svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"อาจารย์นิว" ชี้เปรี้ยง "ไทย"อย่าหลงเกม"กัมพูชา" ลากไป"ศาลโลก"ยากมาก

"วีรพัฒน์ ปริยวงศ์" นักกฎหมายอิสระ ชี้สถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา หลังโหมกระแสถึงกรณีพิพาทขึ้น"ศาลโลก" โอกาสลากไทยไปศาลโลกยากมาก เตือนอย่าหลงเกม"กัมพูชา" เชื่อเหตุพิพาทปะทุ หวังผลถึงข้อเจรจาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์พื้นที่อื่น

3 มิถุนายน 2568  "นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์"  หรือ "อาจารย์นิว" นักกฎหมายอิสระ จากฮาวาร์ด  ให้ความเห็นกรณีพิพาทพื้นที่ชายแดนไทย –กัมพูชา ถึงขนาดที่ผู้นำกัมพูชา เตรียมดึงเรื่องไปศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลกว่า  การจะลากไทยไปศาลโลก เป็นเรื่องยากมาก กรณีคดีพิพาทสองรัฐหรือสองประเทศ ขึ้นศาลโลกได้ ที่ตั้งอยู่เนเธอแลนด์นั้น ศาลโลก หรือ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เป็นองค์กรหนึ่งของสหประชาชาติ อาศัยหลักกฎหมายสำคัญคือ หลักความยินยอม ถ้าตราบใดประเทศไทยไม่ได้ยินยอม จะไปด้วย ก็ไม่มีสิทธิลากประเทศไทยไป 

"ในอดีต เราเคยได้ยินศาลโลก เกี่ยวกับกรณีปราสาทพระวิหารมาแล้ว ก่อนหน้านั้น เราเคยยอมรับอำนาจศาล แต่หลังจากคดีนั้น เราก็แสดงท่าทีชัดเจนเราไม่ยอมรับ เมื่อแสดงท่าทีชัดเจนไปแล้ว โอกาสที่ประเทศไทย จะถูกบังคับขึ้นศาล แทบไม่มีเลย อาจจะมีเป็นไปได้ในทางทฤษฏี คือ มีความขัดแย้งรุนแรงบานปลายมาก จนสหประชาชาติต้องเข้ามาขอความเห็นจากศาล หรือใช้อำนาจบังคับพิเศษ หรือกฎบัตรประชาชาติ ก็ไม่ค่อยจะเห็น บริเวณชายแดนที่ตรึงเครียด แบบนี้"

ยกกรณีฉนวนกาซา ศาลโลกยังแค่ตีความ 

นายวีรพัฒน์ ที่ปรึกษา สำนักกฎหมาย VLA  ยกตัวอย่างเทียบเคียง กรณีที่ ฮุนเซน อ้างว่า หากไม่เคลียร์พื้นที่พิพาทไม่ไปศาลโลก สถานการณ์จะบานปลายเป็นแบบ ฉนวนกาซา  เรื่องนี้ อิสราเอล ฉนวนกาซา ก็รุนแรงกว่าเรา หลายเท่าตัวมีการยิงใส่กันทุกวัน มีเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา เกี่ยวข้อง กรณีนั้นรุนแรงถึงขั้นสหประชาชาติ มีองค์กรภายใน ไปขอมติส่งให้ศาลฯตีความให้ความเห็น

ขอย้ำตีความให้ความเห็น หมายความว่า ศาลฯไม่มีสิทธิบังคับหรือพิพากษาว่า อิสราเอลต้องถอนกำลัง ไม่ได้ทำอย่างนั้น แต่ศาลฯตีความว่า อิสราเอลทำอยู่ไปละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศตัวไหนหรือไม่ ซึ่งศาลฯให้ความเห็นไปแล้ว อิสราเอลจะฟังหรือไม่ฟัง ก็ไม่มีอำนาจไปบังคับอิสราเอล แต่มีเรื่องของการกดดันเวทีระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นได้ ว่าเห็นหรือไม่สังคมโลกบอกว่าคุณทำผิดกม.ระหว่างประเทศ 

"นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์"  หรือ "อาจารย์นิว" นักกฎหมายอิสระ จากฮาวาร์ด ที่ปรึกษา สำนักกฎหมาย VLA

“คราวนี้ กรณีไทย-กัมพูชา ผมไม่คิดว่าเราไปทำอะไรผิด เรากำลังมีข้อที่เห็นไม่ตรงกัน เราบอกว่าพื้นที่นี้ของเรา เขาบอกของเขา ก็ต้องเจรจากัน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ ไม่น่าต้องไปสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเลย  และความจริง ถ้าเราควรกังวลใจ ไม่น่ากังวลใจเรื่องศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ แต่เราควรกังวลใจสถานการณ์ชายแดนจะบานปลาย ตรึงเครียด มีการสูญเสียเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะเคยเกิดขึ้นมาแล้ว ครั้งที่แล้ว กรณีปราสาทพระวิหาร ต้องกลับมาตีความพิพากษา ก็มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศ จนทำให้เกิดความตรึงเครียดที่ชายแดน และเกิดการยิงปืนใส่กัน ประชาชน ทหาร ล้มตาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก"

