svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

สภาสูง ถล่ม! DSI ถูกการเมืองแทรกแซง-ก้าวก่าย กกต.สอบฮั้ว สว.

สภาสูง ถล่ม! DSI ถูกการเมืองแทรกแซง-ก้าวก่าย กกต.-จ้องล้มล้างการปกครอง - ทำ สว.ถูกมองอั้งยี่-ซ่องโจร - ย้อน DSI สอบกลุ่มฮั้ว 21+24 ด้วยหรือไม่?

การประชุมวุฒิสภา ในวันนี้ (4 มี.ค.) มีวาระสำคัญในการพิจารณาญัตติขอให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย ที่เสนอโดยพลตำรวจตรีฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา และคณะเป็นผู้เสนอ

:: "พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ซัด DSI ไร้น้ำยา-เลือกปฏิบัติ - ก้าวก่าย กกต.-จ้องล้มล้างการปกครอง - ทำ สว.ถูกมองอั้งยี่-ซ่องโจร - ย้อน DSI สอบกลุ่มฮั้ว 21+24 ด้วยหรือไม่? ::

โดยพลตำรวจตรีฉัตรวรรษ ระบุว่า ตนใส่เสื้อสีน้ำเงินมาอภิปราย พร้อมรับแจ้งข้อกล่าวหา เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หากมีหลักฐานพยานเพียงพอ พร้อมชี้แจงเหตุผลการเสนอญัตติว่า การบังคับใช้กฎหมายที่ผ่านมาขาดประสิทธิภาพ เกิดความล่าช้า มีการแทรกแซงและครอบงำจากฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะการดำเนินคดีพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI รวมถึงไม่สามารถนำผู้กระทำผิดได้รับโทษอย่างแท้จริง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมว่า กระบวนการยุติธรรมไม่อาจเป็นที่พึ่งได้ เช่น การดำเนินคดีนายทุนจีนสีเทา หรือการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว รวมถึงยังมีปัญหาการใช้กฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพ เช่น การให้สิทธิผู้ต้องขังได้รักษาพยาบาล ซึ่งที่ผ่านมามีการเลือกปฏิบัติ ไม่โปร่งใส ผู้ต้องขังบางคนได้รับสิทธิพิเศษได้รับสิทธิรักษาพยาบาลมากกว่าผู้อื่น

สภาสูง ถล่ม! DSI ถูกการเมืองแทรกแซง-ก้าวก่าย กกต.สอบฮั้ว สว.

พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา

พลตำรวจตรีฉัตรวรรษ ยังกล่าวถึงการพิจารณาคดีการได้มาซึ่ง สว. 2567 ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกันแถลงข่าวจงใจกลั่นแกล้งกล่าวหาการได้มาซึ่ง สว.แบบเหมาเข่ง เป็นการฮั้ว อังยี่ กระทำผิดการฟอกเงิน เป็นความผิดความมั่นคงของชาติ จนทำให้ สว.เสียชื่อเสียงว่า ได้รับการตำแหน่งโดยไม่ชอบธรรม สมยอม รวมหัวกันทำให้ได้ สว.โดยไม่สุจริต ไม่โปร่งใส อันเป็นการใส่ความ ทำให้ สว.เสียชื่อเสียง มีความผิดฐานหมิ่นประมาท ซึ่งฝ่ายกฎหมายวุฒิสภา จะพิจารณาดำเนินการต่อไป รวมถึงอธิบดี DSI ยังขาดความรอบคอบในการพิจารณาคดีพิเศษ เพราะคณะกรรมการพิจารณาคดีพิเศษ หรือ กคพ.ยังไม่มีมติรับคดีเลือก สว.เป็นคดีพิเศษ เพราะยังไม่ได้ผ่านการพิจารณาของอนุฯ กลั่นกรอง รวมทั้งยังมีการแถลงข่าวรายวัน จัดให้มีการรับเรื่องร้องเรียน เพื่อแสดงให้เห็นว่า มีผู้เสียหายจำนวนมาก โดยอ้างว่า มีกลุ่ม สว. 138 + 2 ซึ่งตัวเลขนี้ ยังไม่ทราบว่า จะสามารถเปิด เผยหรือดำเนินคดีตามอำนาจหน้าที่ได้หรือไม่ จึงสงสัยว่า การสืบสวนสอบสวนนี้ สามารถล็อกเป้ากลุ่ม สว.โดยแยกประเภทสีได้อย่างไร โดยเฉพาะการมุ่งเน้นมาที่สีน้ำเงิน

