
21 กรกฎาคม 2567 เรียกได้ว่า เป็น"สมาชิกวุฒิสภา"ป้ายแดง ร้อนแรงมากสุด สำหรับ "เกศกมล เปลี่ยนสมัย" สมาชิกวุฒิสภา กลุ่ม 19 กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพอิสระที่ได้รับเลือกด้วยคะแนนสูงสุด 79 คะแนน และกำลังเป็นสว.ที่ถูกโลกโซเชียลตรวจสอบมากที่สุดเกี่ยวกับเอกสารการแนะนำตัว หรือใบสมัครสว.3
ล่าสุด "แพทยสภา" กำลังตรวจสอบ การกล่าวอ้าง ความเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ"หมอเกศ" ถูกต้องหรือไม่ เข้าข่ายผิดจริยธรรมทางการแพทย์หรือไม่ ซึ่งแพทยสภาจะมีการประชุมพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้งในวันที่ 8 สิงหาคมนี้ ขณะเดียวกัน"เกศกมล" งดให้สัมภาษณ์ชี้แจงกับสื่อไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม "ทีมข่าวการเมืองเนชั่นทีวี" ได้มีโอกาสเปิดใจ"หมอเกศ" ถึงการเผชิญวิบากกรรมเหล่านี้เป็นเพราะอะไร วันนี้ เราจะนำอีกแง่มุมหนึ่งของ "หมอเกศ" มานำเสนอ
อีกมุมหนึ่งของ"หมอเกศ" ที่สังคมไม่เคยรับรู้
"เกศกมล" เปิดใจกับ"เนชั่นทีวี" ถึงเหตุผลในการลงสมัครสว. ว่า เป็นเพราะเธอทำงานด้านสังคมมาก่อน ด้วยการช่วยงานด้านสุขภาพจิต มีหลายเคสที่คนในสังคมได้รับผลกระทบทางจิตใจ ( แต่ตอนนี้ เธอกำลังได้รับผลกระทบทางจิตใจเหมือนกัน จากโลกโซเชียลที่ได้รับข้อมูลคลาดเคลื่อนและโจมตีเธอ แม้จะล้มป่วยแต่เธอมีวิธีบริหารทางจิตใจ ) ยกตัวอย่าง เมื่อครั้งที่ได้สัมผัสปัญหาเด็ก เยาวชน ถูกกระทำชำเรา ได้เข้าไปช่วยเหลือ อีกทั้งเคยเข้าไปทำหน้าที่ในฐานะที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เมื่อมีการเปิดให้รับ"สมัคร สว." จึงตัดสินใจลงสมัคร เพื่อหวังว่า เมื่อได้เป็นสว. ก็อาจจะมีเสียงดังขึ้นต่อการแก้ปัญหาเหล่านี้ แม้การเป็นสว.จะเป็นเสียงเล็กๆหนึ่งก็ตาม
"วางกลยุทธ์"ลงสมัครสว.กลุ่ม 19
"ทีมข่าวการเมืองเนชั่นทีวี" สอบถามว่า ทำไมถึงเลือกลงสมัคร กลุ่ม 19 (กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ) ทั้งๆที่"เกศกมล" มีดีกรีคุณหมอ น่าจะเลือกลง กลุ่ม4 ( กลุ่มการสาธารณสุข ) กับคำถามนี้ "เกศกมล" ตอบตรงไปตรงมาว่า ต้องการหลบเลี่ยงสายวิชาชีพที่มีผู้สมัครลงจำนวนมาก หรือจะบอกว่า เป็นการวางกลยุทธ์ ไม่ผิดนัก