 

เหตุผลลึกพิพาทไทย-กัมพูชา ต้องการอะไรแน่

นักกฎหมายอิสระ  วิเคราะห์สถานการณ์ที่ทำให้ชายแดนสองประเทศ ปะทุขึ้นมาว่า  เรื่องนี้เป็นปัจจัยที่ต้องวิเคราะห์การเมืองภายในประเทศของทั้งสองประเทศ  กรณีนี้ มีปัจจัยที่ทำให้ฮุนเซน , ฮุนมาเน็ต มาประเทศไทย ที่ผ่านมาได้รับการต้อนรับอย่างดี  มีกระแสข่าว ทั้งไทยและกัมพูชา คุณทักษิณ ,คุณแพทองธาร นายกรัฐมนตรี มีความสัมพันธ์ที่ดี อาจมีกลุ่มการเมืองในประเทศเขา ยกประเด็นตรงนี้ ทำให้ประชาชนเกิดความกังขา ฮุนเซน ไปสนิทสนมกับประเทศไทยมากเกินไปหรือไม่ 

"นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์"  หรือ "อาจารย์นิว" นักกฎหมายอิสระ จากฮาวาร์ด ที่ปรึกษา สำนักกฎหมาย VLA

ฉะนั้น การสร้างสถานการณ์ หรือการใส่สถานการณ์บางอย่าง มาใช้เป็นคำอธิบาย ให้ประชาชนของเขาว่า เขาไม่ได้ไปสมยอมนะ เขาเป็นผู้นำการเมืองที่เข้มแข็ง ก็อาจเป็นประเด็นการเมืองหนึ่ง ในขณะเดียวกัน ส่งผลกระทบการมืองในประเทศไทยเหมือนกัน ถูกตั้งคำถามว่า เราไปสนิท ฮุนเซน เกินไป แต่เขาแสดงท่าทีแข็งกร้าวบริเวณชายแดน

ความจริงตรงนี้ ไม่ได้ไปทำเพื่อแย่งดินแดน เพราะเราอยู่ร่วมกันมานานแล้ว ถามว่าทำไมเพิ่งมีประเด็น ช่วงนี้ อาจเป็นเพราะเป็นประเด็นการเมืองภายในประเทศ ซึ่งเราต้องไม่ไปเล่นตามเขา ซึ่งถ้าเราวิเคราะห์ว่า มีปัจจัยการเมืองภายในประเทศกัมพูชา ที่ต้องการแสวงหาความตึงเครียด เพื่อให้เขาไปอ้างว่าเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง แล้วเราไปแข็งกร้าวกลับไป อาจทำให้ไปสร้างโอกาส ให้สถานการณ์ตรึงเครียดมากขึ้น เราคงไม่ไปยอมเขา แต่เราแสดงท่าทีทางการทูต ประท้วง คัดค้าน การกระทำที่ไม่ถูกต้องของเขา แต่ไม่ไปยั่วยุให้เกิดความบานปลายสถานการณ์ที่ชายแดน 

"นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์"  หรือ "อาจารย์นิว" นักกฎหมายอิสระ จากฮาวาร์ด ที่ปรึกษา สำนักกฎหมาย VLA

สงครามโซเชียล ไทย- กัมพูชา ปะทะแรงกว่า ชายแดน 

อาจารย์นิว ยังได้กล่าวถึง การสาดสงครามทางโซเชียล สองชาติตอนนี้ ถือว่าสำคัญ เพราะตนเคยให้สัมภาษณ์ที่เนชั่นเมื่อสิบสองปีที่แล้ว กรณีปราสาทพระวิหาร จำได้ว่าเราไม่มีภาพคลิป ภาพวีดีโอ จากทหาร ในพื้นที่ ออกมารายงานผ่านสื่อเหมือนปัจจุบันนี้ แสดงว่ามีปัจจัยความเคลื่อนไหวทางข่าวสาร ซึ่งเราไม่รู้ว่า อย่างภาพคลิป  ภาพขุดดิน เราไม่ได้อยู่ในพื้นที่เราไม่ได้เห็นเราไปตีความของเราเอง  ซึ่งปัจจุบันข้อมูลข่าวสารไหลไปเร็ว  และการควบคุมข่าวสารในประเทศกัมพูชาและไทยไม่ง่ายเหมือนก่อน อันนี้คือปัจจัยหนึ่งต้องเฝ้าระวัง  

