
นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาราคายางว่า นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้ การยางแห่งประเทศไทย(กยท.) และกรมวิชาการเกษตร รายงานการซื้อ-ขาย ทั้งราคาขายยาง ทั้งปริมาณและราคาล่วงหน้า อย่างน้อย 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม มิถุนายน และกรกฎาคม ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมยาง พ.ศ. 2542 ให้ราคายางพาราอยู่ในจุดที่เหมาะสม เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเกษตรกรชาวสวนยางให้ได้มากที่สุด ดังนั้น ขอให้ชาวสวนยางสบายใจ และให้ความร่วมมือในการเลื่อนฤดูกาลเปิดกรีดยางออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมที่จะทำการเปิดเดือนพฤษภาคม 2568 โดยให้เริ่มทำการเปิดกรีดเดือนมิถุนายน 2568 ซึ่งจะทำให้ผลผลิตยางหายไปจากระบบตลาดโลกสร้างแรงกดดันต่อสมดุลของตลาด ส่งผลทำให้ตลาดโลกยางตื่น กลับมาคึกคักใหม่อีกรอบ
ทั้งนี้ จากนโยบาย “เลื่อนการเปิดกรีด” เพื่อควบคุมปริมาณผลผลิตในช่วงต้นฤดูเปิดกรีดนี้ พบว่าราคา ยางแผ่นดิบคุณภาพดี จากเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 ราคา 58 บาทต่อกิโลกรัม ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมราคาเพิ่มขึ้น 10 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 68 บาท หรือประมาณ 17.2%) แล้ว
นายเอกภาพ ยังแจ้งข่าวเพิ่มเติมว่า กยท.พร้อมสนับสนุนเงินกู้จากองทุนพัฒนายางพารา แก่สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ผ่านโครงการสินเชื่อระยะสั้น สำหรับสถาบันเกษตรกร เพื่อจัดหาปัจจัยการผลิตในการเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนการผลิตยางพารา (สถาบันฯ ละ 1 สัญญา) วงเงินไม่เกิน 5,000,000 บาท/ 1 สัญญา โดยปลอดดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 4 เดือนโครงการสินเชื่อระยะสั้น สำหรับสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางเพื่อจัดหาปัจจัยการผลิตฯ เริ่มต้งแต่เดือน พฤษภาคม เป็นต้นไป
นอกจากนี้ กยท.จะช่วยเหลือผู้ประกอบกิจการยางที่รับซื้อยางพารา โดยการช่วยหลือชดเชยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 สำหรับผู้ประกอบกิจการที่เข้าร่วมโครงการฯ พร้อมกับวางแผนซื้อโรงงานผลิตยางล้อเพื่อรองรับผลผลิตของเกษตรกรมาแปรรูป ยกระดับคุณภาพสินค้ายางพาราให้มีมาตรฐาน ส่งเสริมให้มีแบรนด์สินค้ายางพาราเป็นของ กยท.รวมถึงเป็นการส่งเสริมการใช้ยางพาราภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น