นักวิชาการ ชี้ 5 Gap ที่รัฐบาลต้องรีบถอดสลัก สถานการณ์ช่องบก

ผศ.ดร.เชษฐา ทรัพย์เย็น ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช นำเสนอความเห็นในฐานะนักวิชาการ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา จุดช่องบก จ.อุบลราชธานี ในมุมที่รัฐบาลต้องรีบดำเนินการเพื่ออุดช่วงเหลื่อม หรือ Gap เอาไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้

 

 

สถานการณ์ช่องบกทำท่าว่าจะบานปลาย เพียงแต่ไม่ใช่เฉพาะบานปลายระหว่างประเทศ แต่ที่หนักกว่าคือทำท่าจะบานปลายทาง “การเมืองภายในประเทศ” อันเนื่องมาจากการตอบสนองสถานการณ์ที่ไม่ทันควันของผู้นำและรัฐบาลไทยในสายตาของโลกสังคมออนไลน์ จึงทำให้เกิดช่วงเหลื่อม (gap) ช่องว่างของการรับรู้ที่ปรากฏต่อสายตาของสังคมไทย ประเด็นมิติความรักชาติรักแผ่นดินเกิดโหมกระหน่ำอย่างรุนแรงทางกระแสปั่นในโลกสังคมออนไลน์

ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาเราเห็นหลายครั้งหลายคราแล้วว่า มิติด้านความมั่นคงโดยเฉพาะข้อเสียเปรียบทางดินแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างกรณีเขาพระวิหาร เป็นต้น จะนำมาซึ่งความสุ่มเสี่ยงต่อความมั่นคงของรัฐบาล รัฐบาลจึงควรต้องพึงตระหนักว่าช่วงเหลื่อม (gap) ที่เกิดขึ้นนี้เป็นพื้นที่อันตรายที่จะนำมาสู่การสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาลตามมา เพราะ Gap เหล่านี้ หากรัฐบาลไม่รีบแก้ไขอุดช่องว่าง ย่อมถูกเติมเต็มด้วยอารมณ์ของสังคมที่อุดมไปด้วยความคลางแคลงสงสัย ความโกรธเกรี้ยว ความไม่เชื่อมั่น ความหมดศรัทธาที่มีต่อรัฐบาล จนอาจเกิดปัญหาต่อการนำพารัฐนาวานี้ไปอย่างยากลำบาก

 

5 Gap (ช่วงเหลื่อม) ที่รัฐบาลเพื่อไทยต้องรีบอุดรอยโหว่กรณีสถานการณ์ช่องบกดังกล่าว ได้แก่

 

1. Gap ท่าทีรัฐบาลเทียบกันสองประเทศ ที่ผ่านมาทางหน้าสื่อสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นว่ารัฐบาลกัมพูชานำโดยนายกรัฐมนตรีฮุนมาเน็ต และคุณพ่อของเขาฮุนเซ็นตอบสนองสถานการณ์ได้เร็ว เป็นมืออาชีพและมีสถานะเป็นทางการ มีผลทางกฎหมาย โดยนำเรื่องนี้ประชุมหารือกับสภาจนมีมติร่วมกันออกมาจะนำเรื่องขึ้นสู่ศาลโลก ขณะที่รัฐบาลไทยดูเงียบกว่า ไม่แข็งขันเท่าท่าทีของรัฐบาลกัมพูชา มีเพียงหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการของกระทรวงการต่างประเทศหนึ่งฉบับ

 

2. Gap ท่าทีรัฐบาลไทยเทียบกับทหารไทย ชาวโลกโซเชียลวิพากษ์อย่างเข้มข้นว่าทางกัมพูชา…รัฐบาลนำทหาร แต่ฝั่งไทย…ทหารนำรัฐบาล เนื่องด้วยทางกองทัพไทยตอบสนองสถานการณ์อย่างแข็งขันทันท่วงที อาทิ แม่ทัพภาคสองลงพื้นที่ปลุกใจทหารแนวหน้าที่ช่องบก กองกำลังบูรพาแสดงแสนยานุภาพด้วยการซ้อมรบเสมือนจริง การเคลื่อนย้ายอาวุธหนักประชิดแนวชายแดนไทยกัมพูชา เป็นต้น ขณะที่ดูเหมือนว่าท่าทีรัฐบาลไทยยังแสดงความเข้มแข็งตามหลังฝ่ายทหารหาญ

 

