svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

อัยการนัด 23 พ.ค.ฟังคำสั่งคดี "จักรภพ" ปมครอบครองอาวุธสงคราม

22 เมษายน 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

อัยการนัด 23 พ.ค. ฟังคำสั่งคดี "จักรภพ เพ็ญแข" ปมครอบครองอาวุธสงคราม ขณะที่เจ้าตัวเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม ย้ำไม่ใช่แค่ "ยิ่งลักษณ์" แต่ควรได้ความเป็นธรรมเหมือนกันทุกคน ลั่นหลังเคลียร์ทุกอย่างจบเตรียมลุยงานการเมือง

22 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปราม นำตัว "นายจักรภพ เพ็ญแข" อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเป็นอั้งยี่ หลังพบความเชื่อมโยงกับอาวุธสงครามจำนวนมากซุกในบ่อน้ำพื้นที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา มาส่งยังพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 10  

โดย นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความนายจักรภพ กล่าวว่า วันนี้ (22เม.ย.) พนักงานสอบสวนนำตัวพร้อมสำนวนมาส่งให้พนักงานอัยการพิจารณา โดยเดิมทีสำนวนนี้ มีการส่งสำนวนเเละมีความเห็นสั่งฟ้องมาก่อนเเล้ว เเต่คดีนี้เดิมมีผู้ต้องหาหลายรายในส่วนที่ถูกฟ้อง เป็นจำเลยศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง บางรายทางพนักงานอัยการก็สั่งไม่ฟ้องในภายหลัง

 

"ซึ่งเราก็นำประเด็นในคำพิพากษาที่ยกฟ้องจำเลยมายื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการในวันนี้ ว่านายจักรภพไม่เกี่ยวข้อง โดยทางพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 10 นัดฟังคำสั่งอีกครั้งในวันที่ 23 พ.ค. เวลา 10.00 น." ทนายความนายจักรภพ ระบุ

ด้าน นายจักรภพ กล่าวว่า ตนโดยทีมทนายความได้ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากมั่นใจในความบริสุทธิ์ในคดีนี้ และเชื่อว่ามีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องจึงทำให้เกิดคดีนี้ขึ้นมา แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถพูดได้ เนื่องจากต้องการเคารพกระบวนการยุติธรรม

 

"ผมมีความเคารพในกระบวนการยุติธรรม จึงได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในครั้งนี้ และที่ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม เพื่อให้ผลนำมาสู่การสร้างความกระจ่างเเจ้งให้กับเรื่องนี้ เเละผมมีความมั่นใจว่ากระบวนการยุติธรรม มีความเปลี่ยนแปลงไปมาก และยังเป็นที่พึ่งสุดท้าย ในการให้ความเป็นธรรมและความยุติธรรมในทางสังคมและการเมือง" นายจักรภพ กล่าว 

 

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้สำคัญมากเพราะหากไม่ได้รับความเป็นธรรม สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปก็จะเป็นสิ่งที่ไม่ดีนัก เป็นการเผชิญหน้าทางการเมือง ถ้าหากกระบวนการยุติธรรม สามารถสร้างให้ธรรมมะเป็นข้อยุติได้จริง ก็เป็นเรื่องที่เป็นข่าวดีสำหรับทุกคน ไม่เฉพาะคนในคดีนี้เท่านั้น

เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงคนที่ลี้ภัยในต่างประเทศ เช่น "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยใช่หรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า ในแง่ของกระบวนการยุติธรรมแล้วหมายถึงทุกคน ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนไทยไม่ ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี หรือผู้ประกอบอาชีพอะไรก็ตาม ถ้าเกิดเป็นคนไทย ควรได้รับความเป็นธรรมเสมอภาคเท่าเทียมกันตามกฎหมาย ซึ่งหวังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนหรือคนอื่น ๆ ก็ยังคงซึ่งความยุติธรรมสำหรับทุกคน ทุกฐานะ ทุกอาชีพในเมืองไทยต่อไป

อย่างไรก็ตาม หากคดีเสร็จสิ้นแล้วจะเข้าสู่การเมืองเต็มตัวหรือไม่นั้น ยอมรับว่า มี เเต่บอกได้เลยว่าการเมืองไม่จีรัง ตนหมายถึงลงการเมืองในภาพกว้างเพราะแค่การลงรับสมัครเลือกตั้ง หรือการรับตำแหน่งต่าง ๆ เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการเมือง

 

"การช่วยงานพรรค การช่วยงานกลุ่มการเมือง ก็ยังเป็นสิ่งต่าง ๆ ที่เราทำได้ งานการเมืองที่จะผลักประเทศไปข้างหน้า คงไม่ทิ้งเพราะนี่คือชีวิต ซึ่งระหว่างนั้น ถ้าไม่มีอะไรขัดข้อง ก็อาจจะไปเป็นอาจารย์ หรืออาชีพสื่อมวลชน เพราะผมสนใจและเป็นอาชีพเก่า ก็คิดว่าคงจะไม่เป็นที่รังเกียจที่จะขอมีบทบาทบ้าง แต่เรื่องใหญ่จริงๆก็จะไม่ทิ้งการเมือง" อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ระบุ

 

logoline