นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะโฆษกพรรคฯ กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคฯ ขณะนี้ว่า พรรคฯ ยังไม่มีการนัดประชุมใด ๆ เพื่อแก้ปัญหา เพราะยังอยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมสภา และสส.ลงพื้นที่ โดยจะกลับมาพบกันอีกครั้งในช่วงเปิดสมัยประชุม 3 กรกฎาคมนี้
ส่วนจะมี สส.ที่เป็นคนกลางมาประสานรอยร้าวครั้งนี้หรือไม่นั้น โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ย้ำว่า ภายในกลุ่มไลน์พรรคเงียบมาก ยังไม่ได้มีการพูดคุยใด ๆ กัน และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรคฯ ได้ชี้แจงสื่อมวลชน และสังคมครบถ้วนแล้ว ซึ่งเป็นไปตามที่นายเอกนัฏชี้แจง และเชื่อว่า นายเอกนัฏ ได้ต่อสายพูดคุยกับ สส.โดยตรงแล้ว
ส่วนความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกระทบฐานเสียงในพื้นที่หรือไม่นั้น โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอให้ประชาชนติดตามข้อเท็จจริง และการชี้แจงจากเลขาธิการพรรคฯ เพราะ สส.เคารพในการปฏิบัติหน้าที่ของเลขาธิการพรรคฯ
ส่วนที่นายเอกนัฏ ระบุเป็นเอกสารเท็จ มีการปลอมลายเซ็นนั้น โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เห็นว่า เจ้าของลายเซ็นก็ควรจะต้องออกมาชี้แจงด้วยเช่นกันว่า เป็นลายเซ็นจริงหรือไม่
ส่วนกรณีที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และสส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ประกาศจะไม่มีการพูดคุยกับนายเอกนัฏแล้ว เพราะมีการล็อบบี้เพื่อล้มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรคฯ นั้น โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุว่า ตนเองยังไม่ได้ยิน และยังไม่ได้ฟัง การให้สัมภาษณ์ของนายสุชาติเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แต่เชื่อว่า จะต้องมีการพูดคุยกัน เพื่อแก้ปัญหา ปัญหาการเมืองจะต้องใช้การเมืองแก้ปัญหา เพราะทั้ง 2 คนเป็นรัฐมนตรีของพรรค เป็นผู้ใหญ่ทั้งคู่ จึงต้องพูดคุยกัน พร้อมยืนยันว่า ยังไม่เคยได้ยินดีลการล้มนายพีระพันธุ์ ออกจากหัวหน้าพรรคฯ
โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังเห็นว่า สถานการณ์ของพรรคฯ ขณะนี้ สุด ๆ แล้วควรเร่งพูดคุย และเชื่อว่า หลังจากนี้ เมื่อแต่ละฝ่ายมีการแสดงความเห็นผ่านสื่อกันมาแล้ว สถานการณ์น่าจะดีขึ้น และจะมีการพูดคุยกันในพรรค น่าจะช่วงก่อนเปิดสมัยประชุม ซึ่งน่าจะสามารถพูดคุยทำให้สถานการณ์ดีขึ้น และพรรคฯ จะสามารถไปต่อได้
ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติจะซ้ำรอยพรรคพลังประชารัฐหรือไม่นั้น โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เห็นว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ บริบทต่างกัน ทั้งบุคคล สถานการณ์ เหตุการณ์ปัจจัยแวดล้อต่าง ๆ ต่างกัน จึงขออย่าด่วนสรุปว่าจะเหมือนพรรคพลังประชารัฐ เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติ มาถึงจุดนี้ เพราะประชาชนสนับสนุน เมื่อเกิดปัญหาผู้บริหารพรรคจะต้องคิดถึงประชาชน และหันมาพูดคุยกัน หวังว่า พรรคฯ จะมีการพูดคุยกัน และนายเอกนัฏ ก็ยืนยันพร้อมดูแล สส.ทั้ง 36 คน
ส่วนที่มีการวิเคราะห์นายสุชาติ จะใช้โมเดลพรรคกล้าธรรมในการแยกตัวออกมานั้น โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ยืนยันว่า ยังไม่ได้เคยยินนายสุชาติระบุ มีเพียงสื่อมวลชนวิเคราะห์ แต่เชื่อว่า ทั้งนายสุชาติ และนายเอกนัฏ มีเจตนาดี ที่จะทำให้พรรคได้ทำงานให้กับประชาชน จึงคิดว่า การพูดคุยน่าจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ และนายเอกนัฏ ก็ยืนยันพร้อมพูดคุย เชื่อว่า เป็นสัญญาณที่ดีที่ทำให้พรรคกลับสู่สถานการณ์ปกติ