"อาจารย์นิว" ชี้เปรี้ยง "ไทย"อย่าหลงเกม"กัมพูชา" ลากไป"ศาลโลก"ยากมาก

ปมพิพาทช่องบก เชื่อมโยง เกาะกูด  

ถามว่า กรณีพิพาทตอนนี้ เป็นเพราะต้องการปลุกเร้าโยงไปถึงปัญหาเอ็มโอยู 44 พื้นที่เกาะกรูด ที่ยังค้างคาหรือไม่  อาจารย์นิว ยอมรับว่า เป็นไปได้อยู่แล้ว เรื่องทุกเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ ที่สามารถหยิบยกขึ้นมาบนเวทีเจรจา ไม่ใช่เรื่องผิด การหยิบขึ้นมาเจรจาโดยไม่ใช้กำลัง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทุกประเทศ

แต่ปัญหามีมากกว่านั้น คือความกดดันจากการเมืองในประเทศแต่ละประเทศเกื้อหนุนเข้ามา นักการเมืองบางคน กลุ่มการเมือง อาจฉวยโอกาส ว่าได้เวลา โจมตีรัฐบาล หรือรัฐบาลตื่นตระหนก ต้องแสดงท่าทีแข็งกร้าวเพราะเดี๋ยวประชาชนมองว่าอ่อนแอเกินไป ประสบการณ์มีมาแล้ว กรณีปราสาทพระวิหาร กระสุนไปตกบนหลังคาโรงเรียนในศรีษะเกษ เขาไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ไม่ได้ทะเลาะกับใคร ต้องวิ่งหนีกระสุน ก็ไม่อยากให้เกิดซ้ำขึ้นอีก  

วิเคราะห์ภาวะผู้นำ ประยุทธ์-แพทองธาร 

ถามว่า  มีข้อเสนอถึงรัฐบาลปัจจุบันต่อการแก้ปัญหานี้หรือไม่  นักกฎหมายอิสระ ท่านนี้ กล่าวว่า ลองนึกภาพดู ถ้าวันนี้คุณประยุทธ์ เป็นนายกฯ มาจากกองทัพ สามารถให้สัมภาษณ์ โยนกล้วยด่านักข่าวไทยได้ ถ้าเกิดมีคนมายั่วยุ ว่ามีคนบุกมาแล้วทำไง สถานการณ์อาจบานปลายมากกว่านี้ก็ได้นะ ผมชวนคิดด้วยเหตุด้วยผล ด้วยความที่ท่านเป็นทหาร อาจตัดสินใจด้วยอารมณ์บางครั้ง

ฉะนั้น การมีผู้นำที่เป็นสุภาพสตรี  แถมมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำเขา  เราต้องเอาจุดนี้เป็นจุดแข็งของเรา ในการพยายามใช้ศิลปะทางการทูต ซึ่งเป็นเรื่องยาก เพราะเวลาพูดอะไรแบบนี้ ประชาชนคนทั่วไปที่เขาไม่พอใจ อึดอัดมองว่ารัฐบาลซอฟต์เกินไป คือเราต้องถาม ถ้าสถานการณ์บานปลาย แสนยานุภาพทางการทหาร กัมพูชา เทียบเท่าเราได้ไหม โอกาสจะชนะเราได้ไหม อำนาจทางเศรษฐกิจ เขาแข็งขนาดจะปิดประเทศกับเราได้ไหม มันไม่ได้ 

"อาจารย์นิว"  วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ จากฮาวาร์ด  ที่ปรึกษา สำนักกฎหมาย VLA

"โดยประเมิน ความแข็งของเรา คิดว่าเขาเอง ต้องการสร้างสถานการณ์ยั่วยุ ว่าเรารังแกประเทศที่อ่อนแอกว่าเราไม่ต้องไปหลงเกมตามนั้น มันอาจไม่ถูกใจกองเชียร์ แต่มีความจำเป็นบางอย่าง เพราะ ถ้าเกิดไปแสดงพลังแข็งกร้าว แล้วมีคนตายขึ้นมา ทันทีมีคนตายจะแรงขึ้นทวีคูณ จะเกิดกระแสเรียกร้องการเมืองภายในประเทศ เข้ามากดดันอีก ทำให้คลี่คลายสถานการณ์ยากขึ้น ผมเข้าใจการคลี่คลายสถานการณ์แบบนี้อาจไม่ถูกใจทางการเมือง แต่อาจเป็นความจำเป็นทางการทูต เพื่อป้องกันการบานปลาย เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อสิบสองปีทีแล้ว กรณีปราสาทพระวิหาร"  อาจารย์นิว วิเคราะห์ทิ้งท้าย