17 กรกฎาคม 2567 แม้ยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) อย่างเป็นทางการ แต่ก็ถูกกระแสโซเชียลตรวจสอบอย่างหนักหน่วง สำหรับ "แพทย์หญิง ดร. เกศกมล เปลี่ยนสมัย" หรือ "หมอเกศ" สมาชิกวุฒิสภา กลุ่มที่ 19 (ผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ) โดยเฉพาะการตรวจสอบวุฒิการศึกษาระดับปริญญาเอก ว่าจบจาก "แคลิฟอร์เนีย ยูนิเวอร์ซิตี้" จริงหรือไม่ แม้ว่า "หมอเกศ" จะออกมาชี้แจงผ่านสื่อมวลชนแล้วก็ตาม แต่กระแสโซเชียลยังพยายามขุดประเด็นอื่นๆ มาโจมตี
อย่างเช่น กรณี สื่อโซเชียล มีการนำเสนอทำนองว่า "หมอเกศ" ศึกษาต่อปริญญาเอกที่นิด้าบ้าง หรือ เสนอข่าวว่า "หมอเกศ" จะไปเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ บ้าง สร้างความสับสนงุนงง
ล่าสุด "ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์" ซึ่งได้รับมอบหมายจาก "หมอเกศ" ให้ดำเนินคดี บุคคล คณะบุคคลที่นำเสนอข่าวหมอเกศ อย่างบิดเบือนและสร้างความเสียหาย ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ เปิดเผย คำชี้แจงล่าสุดของ"หมอเกศ" ผ่านทนายเดชา ต่อกรณีโลกโซเชียลนำเสนอข่าวบิดเบือน
#หมอเกศขอชี้แจงเรื่องที่เป็นดราม่าอยู่ในขณะนี้
1. ไม่เคยพูดหรือบอกว่า เรียนจบ ปริญญาเอกแม่โจ้แล้ว พูดแต่ว่า กำลังศึกษาอยู่เท่านั้น สื่อบิดเบือน
2.ม.ธุรกิจบัณฑิต หมอเกศไปร่วมงานซ้อมดับเพลิงจริงและได้คุยกับรองอธิการบดีเรื่องจะไปสอนที่ ม.ธุกิจบัณฑิต จริง แต่หลังจากนั้นได้ปรึกษาหารือกันภายหลัง ไม่สามารถไปร่วมงานได้เนื่องจากมีความไม่ลงตัวของระยะเวลาและกฎเกฎการเข้าเป็นอาจารย์สอนของมหาวิทยาลัย จึงไม่ได้ไปสอน
3.เรื่องที่ไปติวที่ นิด้า เกิดความเข้าใจผิดว่าเรียนหรือจบที่ นิด้า ความจริงแล้ว คือการโพสต์ว่า ไปติวนิด้าเฉยๆเพราะ แม่โจ้ได้ให้นักศึกษาไปติวเพื่อเตรียม พรีเซน หัวข้องานวิจัย ที่ Oxford ซึ่ง Oxford ร่วมกับม.แม่โจ้ในการ พรีเซนหัวข้องานวิจัยเท่านั้น ไม่ใช่การสอบจบ ป.เอก อย่างที่เข้าใจผิด หรือ สื่อบิดเบือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่ามกลางสถานการณ์กระแสโซเชียลตรวจสอบ กดดัน "หมอเกศกมล" อย่างหนัก ทำให้ หมอเกศ จะตัดสินใจทางการเมืองอย่างไรนั้น คนใกล้ชิดหมอเกศ เปิดเผยว่า หมอเกศยังคงเดินหน้าขอทำหน้าที่ สมาชิกวุฒิสภาต่อไป ไม่คิดถอดใจแน่นอน โดยยืนยันความจริงคือความจริง ไม่ได้หวั่นไหวต่อการนำเสนอข่าวที่บิดเบือน
ก่อนหน้านี้ "หมอเกศ" ยังได้เปิดเผยผ่านทีมข่าวเนชั่นทีวี ว่า สิ่งที่เธอได้รับภายหลังการได้รับเลือกเป็นสว.นั่นคือ "ตกใจสองอย่าง" กล่าวคือ "ตกใจ" ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้รับคะแนนสูงสุดขนาดนี้ ตกใจอีกประการ ไม่เคยคิดว่าตนเองจะต้องมาเจออะไรแบบนี้ ในความหมายของเธอ คือ การที่กระแสโซเชียลโหมถล่มเธอ
“เคยมีคนเตือนแล้วว่า จะทำหน้าที่สว.ได้หรือไม่ ซึ่งหมอก็บอกแล้วว่า หมอมีทำธุรกิจก็โอเคอยู่แล้ว แต่ถึงวันหนึ่ง เราก็อยากตอบแทนสังคม เราอยากเข้ามามีบทบาท เป็นส่วนเล็กๆ ที่จะช่วยสังคม ประเทศชาติ ให้ดีขึ้น แต่ไม่คิดว่าความตั้งใจของหมอ ต้องมาเจออะไรแบบนี้"
อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีปัญหาวุฒิการศึกษาของ "แพทย์หญิงเกศกมล เปลี่ยนสมัย" (หมอเกศ) สว.กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ขณะนี้พบว่า มีการรับ 2 คำร้องที่ขอให้ตรวจสอบว่าการที่ "แพทย์หญิงเกศกมล" ระบุประวัติการศึกษาว่าเป็นศาสตราจารย์ จบปริญญาเอกจาก California University ในใบเอกสารแนะนำตัวสมาชิกวุฒิสภา (สว.3)
เข้าข่ายเป็นการกระทำหลอกลวง จูงใจให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณเพื่อให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนให้แก่ตนตามมาตรา 77 (4) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยกันได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561หรือไม่
ทั้งนี้ ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว.ปี 2561 มาตรา77 กำหนดไว้ว่า ผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ (4) หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้บุคคลอื่น เข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณของผู้สมัครใด เพื่อจูงใจให้ผู้อื่นสมัครเข้ารับเลือก เป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือถอนการสมัคร หรือกระทำการใด ๆ อันไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ผู้นั้นหมดสิทธิ ที่จะเลือกหรือได้รับเลือก หรือเพื่อจูงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี