
31 พฤษภาคม 2568 กลายเป็น “สัญญาณ” ร้อนทางการเมืองที่มีนัยยะสำคัญ จากคำสัมภาษณ์ของอดีตนายกฯ ทักษิณ แม้จะสมมติตัวเองเป็น “บก.คนที่ 4” ในรายการ “3 บก.” แต่การพูดออกไมค์ ผ่านสื่ออย่างเป็นทางการ จะบอกว่าพูดเล่น ไม่ถือเป็นสาระ…คงไม่ได้
โดยเฉพาะสถานะ “สทร.” ของ นายทักษิณ ใครๆ ก็รู้ว่าไม่ใช่แค่ “สุดที่รัก” หรือ “แส่ทุกเรื่อง” แต่เป็น “สุดทุกเรื่อง” คือ คำตอบสุดท้ายของรัฐบาล และผู้กำหนดทิศทางการเมืองตัวจริง ในบริบทการเมืองปัจจุบัน
NationTV จึงวาด “แผนที่เดินทาง” หรือ Roadmap การเมืองนับจากนี้ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยถอดรหัสจาก “ระหว่างบรรทัด” ของบทสัมภาษณ์ + การพูดคุยนอกรอบที่ไม่เป็นข่าว + ข้อมูลจากคนแวดล้อมคุณทักษิณ + ข้อมูลจากผู้มีอำนาจในรัฐบาล
- นายทักษิณส่งสัญญาณชัดเจนเป็นครั้งแรกก่อนรอสัญญาณกรมอุตุฯ วันที่ 3 มิ.ย.
- วันที่ 3 สำคัญอย่างไร คงต้องไปช่วยกันนึกเอาเอง จะมีอะไรเกิดขึ้นในวันนั้น นำมาสู่ “พยากรณ์อากาศทางการเมือง”
1 มิ.ย. จะมีการเชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคไปพบ เพื่อ “แจ้งให้ทราบเบื้องต้น” ถึงแนวทางการปรับ ครม.
3 มิ.ย. รอฟังพยากรณ์อากาศ
**ถ้าฟ้าใส จะมีสองทางเลือกเท่านั้น คือ ปรับออก กับปรับใหญ่ริบกระทรวง
30 พ.ค. ส่งสัญญาณก่อนกรมอุตุฯ
1 มิ.ย. อาจยกเลิกนัด เพราะบอกผ่านสื่อไปแล้ว
3 มิ.ย. รอฟังพยากรณ์อากาศ
**ถ้าฟ้าใส จะเรียกพบและ “แจ้งเพื่อทราบ”
1. คนปั่นพายุเริ่มอ่อนกำลัง
2. คนปั่นพายุมีหลายสาย
- สายบ้านป่า ใจป๋า แต่ราคาไม่มี
- สายนายพล ส. ที่เคยเป็นต่อ เริ่มตกเป็นรอง
- สายอำนาจเก่า เหลือแต่เงา ไร้พลัง
3. มั่นใจสัญญาณจากกรมอุตุฯ หลัง 3 มิ.ย. ฟ้าใสแน่นอน
1. กระทรวงที่นำมาแลก เริ่มไม่สมน้ำสมเนื้อ
- พาณิชย์ ติดกลุ่มกระทรวงที่คุณทักษิณบอกว่า มีความสำคัญ เพื่อดันราคาสินค้าเกษตร และเปิดตลาด เพื่อไทยจึงขอเก็บไว้เอง
- ศึกษาฯ โดนคุณทักษิณโจมตี ต่อว่าหลายรอบ น่าจะไม่ให้ภูมิใจไทยได้ไปต่อ ล่าสุดเจอพรรคส้มถล่มในสภา “งบปลวกกินหนังสือ” โยนระเบิดใส่ “รมว.ศธ.” เพิ่มพูน ชิดชอบ ไม่ต่างจากศึกซักฟอก อภิปรายไม่ไว้วางใจ
- สาธารณสุข ให้ไม่ได้ เพราะเป็น “กล่องดวงใจ” ในศึกชั้น 14
- คมนาคม ก็ให้ไม่ได้ เหตุผลคล้ายๆ พาณิชย์ เพราะต้องทำนโยบายเรือธง “รถไฟฟ้า 20 บาททุกสาย” สัญญาเอาไว้ ต้องทำให้สำเร็จ
2. ถ้าริบมหาดไทย แล้วแลกกระทรวงแบบ “ไม่สมน้ำสมเนื้อ” แล้ว “ครูใหญ่สายสีน้ำเงิน” จะยอมหรือไม่
- เมื่อกล้าปรับ ก็แปลว่าไม่มีปัญหาเรื่องเสียงสนับสนุน เพราะถึงอย่างไรก็เกินครึ่ง อาจจะเกินน้อยหน่อย แต่ก็อยู่ได้
3. ไม่กลัว “ครูใหญ่” สั่งถอน
- ยิงถอนยิ่งดี เพราะเก้าอี้รัฐมนตรีว่าง 8 ที่ (โควต้าภูมิใจไทย) จะมี สส.ไหลเข้าร่วมรัฐบาลอีกมาก (ด้วยเทคนิควิธีการที่เป็นช่องลอดทางกฎหมาย เหมือนตอนที่ทำกับพลังประชารัฐ)
4. ไม่กลัวข่าวลือ “ส้มจับกับน้ำเงิน” พลิกขั้วตั้งรัฐบาล
- คณิตศาสตร์การเมืองไม่ได้มีสูตรเดียว แต่ขึ้นกับสมมติฐาน หรือ assumption
- สมมติฐานจะนำไปสู่คำตอบสุดท้าย
- เปรียบเทียบ “ส้ม กับ น้ำเงิน” รวมกันไม่ได้ เพราะจะออกมาเป็น “สีเขียวช้ำเลือดล้ำหนอง” เพราะ “ส้มไม่ใช่แม่สี”
5. ไม่ใจดีให้พรรคร่วมฯขี่คอ ทุกพรรคต้องมีมารยาท มีกติกาในการอยู่ร่วมกัน เพื่อทำงานให้บรรลุเป้าหมาย
- รัฐบาลไปต่อได้ ถ้าเพื่อไทยได้คุมกระทรวงสำคัญ
- ติดวิธีคิดแบบพรรคใหญ่ เพราะเคยเป็นพรรคใหญ่ ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว พรรคอื่นเป็นไม้ประดับ
- ทำนายเลือกตั้งครั้งหน้า
เพื่อไทย 200 บวก
ประชาชน 100 บวก
ภูมิใจไทย 50 บวกลบ
ประชาธิปัตย์ - อนาคตขึ้นกับการจัดการปัญหาภายใน
**แต่พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค (พรรคที่เหลือทุกพรรค) จะต่ำกว่า 50 เสียง