สภาสูง ถล่ม! DSI ถูกการเมืองแทรกแซง-ก้าวก่าย กกต.สอบฮั้ว สว.

พลตำรวจตรีฉัตรวรรษ ยังระบุถึงทฤษฎี ศูนย์มีค่ามากกว่าหนึ่ง ที่มีนักเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของไทยสามารถคิดได้ ที่ทำให้ศูนย์มีค่ามากกว่าหนึ่ง และได้ จำนวน สว. ที่เข้ามาแก้ไขรัฐธรรมนูญ  พร้อมระบุว่า มี สว.ที่ได้ไปพักโรงแรมใกล้กับอิมแพค เมืองทองธานี พบเห็นมีการปิดห้องประชุมลับ มีผู้เข้าประชุมประมาณ 400 คน มีการแจกจ่ายเอกสารหมายเลขที่จะให้เลือกซึ่งลักษณะเช่นนี้ อธิบดี DSI ทราบและได้รับการร้องเรียนหรือไม่ และพอจะมีข้อมูลทำการสืบสวน เพื่อเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ ซึ่งผลสุดท้ายจากการดำเนินการ ก็ได้ตัวเลขออกมาคือ 21 + 24 คล้ายครึ่งกับตัวเลข 138 + 2 เพราะฉะนั้น จึงฝากปัญหาว่า 2 ตัวเลขชุดนี้ อธิบดี DSI สามารถสืบสวนสอบสวน ตามที่กล่าวหาเป็นการอั้งยี่ ฟอกเงินหรือไม่

พลตำรวจตรีฉัตรวรรษ ยังเห็นว่า กระทรวงยุติธรรม และ DSI เลือกปฏิบัติ และกระทำการนอกเหนืออำนาจหน้าที่ รวมถึงกรณีที่ DSI พยายามให้คณะกรรมการ กคพ.ให้รับเป็นคดีพิเศษ อาจกำลังเป็นการก้าวก่ายล้มล้างการปกครองฯ ซึ่งอัยการสามารถร้องศาลรัฐธรรมนูญ ขอสั่งให้ยุติการกระทำดังกล่าวได้ และอาจเข้าข่ายยุยงปลุกปั่นกระทำการให้การความปั่นป่วน ทำการไม่สงบในราชอาณาจักร สว.จึงสมควรระดมความเห็นพิจารณาปัญหากระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษให้รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป

สภาสูง ถล่ม! DSI ถูกการเมืองแทรกแซง-ก้าวก่าย กกต.สอบฮั้ว สว.

พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย สมาชิกวุฒิสภา

ด้าน พลตำรวจโทบุญจันทร์ นวลสาย สมาชิกวุฒิสภา ยืนยันว่า พวกตนมาตามบทบาทหน้าที่ และครรลองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ และมาตามรัฐธรรมนูญ 2560 แต่คำกล่าวของบางคนกล่าวหาการเลือก สว.ที่ผ่านมา เป็นอั้งยี่ เพราะมีการรวมตัวกัน จึงท้าให้ DSI ไปตรวจสอบการเลือกตั้งทั่วประเทศ หรือการเลือกตั้ง อบจ.ที่ผ่านมา เพราะมีการรวมตัวเช่นเดียวกัน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เป็นจินตนาการของ DSI หรือไม่ ซึ่งตนไม่เห็นด้วย และเตือนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดี DSI อย่าใช้ปากทำงาน เพราะถ้าทำไปพูดไป จะมีความผิดตามมาหลายเรื่องได้ เช่น การหมิ่นประมาท หรือความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พร้อมเรียกร้องให้ สว.ทุกคนลุกขึ้นยืนหยัดปกป้องสิทธิของตนเองว่า มาโดยถูกต้อง

สภาสูง ถล่ม! DSI ถูกการเมืองแทรกแซง-ก้าวก่าย กกต.สอบฮั้ว สว.

พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ สมาชิกวุฒิสภา

ขณะที่ พันตำรวจเอกกอบ อัจนากิตติ สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายถึงกรณีที่ DSI กล่าวหาวุฒิสภา เป็นการอั้งยี่ ซ่องโจร เป็นการกล่าวหาที่บิดเบือน และฉ้อฉล เพราะสมาชิกวุฒิสภา ไม่สามารถปลุกปั่นยุยงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ได้ แต่ผู้ที่ปลุกปั่นขณะนี้ คือ ผู้ที่กำลังทำเป็นองค์กรขณะนี้ ฉะนั้น ตนจึงยืนยันว่า ความเห็นอนุฯ กรรมการคดีพิเศษ เป็นความเห็นเบื้องต้น คณะกรรมการ กคพ.ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย แต่ถ้าเห็นด้วย จะต้องรับผิดชอบกับการกระทำ ที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ และประชาชน พร้อมยังระบุว่า บุคคลที่เป็นคณะกรรมการพิเศษ ที่มาจากฝ่ายการเมือง ซึ่งอยู่ในอำนาจแต่งตั้งของรัฐมนตรี หลักการทำงานนี้ เห็นได้ว่า ฝ่ายการเมือง เข้ามาครอบงำ หรือแทรกแซง DSI และที่ผ่านมา DSI ใช้กฎหมายตามอำเภอใจมาตลอด หรือไม่ พร้อมเปรียบว่า มีผู้ที่เป็นพ่อมด หรือตะเกียงวิเศษฝ่ายการเมือง ปล่อยยักษ์ตัวนี้ออกมา และอิทธิฤทธิ์ของยักษ์ตัวนี้ ที่ออกมาจากตะเกียงมีอำนาจจนไม่สามารถต้านทานได้ และทำให้ประชาชนอกสั่นขวัญแขวน และเห็นว่า ความเสมอภาคความเท่าเทียม เป็นแค่นามธรรมเท่านั้นเอง ดังนั้น ผู้ที่ปล่อยยักษ์ตัวนี้ออกมา ต้องรับผิดชอบ  โดยเฉพาะ DSI

สภาสูง ถล่ม! DSI ถูกการเมืองแทรกแซง-ก้าวก่าย กกต.สอบฮั้ว สว. พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สมาชิกวุฒิสภา

ด้าน นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สมาชิกวุฒิสภา ระบุว่า กระบวนการยุติธรรม ที่นำโดยพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทำให้ตนรู้สึกหมดศรัทธา พร้อมยืนยันว่า สว.ชุดนี้พร้อมรับการตรวจสอบที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่กลัว DSI บิดเบือนข้อมูลจนทำให้ประชาชนเข้าใจว่า สว.ชุดนี้ เป็นอั้งยี่ซ่องโจร หารือเป็นโจร และ DSI ที่กำกับโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ไม่ได้มีอำนาจควบคุมการเลือกตั้งเหมือนคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ดังนั้น การจะตรวจสอบใด ๆ จะต้องใช้อำนาจที่อยู่ในขอบเขตของตน จึงสะท้อนว่า DSI กำลังใช้อำนาจแทรกแซง กกต.ในการได้มาซึ่ง สว.

