21 พฤษภาคม 25698 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 22 พ.ค.68 เวลา 13.30 น. ศาลปกครองสูงสุดนัดอ่านคำพิพากษาคดี ที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่สั่งเพิกถอน คำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1351/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. 2559 ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท
ในคดีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ร่วมกันยื่นฟ้อง นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร
กรณีที่ร่วมกันมีคำสั่งดังกล่าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากศาลปกครองกลางในขณะนั้น เห็นว่า กระทรวงการคลังยอมรับว่า ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายโดยตรง และขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดก็ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด
สำหรับคดีนี้ศาลปกครองกลาง ซึ่งเป็นศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1351/2559 ซึ่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากโครงการรับจำนำข้าว
โดยศาลเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีเจตนาปล่อยให้เกิดการทุจริตหรือเพิกเฉยต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
สำหรับคดีในส่วนศาลปกครองกลางที่เเม้จะเพิกถอน แต่คดีอาญา ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่พิพากษาให้จำคุก น.ส.ยิ่งลักษณ์ 5 ปี ในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ยังคงมีผลบังคับใช้ โดยไม่ให้นับอายุความ