"เกศกมล" ยอมรับว่า " ใช้เวลาคิดวิเคราะห์การเลือกลงสมัครกลุ่มต่างๆ เป็นเดือน พิจารณาจากความพร้อมของตัวเรา และการลงกลุ่มนั้นๆก็สำคัญ"
"ความจริง ไม่ใช่ว่าหมอจะลงได้เฉพาะกลุ่มที่ 19 แต่เรามีสิทธิ์ที่จะเลือกลงกลุ่ม สาธารณสุขก็ได้ แต่ต้องการเลี่ยงท่านอาจารย์หมอหลายท่านก็ลงสมัคร หรือ จะลงกลุ่มสตรีก็ได้ กลุ่มนี้ ก็มีผู้สมัครเยอะเหมือนกัน หรือแม้แต่จะลงกลุ่ม 9 กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) หมอก็ลงได้ และเราต้องดูว่า โอกาสที่จะเป็นท็อปเท็น หรือหนึ่งในสิบ ของกลุ่มเหล่านี้ กลุ่มไหนยากที่สุด และยากน้อยที่สุด สุดท้ายหมอเลือกลงที่ 19 คือดูในส่วนที่เราพร้อม แต่ถึงวันสมัคร กลุ่มนี้ก็มีผู้มาลงเยอะเหมือนกัน จะเป็นการวางกลยุทธ์ที่ถูกหรือเปล่าไม่รู้ แต่ เป็นเพราะได้รับความรู้จัก จากหลายท่าน ตั้งแต่ทำงานทางสังคมมาด้วย แต่ก็ยอมรับนี่คือการวางกลยุทธ์"
คะแนนมากที่สุดมาได้อย่างไร
"เกศกมล" บอกว่า ไม่คิดฝันว่า จะได้รับเลือกด้วยคะแนนสูงถึง 79 คะแนน อาจเป็นเพราะการแนะนำตัวผ่านไลน์ ตลอด 1-2 เดือน มีการสื่อสารผ่านไลน์กันทั้งวันทั้งคืน ส่วนที่เธอเคยโพสต์ตนเองลงในติ๊กต๊อก เธอชี้แจงว่า เป็นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เล่นโซเชียล ซึ่งการมีคนรู้จักมาก ผ่านติ๊กต็อกตอนนั้นไม่ได้มีผลกับการเลือกสว. เพราะผู้คนที่รู้จักตอนนั้น ไม่ได้มาเลือกลงสว. ขณะที่ ตอนลงสมัคร ไม่ได้แนะนำตัวผ่านติ๊กต๊อก
"ไม่เคยคิดว่าจะเจออะไรแบบนี้"
เกศกมล สว.ผู้กำลังเผชิญกระแสโซเชียลตรวจสอบอย่างหนักหน่วง บอกกับ"ทีมข่าวการเมืองเนชั่นทีวี" ว่า สิ่งที่เธอได้รับภายหลังการได้รับเลือกเป็นสว.นั่นคือ "ตกใจ"สองประการ ประการแรก ตกใจไม่คิดไม่ฝันจะได้รับคะแนนสูงสุดขนาดนี้ และตกใจประการที่สอง ไม่เคยคิดว่าตนเองจะต้องมาเจออะไรแบบนี้ ในความหมายของเธอ คือ การที่กระแสโซเชียลโหมถล่มเธอ
"เคยมีคนเตือนแล้วว่า จะทำหน้าที่สว.ได้หรือไม่ ซึ่งหมอก็บอกแล้วว่า หมอทำธุรกิจอยู่ก็โอเคแล้ว แต่ถึงวันหนึ่ง เราอยากตอบแทนสังคม อยากเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนเล็กๆที่จะช่วยสังคม ประเทศชาติ ให้ดีขึ้น แต่ไม่คิดว่า ความตั้งใจของหมอ ต้องมาเจออะไรแบบนี้ "
ยอมรับ เป็น สว.สีน้ำเงินแต่ …
กับคำถามเป็นสว.สีไหน "เกศกมล" ตอบกลับมาว่า คำถามว่าหมอเป็นสว.มีสีหรือไม่ อยากให้เรามองไปที่ผืนธงชาติไทย มีแถบสีอะไรที่เป็นขนาดใหญ่ที่ประชาชนเคารพเทิดทูน และหมอยึดมั่นกับสีนี้อยู่ในหัวใจ
แม้ว่ามีเสียงวิพากษณ์วิจารณ์ สว.อีกหลายท่าน เข้ามาตรงตามวิชาชีพหรือไม่ หรือเป็นเครือข่ายพรรคการเมือง แต่หมออยากให้มองอีกมุมหนึ่ง ตอนที่มีการเลือกสว. มีการแนะนำตัว ได้เห็นถึงความสามารถแต่ละท่าน เราได้ความหลากหลายจากกลุ่มวิชาชีพต่างๆ ฉะนั้น หมออยากให้ทุกคนให้โอกาส และให้กำลังใจทุกคนด้วย
นำเงินเดือนสว.บริจาคช่วยเหลือสังคม
"เกศกมล" ยังเปิดเผยกับ"ทีมข่าวเนชั่นทีวี" ที่แรก ถึงการเข้ามาทำหน้าที่สว. พร้อมนำเงินเดือนหลักแสน บริจาคช่วยเหลือสังคม เรื่องนี้เธอเริ่มเล่าถึงจุดยืนในการทำหน้าที่สว.ก่อนว่า ยืนเคียงข้างประชาชน ต้องการทำทุกอย่างให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด ใช้เม็ดเงินภาษีของประชาชนให้คุ้มค่าที่สุด
"เคยคุยกับพี่ๆเพื่อนๆ เกี่ยวกับเงินเดือนสว.ค่อนข้างสูง แสนกว่าบาท แต่หมอไม่มีปัญหาทางการเงิน การเข้ามาเป็นสว. ไม่ได้หวังค่าตอบแทนอะไร อยากทำประโยชน์ให้คนกลุ่มใหญ่ หรือทำเป็น ซีเอสอาร์ เบื้องต้นได้ติดต่อเรือนจำเพชรบุรีไว้แล้ว ที่จะนำเงินเดือนสว.ไปบริจาคช่วยเหลือสนับสนุนสิ่งที่เขาขาดแคลน" เกศกมล สว.เพชรบุรี กล่าว
"เกศกมล" สว.จากจังหวัดเพชรบุรี ย้ำว่า การมาเป็นสว.ไม่ใช่มารับค่าตอบแทนที่สูงแต่ต้องทำงานให้คุ้มภาษีประชาชน ส่งคืนกลับให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากที่สุด แต่สิ่งที่หมออยากได้กลับมาตอนนี้ คือ อยากได้กำลังใจ ไม่ต้องชอบหมอก็ได้ แต่อย่าทำร้ายกัน
แม้วันนี้ ไม่พบการเปิดใจของ " เกศกมล" ตามสื่อทีวีต่างๆ เนื่องจากล้มป่วยจากกระแสโจมตีอย่างหนัก ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเธอ แต่ครอบครัวก็ต้องเข้ารพ.ไปก่อนหน้านี้ตามที่ "เนชั่นทีวี" เคยรายงานไปแล้ว แต่ "เกศกมล" เคยเปิดใจกับสิ่งที่เธอกำลังเผชิญว่ามาจากสาเหตุใดกันแน่
"ไม่ทราบว่า อาจเป็นเพราะเราเป็นเป้าที่ได้คะแนนมาอันดับหนึ่งหรือไม่ หรือ เราเป็นคนไม่มีพาวเวอร์ทางการเมือง จึงทำให้ใครต่อใครหยิบมาเล่นโจมตีง่าย คนนั้นคนนี้รังแกได้ เพื่อเป็นการดิสเครดิต เตะตัดขาซะเลย " เกศกมล กล่าวทิ้งท้าย
ชมคลิป วิบากกรรม" หมอเกศ" ไปต่อหรือพอแค่นี้