 

นายพิสิษฐ์ ยังกล่าวถึงการพิจารณาคดีพิเศษโดยคณะกรรมการ คกพ.ว่า กำลังใช้อำนาจนอกเหนือกฎหมาย ทำให้ประชาชนเข้าใจ สว.ผิดไปอย่างรุนแรงจากผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน พร้อมมั่นใจว่า ตามกฎหมายการได้มาซึ่ง สว.ฮั้วกันได้ยาก เพราะมีการห้าม กกต.เปิดเผยรายชื่อ และจำนวนผู้สมัครก่อนพ้นระยะเวลาการรับสมัคร เพราะหลักการฮั้ว จะต้องทราบจำนวน เพื่อให้ผู้สมัครฝ่ายตนมากกว่าอีกฝ่ายจึงจะชนะได้ ดังนั้น การอ้างว่า มีการฮั้วเป็นการกล่าวหา สว.ชุดนี้ โดยไม่มีการอ้างอิงหลักกฎหมายใด ๆ เพื่อให้ สว.ตกเป็นจำเลยสังคม และการที่คณะกรรมการ กคพ.เลื่อนการลงมติรับเป็นพิจารณาคดีพิเศษ โดยอ้างเชิญ กกต.มาชี้แจง เป็นการประวิงเวลาเพื่อไปล็อบบี้คณะกรรมการ เพื่อรับเป็นคดีพิเศษ และเป็นการฮั้วกันหรือไม่ พร้อมถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมว่า ใช้อำนาจตามกฎหมายใด แถลงข่าวต่อคดี ทั้งที่ยังไม่ได้รับเป็นคดีพิเศษ

สภาสูง ถล่ม! DSI ถูกการเมืองแทรกแซง-ก้าวก่าย กกต.สอบฮั้ว สว.

ชินโชติ แสงสังข์ สมาชิกวุฒิสภา

นายชินโชติ แสงสังข์ สมาชิกวุฒิสภา เห็นว่า จุดกำเนิดการร้องเรียนกระบวนการได้มาซึ่ง สว.ส่วนใหญ่มาจาก “ผู้แพ้การเลือกตั้ง” ถ้าประชาชนคนส่วนใหญ่ รู้สึกเดือดร้อนกับการชนะการเลือกตั้งของพวกตน ตนไม่ติดใจ แต่สาระทั้งหมด มาจากผู้แพ้การเลือกตั้ง จึงต้องถามสังคมว่า ถ้าผู้แพ้ชนะการเลือกตั้ง จะออกมาร้องเรียนหรือไม่ ฉะนั้น ผู้แพ้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการร้องเรียน เพื่อเล่นงานพวกตน ซึ่งตนก็เข้าใจผู้แพ้ว่า อยากชนะมาเป็น สว.เช่นเดียวกับพวกตน และตนผิดหรือไม่ ที่ตนได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มแรงงาน ตั้งแต่ระดับอำเภอ ถึงระดับประเทศ เพราะตนเคยเป็นผู้นำแรงงาน หรือ “ประเทือง แสงสังข์” อดีตประธานสภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานแห่งประเทศไทย มาก่อน พร้อมยังระบุว่า ตนเองติดใจการทำหน้าที่ของ DSI โดยขอปรักปรำและฟันธงว่า หาก 6 มีนาคมนี้ DSI รับคดีนี้มาทำ ถือว่า มีวาระซ่อนเร้น ในการรับใช้กลุ่มบุคคล หรือกลุ่มการเมือง ซึ่งไม่สามารถแปลเป็นอื่นได้ และการตรวจสอบการเลือกตั้ง ไม่ใช่หน้าที่ของ DSI แต่เป็นหน้าที่ของ กกต.หาก DSI จะรับเป็นคดีพิเศษ ก็ขอให้ลบองค์กรอิสระจากสาระบบประเทศได้เลย เพราะต่อจากนี้ ทุกเรื่อง จะวิ่งไปฟ้องร้องที่ DSI

สภาสูง ถล่ม! DSI ถูกการเมืองแทรกแซง-ก้าวก่าย กกต.สอบฮั้ว สว. อลงกต วรกี สมาชิกวุฒิสภา

นายอลงกต วรกี สมาชิกวุฒิสภา ได้เสนอให้ยุบ DSI ตามรายงานของคณะกรรมาธิการปฏิรูปกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม สภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช.เสนอ เพราะซ้ำซ้อนกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สร้างความแตกแยกในสังคม นักการเมือง-รัฐมนตรีสามารถแทรกแซงได้ หรือให้ DSI ไปสังกัดสำนักสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้ปราศจากอำนาจนักการเมือง หรือพรรคการเมือง จึงขอให้ประธานวุฒิสภา ได้ส่งแนวคิดดังกล่าว ให้คณะกรรมาธิการของวุฒิสภาที่เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป

