svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ประวัติศาสตร์ “กาสิโนถูกกฎหมาย” ประเทศไทยก็เคยมี!

เปิดประวัติศาสตร์การพนันถูกกฎหมาย สร้างรายได้ถล่มทลาย แต่ก็ต้องปิดตัวลงเพราะผลกระทบรุนแรง ‘เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ จะเป็นโอกาสครั้งใหม่ หรือซ้ำรอยเดิม?

จริงๆ ประเทศไทยมี “บ่อนการพนันถูกกฎหมาย” อยู่แล้ว แม้ “การพนัน” จะผิดกฎหมาย มีโทษทางอาญา ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 ก็ตาม เพราะการเปิดบ่อน หรือเปิดให้ทำกิจกรรม ทำการละเล่น แล้วแทงพนัน หรือขันต่อกันได้ สามารถขออนุญาต และได้รับอนุญาตตามกฎหมายการพนันนั่นเอง 

 

โดยในกฎหมายมีการแบ่งเป็นบัญชี  คือ บัญชี ก. กับ บัญชี ข.  โดยบัญชี ก. ส่วนใหญ่จะเป็นพวกหวย พวกไพ่ น้ำเต้า สล็อตแมชชีน ซึ่งเป็นการพนันสากล  การอนุญาตถือเป็นข้อยกเว้น  คือ หลักทั่วไปจะไม่อนุญาตให้มีการพนันประเภทนี้  แต่หากจะอนุญาต ก็ให้ออกเป็นพระราชกฤษฎีกา 

 

ส่วนบัญชี ข. มีลักษณะเป็นการละเล่น เช่น ให้สัตว์ต่อสู้ หรือแข่งกัน อย่าง ชนโค ชนไก่ กัดปลา แข่งม้า แบบนี้ขออนุญาตจัดแข่ง และรับพนันได้ รวมไปถึงชกมวย แข่งเรือ และสลากกินแบ่ง อำนาจในการอนุญาต ส่วนใหญ่อยู่ที่ฝ่ายปกครอง หรือกระทรวงมหาดไทย 

 

จะเห็นได้ว่า “การพนันถูกกฎหมาย” ก็มีอยู่แล้วในบ้านเรา ในต่างจังหวัด ก็มีสนามชนวัว ชนไก่ สัตว์ที่ถูกนำมาใช้แข่ง ราคาเป็นล้านก็มี เช่น ไก่ชน 

 

นอกจากนั้น ในบริบทของ “บ่อนถูกกฎหมาย” ในความหมายของ “กาสิโน” ก็เคยเปิดมาแล้วในบ้านเราเช่นกัน และมีกฎหมายรองรับด้วย นับเฉพาะช่วงหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง ปี พ.ศ.2475 เป็นต้นมา เคยมีการเปิดบ่อนการพนันในลักษณะ “กาสิโน” แล้ว 2 ครั้ง คือ 

 

ครั้งแรก เริ่มปี พ.ศ.2478 มีการตราพระราชบัญญัติการพนัน ซึ่งใช้มาจนถึงปัจจุบัน และมีการออก “พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงื่อนไขการพนัน ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478” ถือเป็นกฎหมายฉบับแรกที่รัฐบาลริเริ่มให้มีบ่อนการพนันที่จัดการโดยรัฐ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประเทศไทย 

 

พระราชกฤษฎีกาให้อำนาจกระทรวงการคลังเป็นผู้ดูแล ด้วยเหตุผลในทางเศรษฐกิจ และทดแทนรายได้จาก “เงินรัชชูปการ” หรือ เงินที่รัฐเรียกเก็บจากชายไทยที่ไม่ได้รับราชการทหาร หรือไม่ถูกเกณฑ์ไปใช้แรงงาน ซึ่งรัฐบาลขณะนั้นมีนโยบายให้ยกเลิก จึงต้องหารายได้จากทางอื่นมาทดแทน ซึ่งแนวทางก็คือการเปิดบ่อนการพนัน 

 

(เมื่อเร็วๆ นี้ เจ้ากรมการรักษาดินแดน คิดจะฟื้นขึ้นมาใหม่ สำหรับชายไทยที่ไม่เกณฑ์ทหาร) 

