
18 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา ครม.มีมติผ่านความเห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. เพื่อเตรียมนำเสนอต่อที่ประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาต่อไป
สำหรับสาระสำคัญ ของร่างกม.ฉบับดังกล่าว ระบุว่า เนื่องจาก พระราชบัญญัติระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. ๒๕๕๑ ใช้บังคับมาระยะหนึ่งแล้ว ยังไม่มีการกำหนดคุณสมบัติแต่งตั้งผู้เป็นนายทหารชั้นนายพลในแต่ระดับชั้นยศ ทำให้การพิจารณาเป็นการใช้หลักเกณฑ์ทั่วไปไม่เกิดความแตกต่างกับความรับผิดชอบ ประกอบกับ การกำหนดองค์ประกอบของสมาชิกของสภากลาโหมสมควรมีการปรับปรุงให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
“นอกจากนี้ ยังไม่มีการกำหนดข้อห้ามไม่ให้ข้าราชการทหารใช้กำลังทหารไปกระทำการอันมิชอบด้วยกฎหมาย เช่น ยึดอำนาจ การบริหารราชการแผ่นดิน หรือกระทำการใด ๆ อันเป็นประโยชน์ส่วนตัวหรือของผู้บังคับบัญชาหรือกระทำการอันมิชอบด้วยกฎหมาย และไม่ได้กำหนดบทลงโทษสำหรับทหารที่กระทำการฝ่าฝืนข้อห้ามดังกล่าว"
จึงได้กำหนดให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีอำนาจกำหนดคุณสมบัติของผู้ได้รับแต่งตั้งเป็นนายทหารชั้นนายพล และแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของสภากลาโหมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ประกอบกับสมควรกำหนดข้อห้ามข้าราชการทหารใช้กำลังทหารไปกระทำการอันมิชอบด้วยกฎหมาย
สำหรับประเด็น การห้ามใช้กำลังทหารยึดอำนาจรัฐบาล ระบุไว้ใน มาตรา ๓๓/๑ การใช้กำลังทหารหรือข้าราชการทหารให้เป็นไปตามระเบียบแบบแผนของราชการ แต่กรณีดังต่อไปนี้จะกระทำมิได้
(๑) เพื่อยึดหรือควบคุมอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินจากรัฐบาล หรือเพื่อก่อการกบฏ
(๒) เพื่อขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ราชการที่ชอบด้วยกฎหมายของส่วนราชการต่าง ๆ
(๓) เพื่อธุรกิจหรือกิจการอันเป็นประโยชน์ส่วนตัวหรือของผู้บังคับบัญชา
(๔) เพื่อกระทำการอันมิชอบด้วยกฎหมายประการอื่นข้าราชการทหารผู้ใดได้รับคำสั่งให้กระทำการ ตามวรรคหนึ่ง ย่อมมีสิทธิที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้งนั้นได้ โดยมิให้ถือว่าเป็นความผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญาหรือทางวินัยเมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่าข้าราชการทหารผู้ใดถูกฟ้อง ถูกกล่าวหา ต้องหา หรือถูกสอบสวนว่ากระทำการหรือตระเตรียมการเพื่อกระทำการตามวรรคหนึ่ง
(๑) ให้นายกรัฐมนตรีภายใต้ความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีสั่งพักราชการผู้นั้นทันที โดยให้นำข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการทหารพักราชการมาใช้โดยอนุโลม
ทั้งนี้ ตามข้อเสนอ กระทรวงกลาโหม ภายใต้การนำของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม ยังได้ระบุว่า ประโยชน์และผลกระทบจาการปรับแก้ พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ด้วยว่า
1.เพื่อให้ประชาชนทั่วไปรับทราบหลักเกณฑ์การพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล และเชื่อมั่นในระบบราชการทหารมากขึ้น
2.เพื่อกำหนดข้อห้ามมิให้ใช้กำลังทหารให้ชัดเจนและสร้างความเชื่อมั่นในระบบราชการทหาร
3. แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของสภากลาใหญ่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
คลิกอ่าน สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบกลาโหม ฉบับเต็ม