
การประกาศรายชื่อครม.แพทองธาร 1/1 เมื่อเช้าวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 หนึ่งในปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ คือ เเพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หรือ สร.1 นั่งควบรมว.วัฒนธรรม นับเป็นหัวหน้ารัฐบาลคนที่สอง ของประวัติศาสตร์การเมืองไทย เฉกเช่นยุคที่จอมพลป.พิบูลสงคราม นั่งควบเก้าอี้สร.1เเละรมว.วัฒนธรรมเป็นคนเเรก
ข้อมูลจากเว็บไซต์กระทรวงวัฒนธรรม ระบุว่า วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2495 ได้มีการจัดตั้งกระทรวงวัฒนธรรมอย่างเป็นทางการ ในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในขณะนั้น และมีที่ตั้งอยู่ที่บ้านพิษณุโลก
จากนั้นได้ย้ายไปอยู่ที่บริเวณสนามเสือป่า พระนคร ได้ประมาณ 6 ปี 5เดือน ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จนกระทั่งกระทรวงวัฒนธรรม ได้ถูกยุบและลดฐานะบทบาทเป็นเพียงแค่กองวัฒนธรรม สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และในเวลาต่อมาได้ถูกโอนไปสังกัดกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ
อย่างไรก็ตาม ในยุครัฐบาลไทยรักไทยที่มีทักษิณ ชินวัตร ทำหน้าที่นายกฯ ได้มีแนวคิดปฏิรูประบบราชการ และได้มีการกำเนิดกระทรวงวัฒนธรรมขึ้นมาอีกครั้ง โดยมีการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม เริ่มใช้ในเดือน ตุลาคม 2545 เเละพบว่ารัฐบาลไทยรักไทยได้เพิ่มกระทรวงใหม่ๆจาก 13 กระทรวง ขยับเป็น 20 กระทรวง โดยกระทรวงวัฒนธรรมคือหนึ่งในกระทรวงใหม่ที่เเยกจากกระทรวงศึกษาธิการเเละอื่นๆมาตั้งเป็นกระทรวงนี้อีกครั้งหลังโดนยุบไปช่วงรัฐบาลจอมสฤษดิ์ ธนะรัชต์
กระทั่งการปรับครม.แพทองธาร 1/1 ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ชื่อของแพทองธาร ชินวัตรได้ถูกบันทึกไว้ว่า เป็นผู้นำประเทศคนที่สองที่นั่งควบ เก้าอี้ รมว. วัฒนธรรม
สมัยเเรกนั้น ย้อนไปช่วงที่จอมพลป.พิบูลสงครามเสนอเเนวคิดตั้งกระทรวงวัธนธัม(ยุคนั้นสะกดเเบบนี้ จนนักวิชาการตำหนิว่าเป็นยุคภาษาวิบัติ) ต่อจากช่วงรัฐนิยม เพราะจอทพลป.ต้องการสร้างให้ประเทศไทยมีความอารยะทัดเทียมนานาชาติ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2482-2485) จอมพล ป. ออกคำสั่งสำนักนายกฯ หรือเรียกทั่วไปว่า “รัฐนิยม” หรือ “รัถนิยม” เพื่อให้เกิดความรักชาติและปรับปรุงวัฒนธรรมให้เหมือนอารยประเทศ
เเละหากอ่านเหตุผลที่สร.1คนปัจจุบัน นั่งควบเก้าอี้รมว.วัฒนธรรมนั้น เธอกล่าวก่อนการปรับครม.โดยยอมรับว่า“ที่จะดูกระทรวงวัฒนธรรมด้วยเพราะเป็นเรื่องของซอฟต์พาวเวอร์ อยากให้รู้ว่าจริงๆแล้วกระทรวงวัฒนธรรมไม่ใช่กระทรวงที่เป็นเกรดบี เกรดซี หรือเกรดอะไรก็ตาม แต่เป็นกระทรวงที่สำคัญมากๆที่สามารถแนะนำวัฒนธรรมของไทยได้จริงๆ และส่งออกซอฟต์พาวเวอร์ของเราได้จริง”
ซอฟต์ พาวเวอร์ คือ หนึ่งในนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งล่าสุดหากนับตั้งเเต่ปี 2566 มานั้น พบว่าพรรคเพื่อไทยส่งเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ไปเป็นนรมว.กระทรวงนี้ในช่วงเเรกของครม.เศรษฐา ทวีสิน จากนั้นไม่นานเสี่ยนิดปรับครม.โดยสลับเสริมศักดิ์ไปนั่งรมว.ท่องเที่ยวเเละกีฬาเเทนสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล โดยสุดาวรรณนั่งเก้าอี้กระทรวงนี้ในยุคครม.เศรษฐา1/1มาจนถึงครม.เเพทองธาร1 เเละการปรับครม.ล่าสุด สุดาวรรณโดนย้ายไปเป็นรมว.อุดมศึกษาฯเปิดทางให้สร.1มาขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์ พาวเวอร์ในคราวนี้
ในรายละเอียดพบว่างบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วงเงิน 3,780,600 ล้านบาทนั้น ได้ถูกจัดสรรสำหรับยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันเป็นจำนวนทั้งสิ้น 394,611.6 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นแผนงานยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ จำนวน 4,044.5 ล้านบาท
ต้องดูว่าเเพทองธารจะขับเคลื่อนซอฟต์ พาวเวอร์ให้เเจ้งเกิดในยุคที่เธอนั่งเก้าอี้วธ.1ได้เข้าเป้าหรือไม่ รอลุ้น.....