จากกรณีมีเอกสารหลุดว่อนมีโซเชียล คำสั่งนายกฯ ให้ "บิ๊กต่อ" กลับปฏิบัติราชการ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พบว่ามีข้อสังเกตไม่น้อย โดยเป็นเอกสารตราครุฑ ในลักษณะเตรียมเสนอให้ “นายกฯเศรษฐา” ลงนาม มีพิมพ์ชื่อนายกฯรอเอาไว้ แต่ยังไม่มีลายเซ็น และยังไม่ได้ใส่เลขคำสั่ง
เนื้อหาในหนังสือตรงตามที่สื่อหลายสำนักรายงาน ซึ่งคือส่ง “บิ๊กต่อ” กลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้กลับไปปฏิบัติราชการในตำแหน่งเดิม เพราะไม่มีความจำเป็นที่สำนักนายกรัฐมนตรีต้องเก็บตัวไว้ เนื่องจากผลสอบของคณะกรรมการชุด “ปลัดฉิ่ง” ฉัตรชัย พรหมเลิศ ออกมาแล้ว ส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างไร ก็ตัดสินใจเอง
กรณี “บิ๊กโจ๊ก” ถูกส่งตัวกลับไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปก่อนแล้ว แต่ยังรอลุ้นเรื่องที่โดนสั่ง “ให้ออกจากราชการไว้ก่อน” เนื่องจากยังไม่มีการนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ และเจ้าตัวก็อุทธรณ์ต่อ ก.พ.ค.ตร. ไว้ด้วย
ดังนั้นหากอ่านจากเอกสารแล้ว อาจทำให้หลายคนสงสัยว่าคำสั่งนี้เป็นคำสั่งจริงหรือไม่ และหากจริง กล้าเสนอนายกฯ และนายกฯกล้าเซ็นหรือไม่
1.คณะกรรมการชุด “ปลัดฉิ่ง” มีชื่อเต็มๆ ว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องคดีของบุคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระหว่าง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
คณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจตรวจสอบข้อเท็จจริงของความขัดแย้งระหว่าง “2 บิ๊กตำรวจ” เท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจชี้ถูกชี้ผิด หรือบอกให้ส่งใครกลับสู่ตำแหน่งเดิม หรือดำเนินคดีกับใครได้
อาจสรุปได้ว่า ข้อกล่าวหาที่มีการกล่าวหากันนั้น มีมูลน่าเชื่อหรือไม่ เพื่อเปิดทางให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการต่อ
2.คำสั่งให้ “บิ๊กต่อ” กลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงน่าจะเป็นการดำเนินการอีกส่วนหนึ่ง ต่อเนื่องจากข้อสรุปของคณะกรรมการชุด “ปลัดฉิ่ง”
3.ผู้มีอำนาจลงนามจะกล้าลงนามหรือไม่ เนื่องจาก “บิ๊กต่อ” ก็ถูกกล่าวหาในคดีอาญา และถูกไต่สวนโดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในข้อหาฉกรรจ์ ถึง 3 เรื่อง คือ
ทั้งนี้มีรายงานว่า "นายกฯเศรษฐา" อาจไม่เร่งรีบลงนามในคำสั่ง หากมีการเสนอให้เซ็นจริงๆ เพราะตนเองก็อยู่ในภาวะ “ลูกผีลูกคน” จากกรณีถูก 40 สว.ยื่นสอยในศาลรัฐธรรมนูญ จึงไม่อยากสร้างพันธนาการเพิ่ม และอาจดึงเวลาไว้ก่อน หรือหากลไกตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมก่อน และหากจะลงนามส่งกลับจริงๆ ก็ควรมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยพร้อมกันไปด้วยเลยเหมือนกรณี “บิ๊กโจ๊ก” มิฉะนั้นน่าจะถูกร้องเรียนจากฝั่ง “บิ๊กโจ๊ก” และถูกวิจารณ์อย่างหนักแน่นอน