 

นายอลงกต ยังขอให้ DSI คิด ถ้าไม่มี สว.เหลือง-น้ำเงิน ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อาจจะถูกแก้ไขได้ และการแก้ไขรัฐธรรมนุญในอนาคต อาจไม่ยึดหลักกฎหมาย ยึดเพียงเสียงข้างมากลากไป พร้อมยืนยันว่า ตนเองเป็น สว.สีน้ำเงิน และสีเหลือง ที่จงรักภักดีต่อสถาบันของชาติ หาก สว.คนใดไม่ใช่ ตนจัดเป็น สว.กลุ่ม 21 กลุ่มปลาหมอคางดำ ล้มล้างการปกครอง เพราะตนมีบัญชีรายชื่อ ที่มีหลักฐานว่า บุคคลเหล่านี้ มี 11+13 มีพฤติกรรมล้มล้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

สภาสูง ถล่ม! DSI ถูกการเมืองแทรกแซง-ก้าวก่าย กกต.สอบฮั้ว สว.

นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา

ขณะที่ นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา เห็นว่า ญัตตินี้จะมีแรงจูงใจทางการเมือง และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตามญัตติ ก่อนที่จะอภิปรายถึงสิทธิการเข้าถึงการรักษาพยาบาลของผู้ต้องขังที่เหลื่อมล้ำ หากมีเงินมีอำนาจ ก็จะได้อัพเกรดเป็นเทวดาชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ส่วนคนจนไม่มีอำนาจ ก็จะเป็นสัมพะเวสี รอรักษาหน้าห้องพยาบาลเรือนจำ จึงเรียกร้องให้ผู้ต้องขัง ได้เข้าถึงการรักษาตามสิทธิ และขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบสิทธิการรักษาพยาบาลผู้ต้องขังทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ต้องไม่มีเทวดา และไม่มีสัมภเวสีอีกต่อไป พร้อมยังชี้แจงภายหลัง สว.หลาย ๆ คนอภิปราย โดยยืนยันว่า การอภิปรายเป็นเอกสิทธิ์ของ สว.อย่าเหมารวม และอย่านำสถาบันวุฒิสภา มาปกป้องตัวเอง เพราะขณะนี้ สว.กำลังตกเป็นจำเลยสังคม ยิ่งหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ สังคมก็จะยิ่งสงสัย ดังนั้น หากไม่ผิด อย่าร้อนตัว อย่ากลัวเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ เพื่อให้สังคมหายสงสัย และเป็นวุฒิสภาที่สง่างาม

สภาสูง ถล่ม! DSI ถูกการเมืองแทรกแซง-ก้าวก่าย กกต.สอบฮั้ว สว.

เช่นเดียวกับ กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่คนอื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่อภิปรายเกี่ยวกับสิทธิผู้ต้องขัง ที่ไม่เท่าเทียม โดยเลี่ยงการอภิปรายในประเด็นที่ สว.ส่วนใหญ่ อภิปรายโจมตีการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI

สภาสูง ถล่ม! DSI ถูกการเมืองแทรกแซง-ก้าวก่าย กกต.สอบฮั้ว สว.

ทั้งนี้ สำหรับเวลาการอภิปรายของสมาชิกวุฒิสภา ในญัตตินี้ ที่ประชุมให้เวลา สว.แต่ละคน สามารถอภิปรายได้ถึงคนละ 10 นาที

สภาสูง ถล่ม! DSI ถูกการเมืองแทรกแซง-ก้าวก่าย กกต.สอบฮั้ว สว. มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา

ภายหลังการอภิปรายเสร็จสิ้น นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้มอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ส่งรายละเอียดและข้อเสนอทั้งหมดไปยังคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป