
7 สิงหาคม คือวันสำคัญทางการเมือง โดยเฉพาะ"พรรคก้าวไกล"ที่จะต้องติดตามว่า จะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้ จากการที่"ศาลรัฐธรรมนูญ"นัดอ่านคำวินิจฉัย ยุบพรรคหรือไม่ หากเราย้อนกลับไป ก่อนที่จะถึงวันที่ 7 สิงหาคม บุคคลท่านหนึ่ง หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นคนต้นเรื่องก็ว่าได้ นั่นคือ "ธีรยุทธ สุวรรณเกษร" ทนายความอิสระ ที่ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรธน. ในประเด็นที่ "พรรคก้าวไกล" และ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" สมัยเป็นหัวหน้าพรรค รณรงค์แก้ไขกม.มาตรา 112 เข้าข่ายการล้มล้างการปกครองหรือไม่และผลคำวินิจฉัยที่ 3/2567 ครั้งนั้น จึงนำมาสู่กรณีที่ กกต. ต้องยื่นคำร้องให้"ยุบพรรค"
ทีมข่าวการเมืองเนชั่นทีวี ได้กลับมาพูดคุยกับ คนต้นเรื่องอีกครั้ง ต่อมุมมอง 9 ข้อต่อสู้พรรคก้าวไกล ที่มีการแถลงปิดคดีไปเมื่อวานนี้ ว่าเป็นอย่างไร ไปติดตามพร้อมกัน
วิเคราะห์ 9 ข้อต่อสู้ก้าวไกลแถลงปิดคดี
"ธีรยุทธ สุวรรณเกษร" ทนายความอิสระ ให้ข้อสังเกต การแถลงปิดคดี ของพรรคก้าวไกล ด้วย 9 ประเด็นศาลรัฐธรรมนูญนั้น มีข้อเพิ่มเติมจากที่ยกแก้ข้อกล่าวหา ตามคำวินิจฉัยศาลรธน.ที่ 3/2567 ตามที่ "ธีรยุทธ" ยื่นคำร้อง เพิ่มเติมมาเพียงสองข้อเท่านั้น
ข้อที่หนึ่ง คือ อ้างว่า หลังศาลรธน. มีคำวินิจฉัยคดีนั้นแล้ว ก้าวไกลก็หยุดหาเสียง หยุดเผยแพร่นโยบายนั้น คือ การถอดนโยบายออกจากเวปไซต์หลักของพรรค ข้อที่สอง ที่ระบุว่า กกต.กระทำการลัดขั้นตอนหรือไม่ ไม่ให้ก้าวไกลได้มีโอกาสชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา หรือแสดงพยานหลักฐาน หรือขัดตามระเบียบต่างๆ ก็พบว่ามีสองข้อเท่านั้นเอง
จับจุดอ่อนข้อต่อสู้ ก้าวไกลในศาลรธน.
"ธีรยุทธ" กล่าวต่อไปว่า อย่างที่กล่าวในตอนต้น ได้ให้ความสำคัญกับข้อแรกเป็นพิเศษ ที่พรรคก้าวไกลกล่าวอ้างว่า ได้หยุดการกระทำ ได้ถอดนโยบาย การแก้ไข มาตรา 112 ออกจากเว็ปไซต์พรรค ซึ่งเป็นเว็ปหลักแล้ว ตรงนี้ ถอดออกจากจริงแต่ก็ไม่ได้หยุดเพราะได้เห็นต่อๆ กันมา เป็นที่ยืนยันว่า อุดมการณ์ยังมีอยู่ สืบต่อมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพรรค แม้ว่าศาลรธน.ตักเตือนแล้ว พรรคก้าวไกลจะน้อมรับปฏิบัติอย่างไร ประชาชนก็ได้เห็นแล้ว
อีกประการ กว่าที่พรรคก้าวไกลจะถอดนโยบายแก้ม.112 ออกจากเว็ปไซต์ การเผยแพร่ได้ขยายออกไปไกลแล้ว เพราะการเผยแพร่ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย แต่เผยแพร่สู่ต่างประเทศ ด้วยภาษาต่างประเทศด้วย เห็นได้ว่าความกว้างไกล ของนโยบายได้ออกไปสื่อสารมวลชนต่างประเทศ ดังนั้นศาลรธน. จึงมีเนื้อหาในคำวินิจฉัยว่า การดำเนินการลักษณะนี้ เป็นการดำเนินการอันมีนัยสำคัญ ศาลจึงน้อมเอาหลักฐานทั้งมวล เพื่ออธิบายว่า ศาลหยั่งเห็นเจตนาอันซ้อนเร้นของการดำเนินการในครั้งนั้นแล้ว ศาลรธน. จึงวินิจฉัยว่า การดำเนินการของพรรคและ "พิธา" เข้าลักษณะล้มล้างการปกครองฯ
ข้อต่อสู้ ก้าวไกล เหมือน ข้อต่อสู้ไทยรักษาชาติ
"ธีรยุทธ" กล่าวถึงการตั้งข้อสังเกตข้อที่สอง ที่ว่า กกต.ลัดขั้นตอนไม่ได้ให้โอกาสชี้แจง ประเด็นนี้ในคราวยุบพรรคไทยรักษาชาติ กกต.มีระเบียบของกกต.ดำเนินการตามกรอบข้อบังคับกม. ซึ่งข้อต่อสู้นี้ ในคราว"ยุบพรรคไทยรักษาชาติ" ก็เคยยกขึ้น ศาลรธน.วินิจฉัยว่า กกต.ดำเนินการถูกต้องครบถ้วน เช่นเดียวกัน คราวนี้ พรรคก้าวไกลก็ยกข้อโต้แย้งนี้ขึ้นอีก ก็อยากให้ประชาชน ย้อนกลับไปดูสำนวน"พรรคไทยรักษาชาติ" ศาลรธน.ก็วินิจฉัยให้ และเชื่อว่า ผู้รู้ทางกฎหมาย ในกกต.มีความเชี่ยวชาญมาก มีความระมัดระวังมาก เพราะเป็นการยุบพรรคใหญ่อยูในความสนใจประชาชน ท่านจึงตรวจสอบละเอียดถี่ถ้วนก่อนเสนอนายทะเบียน ยื่นยุบพรรค คิดว่าปัญหาข้อนี้ คงจะมีบทสรุป โดยศาลอย่างแน่นอน
คำวินิจฉัยศาลรธน.ที่ 3/2567 เป็นบรรทัดฐานในการตัดสินคดี
ส่วนข้อต่อสู้อื่นๆ ของพรรคก้าวไกลนั้น "ธีรยุทธ" บอกว่า ไม่ได้น่ากังวล สังเกตในชั้นที่เปิดให้สองฝ่าย คือ กกต. และพรรคก้าวไกล มาตรวจพยานหลักฐาน สิ่งที่มีอยู่ในศาล และที่ได้ยื่นมา ประสงค์โต้แย้งใดบ้าง สิ่งหนึ่งที่ศาลผนวกรวมเข้ามาในสำนวนนี้ คือ สำนวนคดี คำวินิจฉัยที่ 3/2567 ในคดีที่พรรคก้าวไกล และคุณพิธา ต้องคำวินิจฉัยล้มล้างการปกครอง ศาลรธน.มีคำสั่งให้รวมมาในสำนวนนี้ด้วย เพราะที่เป็นเช่นนี้ เชื่อว่า ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญจากทางพรรค ก็คงจะคล้ายคลึงและไม่แตกแยกย่อยไปจากที่ยื่นไว้แล้ว ที่ศาลรธน.ดึงมารวมสำนวนด้วย เพื่อเปรียบเทียบว่ามีข้อใดบ้างที่เพิ่มเติมขึ้น ท่านก็คงพิจารณารวมไปด้วยว่า สิ่งที่เพิ่มเติมนั้น มากนย้อยเพียงใด สำคัญถึงขนาดที่จะกลับคำวินิจฉัยได้หรือไม่
หากก้าวไกลไม่เดินถลำ การวินิจฉัยวันที่ 7 ส.ค.ก็คงไม่เกิดขึ้น
ส่วนการให้สัมภาษณ์แกนนำพรรคก้าวไกลมักออกมาพูดว่า การยุบพรรคไม่ควรเกิดขึ้นบ่อยโดยศาลรธน. ประเด็นนี้ "ธีรยุทธ" กล่าวขึ้นทันทีว่า ว่า การยุบพรรคไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย การยุบพรรคจะเกิดขึ้นต่อเมื่อพรรคการเมืองกระทำการอันเป็นข้อต้องห้ามสำคัญ ซี่งมีความรุนแรงและร้ายแรงด้วย ซึ่งข้อต้องห้ามกฎหมาย ก่อนต้องข้อห้ามต้องบอกก่อนว่า พรรคนั้นรู้แล้วใช่ไหมว่าสิ่งที่กำลังทำต้องข้อห้าม ถ้าคุณรู้ยังฝืนเลือกที่จะกระทำ ก็เป็นเรื่องที่กฎหมายต้องดำเนินการกับคุณ
"พรรคนั้นรู้แล้วใช่ไหม ว่าสิ่งที่กำลังทำ ต้องข้อห้าม ถ้าคุณรู้ ยังฝืนเลือกที่จะกระทำ ก็เป็นเรื่องที่กฎหมายต้องดำเนินการกับคุณ"
ชมคลิป ฉบับเต็ม เปิดใจ "ธีรยุทธ สุวรรณเกษร "ส่งสัญญาณวันยุบพรรค?