สมรภูมิ "เลือกตั้งนายกอบจ." ที่จะมีการเลือกตั้งพร้อมๆกัน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2568 "พรรคประชาชน" ปชน. ตั้งเป้าว่าจะช่วงชิงที่นั่งให้ได้หลายจังหวัด เพราะคาดหวังว่าจะเป็นดัชนีชี้วัดกระแสความนิยม"พรรคประชาชน" ในระดับพื้นที่ก่อนเลือกตั้งใหญ่ปี 2570
แต่ทว่า กลับมีเหตุปัจจัยนอกเหนือที่เข้ามา อย่างการลาออกของ "นายกอบจ." ก่อนครบวาระในหลายจังหวัด ขณะที่ "พรรคประชาชน" มีการส่งคนเข้าสมัครชิงชัยด้วยเช่นกัน แต่ก็ยังสะกดคำว่า "ชัยชนะ" ไม่เป็น
"พรรคปชน." สรรหาเหตุผลมาชี้แจงถึงความพ่ายแพ้ บ้างว่า "พรรคไม่มีความพร้อม" ,"พรรคไม่ได้ส่งผู้สมัคร"
จึงเกิดคำถามกลับมาที่ "พรรคประชาชน" แล้วการเลือกตั้งนายกอบจ.จังหวัดใดกันแน่ ที่สามารถบ่งบอกเป็นความพร้อมของพรรคที่แท้จริง เป้าหมายสู่ "ชัยชนะ" อยู่ที่จังหวัดใดกันแน่
"ต้องดูเป็นรายจังหวัด สำหรับจังหวัดที่มี นายกอบจ.อยู่แล้ว และมีกระบวนการอบรมผู้สมัคร เรียบร้อยหมดแล้ว จังหวัดเหล่านั้นเรามั่นใจมีความพร้อม ส่วนใหญ่ที่ไม่พร้อม จะเกิดขึ้นกับจังหวัด ที่เราไม่มีตัวผู้สมัคร หรือเพิ่งมีผู้สมัคร ทำให้เราเข้าแข่งขันอาจไม่พร้อมเต็มที่"
"ติ่ง" ศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน เริ่มต้นเปิดใจ "เนชั่นทีวี" ถึง ปมปัญหาการเลือกตั้งนายกอบจ. ที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ
อย่างที่มีนายกอบจ. ลาออกก่อนครบวาระ "พรรคประชาชน" รับมือการเลือกตั้งกับจังหวัดเหล่านี้อย่างไร เลขาธิการพรรคปชน. กล่าวว่า สนามแรกที่มีการลาออกและเตรียมผู้สมัครแล้ว คือ "จังหวัดอุดรธานี" วันที่ 24 พฤศจิกายน จะมีการเลือกตั้ง ให้ไปดูผลเลือกตั้งวันนั้น จะเป็นการวัดได้ระดับหนึ่ง
แต่แน่นอน "จังหวัดอุดรธานี" ต้องยอมรับว่า เราเป็นรอง ถ้าดูในภาพรวม เพื่อไทยมีความเข้มแข็ง มีสส.หลายคน เป็นนายกอบจ.มาอย่างยาวนาน ส่วนเราเป็นคู่ท้าชิง ก็จะพยายามเต็มที่
"แต่ผมคิดว่าไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร คงเป็นบทเรียนให้เราได้ ในจังหวัดนี้( อุดรธานี ) เพราะถือว่าเราได้เตรียมการแล้ว ซึ่งต่างกับจังหวัดอื่นๆ ซึ่งผมคิดว่า อย่าง ราชบุรี เราไม่ได้พร้อมขนาดนั้น หลังเหตุการณ์เราพูดได้ แต่ก่อนเหตุการณ์เราจะบอกว่าเราพร้อม แต่ก่อนเลือกตั้งทุกคนต้องพร้อม แต่เมื่อมาวันนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว"
"คุยกันอย่างตรงไปตรงมา สนามเลือกตั้ง นายกอบจ.ราชบุรี ที่ผ่านมา เราได้ผู้สมัครเพียงไม่กี่วันก่อนแข่งขัน ขณะที่ สนามเลือกตั้งนายกอุดรธานี แตกต่างแน่นอน เพราะเราเปิดตัวผู้สมัครตั้งแต่ต้นปี ดังนั้นเราพร้อมที่จะสู้ได้ เชื่อว่าการแข่งขันน่าจะสนุก ส่วนจะทำสำเร็จหรือไม่ อยู่ที่การวางแผน การเตรียมการที่ทำมา ว่าเราทำได้ดีเพียงพอหรือไม่"
อนึ่ง "พรรคประชาชน" ตั้งแต่ยังเป็น "พรรคก้าวไกล" ได้มีการเปิดตัวผู้สมัครชิงเก้าอี้นายกอบจ.อุดรธานี ตั้งแต่ต้นปี 2567 ( 2 มีนาคม 2567 ) โดยเปิดตัว "คณิศร ขุริรัง" โดยหวังจะคว่ำเจ้าของเก้าอี้คนปัจจุบัน คือ "วิเชียร ขาวขำ" ดีกรีนายกอบจ.อุดรธานี 2 สมัย และเป็นที่ทราบกันดีว่า วิเชียร ขาวขำ ได้รับการสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย อีกทั้งชื่อชั้นจังหวัดอุดร คือเมืองหลวงคนเสื้อแดง
คาดหวัง 16 จังหวัดเพราะเตรียมตัวมาดี
ส่วนการลาออกของนายกอบจ.ก่อนครบวาระในตอนนี้ ไม่ว่าเป็น เพชรบุรี ขอนแก่น นครศรีธรรม หรือจะมีจังหวัดอื่นตามมาอีก "พรรคประชาชน" จะส่งเข้าแข่งขันด้วยหรือไม่ "เลขาธิการพรรคประชาชน" ยอมรับว่า ตั้งแต่หลังเลือกตั้งปี 2566 พรรคประชาชนก็มีนโยบายมาตลอด ในการส่งเลือกตั้งท้องถิ่น แต่เราชี้แจงตลอดว่าการส่งท้องถิ่น ต้องส่งที่เรามีความพร้อม
องค์ประกอบความพร้อม
-ความพร้อมตัวบุคคล มีนายก อบจ.ที่เป็นตัวแทนพรรคประชาชนได้หรือไม่
-ความพร้อมทีมงานจังหวัด เครือข่ายคณะกรรมการจังหวัดเพียงพอหรือไม่
- ทีมงานสจ. ที่ต้องพิจารณา รวมถึงกระแส
"เลขาธิการพรรคปชน." กล่าวว่า ดังนั้นเราไม่ได้ส่งทั่วไป เวลาพิจารณา อย่าง ขอนแก่น เพชรบุรี เราไม่มีตัวผู้สมัคร จึงไม่มีกระบวนการ ฉะนั้น 16 กว่าจังหวัด ที่เราพร้อมจะส่งเรามีคนแล้ว ผ่านกระบวนการคัดสรร อบรมแล้ว แต่ถ้าจังหวัดไหนไม่มีคนเลย เราไม่ส่ง
"เลขาธิการพรรคประชาชน" เปิดเผยทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า ในบรรดา 16 จังหวัด ที่ผ่านกระบวนการคัดสรร และเปิดตัวชัดเจน และถือว่าพร้อมเต็มที่แล้ว เช่น เชียงใหม่ ลำพูน อุดรธานี ตราด ภูเก็ต สมุทรปราการ นนทบุรี