3. Gap ท่าทีรัฐบาลเทียบกับฝ่ายค้าน กลับกลายเป็นว่าแกนนำฝ่ายค้านคนสำคัญ อาทิ คุณเท้ง ณัฐพงศ์ คุณวิโรจน์ คุณกัณวีร์ ฯ ออกมาช่วงชิงความได้เปรียบทางจิตวิทยา แสดงท่าทีอย่างแข็งขันสนับสนุนการเล่นบทเชิงรุกของทหารไทยกรณีช่องบก พร้อมแสดงความเคลือบแคลงสงสัยต่อความจริงจังเข้มแข็งของฝ่ายรัฐบาลว่าอ่อนแอในการตอบโต้ปัญหาพิพาทชายแดนหรือไม่ ฝ่ายค้านพลิกกลับมาเล่นบทชูชาตินิยมเหนือรัฐบาล ซึ่งเห็นไม่บ่อยครั้งนักที่ผ่านมาโดยเฉพาะฝ่ายค้านชุดนี้

 

4. Gap ผลประโยชน์พรรคเทียบกับผลประโยชน์ชาติ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยกำลังถูกนำไปเปรียบเทียบว่า ณ ขณะนี้มุ่งแต่ปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี ทวงคืนกระทรวงสำคัญ เช่น มหาดไทยคืนมา โดยละเลยการรักษาผลประโยชน์ชาติที่สำคัญอย่างยิ่งยวดที่เสี่ยงต่อการสูญเสียดินแดนหรือไม่ มองว่าพรรคสำคัญกว่าชาติหรือไม่ ตรงนี้เป็นจุดเสี่ยงทางความเชื่อมั่นที่สำคัญมาก เพราะก่อนหน้านี้มีภาพสื่อออกมาหลายครั้งแสดงถึงความสนิทสนมระหว่างผู้นำทางจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทยกับผู้นำทางจิตวิญญาณของรัฐบาลกัมพูชาปรากฏให้สังคมไทยรับทราบโดยทั่วกันนั่นเอง

 

 

5. Gap ท่าทีนายกรัฐมนตรีไทยเทียบกับกรณีอื่นที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้จะปรากฏภาพออกสื่อเสมอว่าหากนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องใด ก็จะเชิญหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือที่ห้องทำงานนายกรัฐมนตรีในทำเนียบรัฐบาลเสมอ อาทิ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปลัดกระทรวง ฯลฯ แต่ในเรื่องข้อพิพาทชายแดนกรณีช่องบกนี้ ซึ่งเป็นเรื่องอธิปไตยของชาติที่สำคัญที่สุด แต่ยังไม่เห็นท่าทีนายกรัฐมนตรีที่จะหารืออย่างเร่งด่วนกับผู้บัญชาการเหล่าทัพเพื่อแสดงเจตนารมณ์และท่าทีการยึดมั่นในผลประโยชน์ชาติอย่างแข็งขัน จุดนี้เป็นสิ่งที่โลกโซเชี่ยลกำลังจับตา

 

ด้วยเหตุนี้ยังไม่สายเกินไปที่รัฐบาลจะอุดช่องโหว่ของ Gap ที่เกิดขึ้นห้าข้อนี้ โดยรีบดำเนินการให้เห็นภาพที่แข็งขันอย่างเป็นทางการ อาทิ

 

1.ประชุมคณะรัฐมนตรีและบรรจุวาระเรื่องนี้เข้าหารือเพื่อแสดงจุดยืนและท่าทีของประเทศไทยอย่างแข็งขันต่อกรณีปัญหาข้อพิพาทชายแดนช่องบกดังกล่าว และออกมาแถลงข่าวโดยมีคณะรัฐมนตรีทั้งหมดร่วมยืนปรากฏภาพต่อหน้าสื่อมวลชนด้วยว่าจะรักษาอธิปไตยของชาติอย่างถึงที่สุด

 

2.นายกรัฐมนตรีแสดงภาพการสนับสนุนการทำหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของชาติของกองทัพอย่างแข่งขัน โดยไปเยี่ยมเยือนและให้นโยบายแก่กองทัพถึงความสำคัญของการทำหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติอย่างเข้มแข็งด้วยความรอบคอบ

 

3.สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคแกนนำรัฐบาลเพื่อไทยยื่นญัตติด่วนหารือในรัฐสภา เพื่อยืนยันถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีต่อกรณีข้อพิพาททางชายแดนกรณีช่องบกนี้

ฯลฯ

 

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อเขียนนี้เป็นการแสดงความห่วงใยเพื่อให้รัฐบาลสามารถแสดงบทบาทการเป็นผู้นำในการปกป้องอธิปไตยของชาติได้อย่างเข้มแข็งและสร้างความกลมเกลียวให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนไทยได้ในช่วงเวลานี้