svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

หมอตุลย์ ร้องค้านเลื่อนตำแหน่ง 2 แพทย์ตำรวจ โยงปมชั้น 14

"หมอตุลย์" ยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. ร้องคัดค้านการเลื่อนตำแหน่ง 2 แพทย์ตำรวจ โยงปมชั้น 14 หลังแพทยสภามีมติลงโทษ

7 กรกฎาคม 2568  ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)  นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อดีตแกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี  ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร. เพื่อร้องคัดค้านการเลื่อนตำแหน่ง พล.ต.ท.นพ.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร. เนื่องจากทั้ง 2 นายอยู่ระหว่างถูกสอบสวนในคดีสำคัญและมีมติลงโทษจากแพทยสภา

 

นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์

 

โดย หมอตุลย์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณีการส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มารับการรักษาที่ รพ.ตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2566 ถึง 18 กุมภาพันธ์ 2567 โดยไม่มีการส่งตัวกลับเรือนจำ ขณะนั้น พล.ต.ท.นพ.โสภณรัชต์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ใหญ่ และ พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เป็นผู้บริหารโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินใจเรื่องดังกล่าว

นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์

 

ต่อมา เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2568 คณะกรรมการแพทยสภามีมติชัดเจนว่าทั้งสองนายแพทย์ตำรวจ กระทำผิดตามข้อ 16 ของข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2565 กรณีให้ข้อมูลและเอกสารทางการแพทย์เกี่ยวกับอาการของนายทักษิณ ไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยมีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์ของ พล.ต.ท.นพ.โสภณรัชต์ เป็นเวลา 3 เดือน และของ พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เป็นเวลา 6 เดือน คำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 เป็นต้นไป

 

ขณะเดียวกัน ยังมีผู้ร้องเรียนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ในข้อหากระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่บุคคลอื่น และอยู่ระหว่างการสอบสวน

นพ.ตุลย์ กล่าวต่อว่า การมายื่นหนังสือในวันนี้ขอเรียกร้องให้ ผบ.ตร. ดำเนินการ 3 ประการ คือ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว และหากพบมูลความผิด ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงต่อไป , สั่งย้ายข้าราชการตำรวจทั้ง 2 นายออกจากตำแหน่งเดิม ไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลตำรวจโดยเด็ดขาด เพื่อเปิดโอกาสให้บุคลากรในโรงพยาบาลตำรวจที่มีข้อมูลสามารถให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช. และศาลได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องเกรงกลัว และให้ข้าราชการตำรวจทั้งสองนายทำรายงานชี้แจงกรณีการถูกสอบสวนโดยแพทยสภา และ ป.ป.ช. รวมถึงกรณีการเป็นพยานในศาลฎีกา เพื่อส่งประกอบการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายประจำปีของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ

 

นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์

 

นพ.ตุลย์ กล่าวด้วยว่า การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ควรเป็นไปอย่างโปร่งใสและยึดหลักคุณธรรม ไม่ควรปล่อยให้เกิดข้อครหา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจในขณะนี้คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งศาลมีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ และถือเป็นบุตรสาวของนายทักษิณ ชินวัตร ผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับกรณีนี้ ยิ่งทำให้ประชาชนจับตามองการแต่งตั้งโยกย้ายของตำรวจครั้งนี้อย่างใกล้ชิด

 

นพ.ตุลย์ กล่าวต่อว่า ในความเป็นจริงโรงพยาบาลตำรวจยังมีข้อมูลสำคัญที่ถูกปิดบังอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการสืบสวนสอบสวนของศาลและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เช่น กรณีระบบกล้องวงจรปิดบริเวณชั้น 14 ของโรงพยาบาลที่ระบุว่ามีปัญหาเสียหายไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งที่กล้องในจุดอื่นๆ ของโรงพยาบาลยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ นอกจากนี้ ยังมีบุคลากรของโรงพยาบาลตำรวจหลายรายที่มีข้อมูลสำคัญและต้องการให้การกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ 

 

โดย นพ.ตุลย์ เปิดเผยต่อว่า หลังจากยื่นหนังสือที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว จะเดินทางไปยังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้อีกครั้ง เพื่อให้ตรวจสอบและป้องกันไม่ให้มีการเลื่อนตำแหน่งบุคคลที่อยู่ระหว่างการสอบสวน และถูกชี้มูล ทั้งจากแพทยสภาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป