นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงการตรวจสอบภายในพรรค หลังปรากฏภาพ สส.พรรคประชาชน สูบบุหรี่ไฟฟ้าที่รัฐสภาว่า กระบวนการในพรรค ดำเนินการทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา สิ่งที่ปรากฏในหน้าข่าว พรรคฯ มีคณะกรรมการภายในพรรคพิจารณาดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งเรื่องนี้ ไม่ต้องมีข้อกังวลใด ๆ พร้อมย้ำว่า จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และจะมีการดำเนินการภายในพรรคอย่างแน่นอน
ส่วนจะมีการกำชับ สส.ภายในพรรค เรื่องของการสูบบุหรี่ไฟฟ้าหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ที่ผ่านมามีการกำชับเรื่องนี้อยู่เรื่อย ๆ และตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะตนเชื่อว่า สิ่งที่ประชาชนต้องการเห็นคือผู้แทนที่ครองตนอย่างเหมาะสม
ขณะที่ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะรองหัวหน้าพรรคฯ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า คงมีการตรวจสอบไปตามกระบวนการของพรรคว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไร ซึ่งตนยังทราบว่า ในกรณีที่ผ่านมา มีการนำเรื่องเข้าคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรด้วย และเท่าที่ทราบ ไม่ได้มีแค่พรรคประชาชนเพียงพรรคเดียวถึงแม้จะมีภาพออกมาเพียงเท่านั้น ซึ่งเรื่องในคณะกรรมการฯ ก็มี สส.พรรคอื่นด้วย และต้องรอว่า คณะกรรมการฯ จะพิจารณาอย่างไร พร้อมระบุว่า เรื่องนี้เพิ่งเกิดขึ้น และตนยังไม่ได้เจอกับ สส.คนดังกล่าว แต่พรรคฯ มีกระบวนการของพรรคฯ อยู่ จะต้องทำตามกระบวนการ
ส่วนมองเป็นการล่าแม่มด สส.ในสภาหรือไม่นั้น นายปกรณ์วุฒิ ขอให้สังคมลองพิจารณาดู เพราะเดินผ่านไปผ่านมา ตนก็เห็นด้วยสายตาว่า มีหลายพรรคการเมืองเหมือนกัน แต่ไม่อยากนำเรื่องหยุมหยิมมาโจมตีกัน แต่ยืนยันว่า เรื่องนี้เข้าสู่คณะกรรมการจริยธรรมแน่นอน
ส่วนที่รัฐบาลพยายามปราบปราม แต่ก็มีเสียงสะท้อนบางส่วนผลักดันให้ถูกกฎหมาย ฝ่ายค้านมองประเด็นนี้อย่างไรนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า วันที่ 13 มีนาคมนี้ จะมีรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย เข้าสู่การพิจารณาของผู้สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีหลายแนวทาง เมื่อสังคมเริ่มตื่นตัว และสนใจเรื่องนี้ ตนคิดว่า เป็นโอกาสที่ดีที่สภาฯ จะพิจารณา เพราะหลายสิบปีที่ผ่านมามี ก็หลายเรื่องที่ถกเถียงกัน อย่างกัญชา ที่อดีตผิดกฎหมาย แต่ปัจจุบันร้านกัญชาเต็มถนน จึงคิดว่า กฎหมายเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาได้ หากมีการควบคุม รวมถึงยังมีสุราก้าวหน้า ที่สังคมฉุกคิดกันมาก แต่ก็ไม่ได้ใช้คำว่าเสรี และสิ่งใดก็ตาม ที่เป็นอันตรายก็จะต้องควบคุมไม่ให้เข้าสู่กลุ่มเป้าหมาย เช่น เยาวชน ที่กำหนดบทลงโทษชัดเจน