 

จากพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ นำไปสู่การเปิดกาสิโนจริงๆ ในปี พ.ศ.2481 ในรัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม มีการเปิดนำร่องที่ กิ่งอำเภอหัวหิน (ในขณะนั้น) และทดลองเปิดช่วงระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่วัน แล้วนำมาประเมิน แต่ผลการประเมินพบว่ายังมีปัญหาและจุดอ่อน โครงการจึงพับไป 

ข้อมูลจากบางแหล่งระบุว่า มีการขยายเปิดกาสิโนในอีกหลายจังหวัด แต่เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ทว่าข้อมูลในส่วนนี้ไม่มีบันทึกหลักฐานยืนยันชัดเจน

 

ประวัติศาสตร์ “กาสิโนถูกกฎหมาย” ประเทศไทยก็เคยมี!

ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ.2488 ยุครัฐบาล นายควง อภัยวงศ์ ช่วงนั้นเป็นช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดปัญหาเงินเฟ้อรุนแรง เศรษฐกิจไทยย่ำแย่หนัก รัฐบาลนายควง อภัยวงศ์ในเวลานั้นจึงได้ปัดฝุ่น พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ออกมาใช้ และจัดตั้งสถานกาสิโนขึ้นในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2488 แต่เปิดกิจการได้เพียงไม่ถึง 3 เดือน นับรวมได้ 82 วัน ก็ต้องปิดตัวลงอย่างรวดเร็วในวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2488

 

ข้อมูลระบุว่า ในยุครัฐบาล นายควง อภัยวงศ์ มีการเปิดสถานกาสิโนในต่างจังหวัด นอกเหนือจากกรุงเทพฯ ถึง 5 จังหวัด คือที่ หัวหิน (เป็นกิ่งอำเภอ ขึ้นกับอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์) ลพบุรี พิษณุโลก หนองคาย และเบตง (จังหวัดยะลา) 

 

ต่อมามีการขยายเพิ่มอีก รวมเป็น 11 แห่ง รวมของเดิมด้วย คือที่ หัวหิน เชียงราย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี ตราด สงขลา ภูเก็ต เบตง (จังหวัดยะลา) และสุไหงโก-ลก (จังหวัดนราธิวาส) ไม่นับรวมกรุงเทพฯ 

 

ข้อมูลระบุว่า เพียง 82 วันที่เปิด เฉพาะในกรุงเทพฯ ทำรายได้จากสถานกาสิโนได้ถึง 12.94 ล้านบาท หรือ 22.8% ของงบประมาณรายได้ประจำเดือนของประเทศ ถ้ารวมกาสิโนทั้งประเทศ ทำรายได้กว่า 24.13 ล้านบาท เรียกได้ว่าทำเงินถล่มทลาย แต่สุดท้าย สถานกาสิโนก็ต้องปิดตัวลง เนื่องจากประชาชนเล่นการพนันกันจนหมดเนื้อหมดตัว บางรายถึงกับฆ่าตัวตาย

 

เรื่องนี้ถือว่าอ่อนไหว เพราะสถานกาสิโนที่ตั้งขึ้น เปิดให้คนไทยเข้าไปเล่นได้ด้วย โดยเก็บค่าธรรมเนียม แม้จะเป็นเงินที่สูงในสมัยนั้น และห้ามเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเข้าไปเล่น แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ ก็มีเด็กลักลอบเข้าไปเล่น และคนไทยกู้หนี้ยืมสินเข้าไปเสี่ยงดวงเป็นจำนวนมาก จนต้องเลิกไปในที่สุด

 

ประวัติศาสตร์ “กาสิโนถูกกฎหมาย” ประเทศไทยก็เคยมี!

 

แม้กาสิโนจะต้องเลิกไป แต่กฎหมายการพนันยังคงอยู่ และมีการอนุญาตให้เล่นสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่ไม่มีการอนุญาตให้เปิดกาสิโนอีก ต้องรอลุ้นว่า “กาสิโน” จะหวนกลับมาในนาม เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือไม่