
2 กรกฎาคม 2568 ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนได้รับสัญญาณจากพรรคภูมิใจไทยให้สนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อผ่านทางตัน ว่า ให้เขาเสนอก่อน ผมก็เสนอของผมได้
เมื่อถามย้ำว่า พรรคพลังประชารัฐมีเสียงไม่ถึง 25 เสียง จะเสนอตัวเองเป็นแคนดิเดตนายกฯได้อย่างไร พล.อ.ประวิตร ให้เหตุผลว่า เพราะเมื่อวันเลือกตั้งเรามี สส.40 คน นับอันเดิม
เมื่อถามต่อว่า นายอนุทินได้ติดต่อมาขอเสียงสนับสนุนมาหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่เจอกันเลย
เมื่อถามว่า ย้ำว่า เมื่อวานนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรียุติการปฏิบัติหน้าที่หน้าที่ชั่วคราว ยังไม่ได้คุยกับใครใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังเลยๆ พร้อมส่ายหัว
เมื่อถามต่อว่าในสายตาของ พล.อ.ประวิตร ประเทศไทยจะไปต่ออย่างไร พล.อ.ประวิตร ย้อนถามกลับว่า แล้วคุณล่ะคิดอย่างไร
เมื่อถามต่อว่า ต้องเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบกลับว่า ผมให้ลาออกไปแล้ว
ด้าน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงข้อกฎหมายในการเสนอชื่อบุคคลชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า พล.อ.ประวิตร ยังมีคุณสมบัติครบที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ เพราะยึดเสียงของ สส. เมื่อครั้งที่ได้รับเลือกตั้งเมื่อปี 2566 คือจำนวน 40 เสียง เป็นไปตามรัฐธรรมนูญกำหนด หมายความว่าพรรคพลังประชารัฐ มีเสียงสส.ครบเกณฑ์แล้ว ต่อมา สส.ในพรรคเสียชีวิต ทำให้จำนวนไม่ครบเกณฑ์ที่รัฐธรรมนูญกำหนด ถือว่าไม่มีผลที่ทำให้แคนดิเดตของพรรคพลังประชารัฐขาดคุณสมบัติ เช่นเดียวกันหากพรรคใดได้ สส. ไม่ครบเกณฑ์ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ตั้งแต่ต้น ก็ไม่สามารถไปเกณฑ์ สส.เข้ามาสังกัด เพื่อให้เสียงครบตามจำนวน
เมื่อถามว่า การที่กลุ่ม สส. ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ถูกขับออกไปจากพรรคแล้ว ก็จะไม่มีผลต่อการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่มีผล เพราะเรานับเสียง สส.เฉพาะในวันที่ชนะเลือกตั้ง ตรงนี้อ้างอิงจากกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ส่วนพรรคการเมืองอื่นได้พูดคุย เพื่อประสานเปลี่ยนขั้วการเมือง เข้ามาหรือยัง นายชัยวุฒิ กล่าวว่า มี ที่ผ่านมารัฐมนตรีและสส.ของแต่ละพรรคมีการพูดคุยกันเป็นปกติอยู่แล้ว เพื่อหาทางออกให้กับการเมือง บางส่วนอยากให้มีการเปลี่ยนขั้วและตั้งรัฐบาลใหม่ ส่วนจะเป็นพรรคไหน ยังไม่ได้ข้อสรุปถึงที่สุด
เมื่อถามว่า พรรคประชาชน ออกมาเปิดเผยว่า ล่าสุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้มาพูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย แต่อยากแจ้งไปถึงพรรคประชาชน ว่า อยากให้ สส.ของพรรค หาทางออกให้กับบ้านเมือง การยึดแต่ประชาธิปไตย โดยไม่ฟังเสียงของประชาชน ไม่คิดถึงความถูกต้องไม่ได้ จึงอยากให้ฟังเสียงของทุกส่วน เปลี่ยนแปลงเพราะการเมืองมีช่องทางในการเปลี่ยนแปลงที่สามารถหาทางออกร่วมกันได้ ต้องช่วยกัน ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน
เมื่อถามย้ำว่า พรรคประชาชนระบุว่ายินดีที่จะสนับสนุนนายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ข้อเสนอนี้เป็นทางออกหนึ่ง
ส่วนที่พรรคประชาชนมีจุดยืนเรื่องการเรียกร้องให้ยุบสภา นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การยุบสภาต้องเป็นปัญหากรณีที่สภามีปัญหา และไม่สามารถทำหน้าที่ได้ แต่ขณะนี้ สส.ไม่ได้ทำผิด แต่คนที่ทำผิดคือนายกรัฐมนตรีดังนั้นต้องแก้ไขด้วยการเปลี่ยนตัวนายกฯ
”ไม่ได้ตะแบงว่าพรรคพลังประชารัฐไม่อยากเลือกตั้ง เพราะถ้ามีการเลือกตั้งเกิดขึ้นจริงพรรคก็พร้อม แต่วันนี้ปัญหาไม่ได้เกิดจาก สส. ถ้าเปลี่ยนรัฐบาล สส.ก็ยังทำงานต่อได้ ตรงนี้คือแนวทางตามระบอบประชาธิปไตย“ นายชัยวุฒิ กล่าว