หรือ ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมี “บิ๊กเล็ก” พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาราชการแทน รมว.กลาโหม เป็น ผอ.นั้น ได้นัดแถลงด่วน (ด่วนแล้วนะ) ในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.2568) คาดว่าจะเป็นมาตรการตอบโต้กัมพูชา
ความเร่งด่วนของรัฐบาล และปล่อยเนิ่นนานมา 4 วัน ทำให้ พลโทภราดร พัฒนถาบุตร หรือ “เสธ.แมว” อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเคยคุมงานด้านนี้ในระดับประเทศ ฟันธงว่า เป็น “รีแอคชั่น” ที่ช้าเกินไปมาก
เสธ.แมว ให้เหตุผลว่า ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน การยืนยันวัตถุระเบิด หรือทุ่นระเบิด โดยใช้เวลาถึง 2-3 วัน ถือว่าช้าไป เพราะเทคโนโลยีสมัยนี้พิสูจน์ทราบไม่กี่ชั่วโมงก็ได้คำตอบแล้ว ส่วนตัวทราบตั้งแต่วันแรก และฟันธงได้เลยว่าเป็นทุนระเบิดใหม่ เนื่องจากพื้นที่ช่องบก เป็นสมรภูมิรบในอดีต ทุ่นระเบิดที่ใช้จะเป็นทุ่นใหญ่ ใช้ดักรถบรรทุกทหาร ไม่ได้ใช้สังหารบุคคล (แต่เวลารถบรรทุก หรือรถลำเลียงพลโดนระเบิด กำลังพลก็สูญเสียไปด้วย)
ฉะนั้นเมื่อพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งมีลักษณะเป็นทุ่นเล็ก เหยียบไปยังไม่ถึงแก่ความตาย / ทำให้ขาขาด จึงสันนิษฐานได้เลยว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ นอกจากนั้น การพิสูจน์ทราบในเรื่องของการ “ฝังกลบ” ว่าเป็นของใหม่ หรือของเก่า ก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากในทางวิทยาศาสตร์ แต่ไทยใช้เวลาถึง 3-4 วันกว่าจะยืนยัน
พลโทภราดร ขยายความต่อว่า เรื่องนี้สะท้อนปัญหาที่ใหญ่กว่าทุ่นระเบิด คือ ความลักลั่นในรัฐบาลแพทองธาร ซึ่งมี 3 มิติ 3 เลเยอร์ คือ
เลเยอร์ที่หนึ่ง - ระดับรัฐมนตรี - “บิ๊กเล็ก” ควรมีทั้งอำนาจและหน้าที่ ในฐานะ รมช.กลาโหม ที่รักษาราชการแทน รมว.กลาโหม แต่จริงๆ แล้ว “บิ๊กเล็ก” มีแต่หน้าที่ ไม่มีอำนาจ การไม่มี รมว.กลาโหม ในสถานการณ์แบบนี้ ก็แปลกประหลาดมากแล้ว แต่ “บิ๊กเล็ก” ซึ่งทำหน้าที่รักษาราชการแทน แทนที่จะมีอำนาจเต็ม แต่ก็ไม่มี
เลเยอร์ที่สอง - ระดับรัฐบาล - เห็นได้ชัดว่า รัฐบาลกับกองทัพ เล่นคนละคีย์ เดินคนละทาง ป่านนี้กระทรวงการต่างประเทศยังแทบไม่แสดงบทบาท ทั้งๆ ที่วันนี้ ควรแถลงทันที ไม่ใช่รอพรุ่งนี้อีก โดยกระทรวงการต่างประเทศต้องนำแถลง ให้ฝ่ายทหารมานั่ง ยืนยันข้อมูล พร้อมข้อสังเกตว่า อาจมีการลอบฝังทุ่นระเบิดตอนลอบเข้ามาขุดคูเลต หรือฝังกลบคูเลต จากนั้นต้องชี้แจงไปยังอาเซียน และร้องยูเอ็นทันที
"แต่ภาพอย่างนี้ไม่เกิดขึ้น แม้จะมี ศบ.ทก. แต่ก็เป็นฝ่ายประจำ ทำให้มีน้ำหนักน้อยกว่าฝ่ายการเมือง และยังล่าช้า ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องรอพรุ่งนี้"
เลเยอร์ที่สาม - ระดับเหนือรัฐบาล - จากปัญหาที่เกิดขึ้น เห็นได้ชัดเจนว่ารัฐบาลนี้ถูกครอบงำโดย “ผู้นำจิตวิญญาณ” ซึ่งเคยมีสายสัมพันธ์กับสมเด็จฮุนเซน การจะทำอะไรสักอย่าง จึงติดขัด แต่เมื่อวันนี้ถูกสถานการณ์บีบ จนหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็โยนความรับผิดชอบมาที่กองทัพ และ รมช.กลาโหม แต่ก็ไม่ยอมตั้ง รมว.กลาโหมอีก เชื่อว่าสถานการณ์จะดำเนินแบบนี้ต่อไป เพราะฮุนเซนอาจยังอุบไต๋อะไรบางอย่าง ทำให้ฝ่ายการเมืองของรัฐบาลเพื่อไทยไม่กล้าบุ่มบ่าม เนื่องจากกังวลกระทบผู้นำจิตวิญญาณนั่นเอง