svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"จักรภพ เพ็ญแข" ถึงไทยแล้ว เปิดใจลี้ภัย 15 ปี พร้อมสู้ทุกคดี ขอโอกาสรับใช้ชาติ

28 มีนาคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"จักรภพ เพ็ญแข" อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ถึงไทยแล้ว ถูกตำรวจกองปราบคุมตัวไปทันที เจ้าตัวเปิดใจหลังลี้ภัยนาน 15 ปี มั่นใจพร้อมสู้ทุกข้อหา วอนขอโอกาสรับใช้ชาติ

28 มีนาคม 2567 จากกรณี นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)  โพสต์เฟซบุ๊กของ "จักรภพ เพ็ญแข" ซึ่งมีข้อความพร้อมรูปภาพ ขณะนั่งจิบกาแฟ โดยมีข้อความระบุว่า..

"พฤ. 28 มี.ค. 67 เวลา 07.35 น. กลับไปรับใช้ เมืองไทยครับ" 

หลังจากทุกสายตาจากเหล่าคอการเมืองต่างจับจ้อง เพราะนับเป็นการเดินตามรอย "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ ที่ได้เดินทางกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2566 หลังต้องไปพำนักยังต่างประเทศมาเป็นเวลาหลายปี
"จักรภพ เพ็ญแข" ถึงไทยแล้ว เปิดใจลี้ภัย 15 ปี พร้อมสู้ทุกคดี ขอโอกาสรับใช้ชาติ

ต่อมาเมื่อเวลา 00.58 น. วันนี้ (28 มี.ค.) ได้โพสต์คลิปวิดีโอ ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะเดินทางไปยังสนามบินเพื่อเดินทางกลับมายังประเทศไทย ระบุมีข้อความว่า..

"คุณจักรภพกลับบ้าน🌏ในรอบ​ 15​ ปี​ #ลี้ภัยทางการเมือง​ #สงกรานต์ปี2552 #นปก.​ #เสื้อแดง​ #มวลชน​ #ผู้รักประชาธิปไตย​ #คนเสื้อแดง​ #พรรคเพื่อไทย​ #รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ"

ขณะที่เนื้อหาภายในคลิปวิดีโอความยาว 4.26 นาทีนั้น  นายจักรภพ กล่าวว่า สวัสดีครับ พี่น้องชาวไทยที่รักทุกคน ผมจักรภพ เพ็ญแข ออกจากเมืองไทยมาเมื่อ 15 ปีที่แล้ว และวันนี้กำลังจะเดินทางกลับเมืองไทย ไปพบกลับพี่น้องชาวไทยที่รักและคิดถึงมานาน

ผมออกมาอยู่ต่างประเทศ เพราะมีเหตุผลทางด้านการเมือง ผมเชื่อว่าพี่น้องหลายท่านคงทราบดี ตอนนี้ผมกำลังนั่งรถที่เพื่อนขับพาไปสนามบิน ไปขึ้นเครื่องบินกลับบ้าน จะไปถึงเมืองไทยวันพฤหัสบดี ที่ 28 มีนาคม เวลา 07.35 น. เดินทางตรงไปเลย

ผมนึกขึ้นได้ว่า ผมหายไปนานเหลือเกิน จู่ๆโผล่หน้ามา พี่น้องหลายท่านก็มีสิทธิ์จะถามว่า เกิดอะไรขึ้น ตอนหายก็หายไป ตอนมาก็มา เล่าสู่กันฟังได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น

ผมก็ขอเรียนสั้นๆ ว่า เรามีความขัดแย้งทางการเมืองกันอยู่ตอนนั้น ผมก็ถืออยู่ข้างหนึ่ง พี่น้องอีกจำนวนมากก็ถืออยู่อีกข้างหนึ่ง แล้วเราก็เกิดความขัดแย้ง จนผมออกมาอยู่นอกประเทศ เพราะมีความ.. คงเป็นเรื่องอันตราย สวัสดิภาพส่วนตัว 

หลังจากนั้นผมก็ติดตามเหตุการณ์ในบ้านเมืองไม่เคยทิ้งเลย เหมือนอยูในประเทศไทย ทุกวันๆ ตลอด 15 ปีนี้ แต่ไม่สามารถกลับเมืองไทยได้ เนื่องจากว่าเหตุการณ์ยังไม่เอื้ออำนวยให้
"จักรภพ เพ็ญแข" ถึงไทยแล้ว เปิดใจลี้ภัย 15 ปี พร้อมสู้ทุกคดี ขอโอกาสรับใช้ชาติ

ผมไปอยู่ต่างประเทศ 15 ปี ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของโลกในทุกเรื่อง ทำให้สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นมาคือ ห่วงประเทศไทย ผมก็เป็นคนไทย รักประเทศไทย ความรักของเราแสดงออกในรูปแบบที่ต่างกัน ผมเองไปทางการเมือง ท่านอื่นก็ไปทางอื่นๆ ที่สุจริต ทำงานหนักเพื่อประเทศชาติโดยหน้าที่

ผมคิดว่าผมสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์เหล่านี้กลับบ้านได้ เอาไปใช้ในการเตรียมประเทศไทยในยามที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงแบบจำหน้าไม่ได้ ไม่ว่าจะเรื่องภูมิอากาศ เรื่องการเมือง AI แม้แต่เรื่องโรคภัยไข้เจ็บ

แล้วถามว่าความคิดต่างๆ ที่เคยมีในอดีต ที่ทำให้เกิดความขัดแย้งเนี่ย จะว่ายังไง ผมก็ต้องตอบอย่างนี้ครับว่า คนเราทุกคน มันได้คิดหลังจากเวลาผ่านไปช่วงระยะหนึ่ง 10 กว่าปีนี้ทำให้ผมได้คิดว่า เราคนไทยจะขัดแย้งกันทำไม ในเมื่อโลกกำลังเปลี่ยนแปลง ประเทศไทยควรรวมเป็นหนึ่งเดียว ความหลากหลายทางความคิดเป็นเรื่องดี ไม่น่าจะเป็นเหตุให้ทะเลาะ ผมจึงเอาตัวเองนี่แหละครับเป็นจุดเริ่มต้น ไม่ไปบอกให้ใครทำแล้ว เมื่อเราคิดเราต้องทำก่อน

ผมถึงเดินทางกลับประเทศไทยวันนี้ ไม่ใช่ว่าจะไปเดินปร๋อที่ไหนสบายนะครับ กลับไปเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม มีคดีเกิดขึ้นหลายคดี ผมต้องกลับไปมอบตัว และก็ไปขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามที่เป็นตามกฎหมาย และผมก็หวังว่าผมจะสามารถสู้คดีได้ อธิบายตัวเองได้ และออกมาสู่อิสรภาพมารับใช้บ้านเมืองได้

ส่วนเรื่องสิ่งที่เคยพูดไว้ เคยเขียนไว้ เคยแสดงออกไว้ ผมไปเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่ผมอยากเรียนท่านว่า ผมได้คิดอะไรใหม่ขึ้นเยอะ และขอให้โอกาสผมสักนิดเถอะครับว่าความคิดใหม่ๆ จะช่วยประเทศได้ไงบ้าง

อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ได้พบกันแล้วครับ ขออนุญาตกลับบ้าน ผมอยู่ข้างนอกพอแล้วครับ

ชมคลิป >>

"จักรภพ" ถึงไทยแล้ว!
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. วันนี้ (28 มี.ค.) นายจักรภพ ได้เดินทางถึงในไทย โดยจะเดินทางไปกองบังคับการปราบปราม เพื่อมอบตัวตามหมายจับในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและเป็นอั้งยี่ รวมทั้งยังถูกกล่าวหาในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้า บริเวณประตู 9 ฝั่งผู้โดยสารขาเข้า สนามบินสุวรรณภูมิ สื่อมวลชนต่างมารอทำข่าวและบันทึกภาพ จนเมื่อถึงเวลาประมาณ 08.51 น. ไม่พบว่านายจักรภพ เดินทางออกมาตามกำหนดการแต่พบญาติของนายจักรภพ 2 คนเดินมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเข็นกระเป๋าของนายจักรภพออกมาด้วย

ญาติของนายจักรภพ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้คุมตัวนายจักรภพไปยังกองบังคับการปราบปราม โดยให้ขึ้นรถของเจ้าหน้าที่ที่บริเวณชั้นล่าง ส่วนเหตุที่ล่าช้าในขั้นตอนของตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เนื่องจากติดในเรื่องของเอกสารหนังสือเดินทางที่หมดอายุ จึงต้องทำเอกสารยืนยันตัวตนใหม่

หลังจากนี้นายจักรภพ จะให้สัมภาษณ์ที่กองบังคับการปราบปราม หลังจากที่ถึงประเทศไทยนายจักรภพ มีสีหน้าที่เป็นปกติไม่มีท่าทีกังวล ส่วนเหตุผลที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพาขึ้นรถที่ชั้นล่างแทนที่จะเป็นประตู 9 ที่มีกำหนดการเดิมไว้ น่าจะมาจากการประสานงานที่คาดเคลื่อนกัน

ทั้งนี้สำหรับการเดินทางกลับเข้าประเทศไทยในครั้งนี้ ได้มีการพูดคุยแล้วบอกความรู้สึกว่าอยากจะช่วยกลับเข้ามาทำงานให้กับบ้านเมืองเหมือนตามที่ได้บอกไว้ ส่วนเรื่องคดีก็ไม่น่าจะมีอะไรแล้วเพราะมันเป็นการกล่าวหา ที่ไม่ได้เป็นความจริง ส่วนความรู้สึกของญาตินั้นมองว่า 15 ปีก็นานพอแล้วสำหรับคนที่ต้องลี้ภัยไปทางการเมือง 
"จักรภพ เพ็ญแข" ถึงไทยแล้ว เปิดใจลี้ภัย 15 ปี พร้อมสู้ทุกคดี ขอโอกาสรับใช้ชาติ
เปิดสาเหตุลี้ภัยนาน 15 ปี

นายจักรภพ เพ็ญแข ก่อนจะเข้าสู่ถนนสายการเมือง เติบโตมาจากการเป็นผู้ดำเนินรายการโทศทัศน์ให้หลายช่อง นานนับ 10 ปี กับเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ สวมแว่นตาอันโตและทรงผมเรียบแปล้ พร้อมกับฝีปากวาจาอันฉะฉาน จนสร้างภาพจำให้ใครหลายคนยุคนั้น

ต่อมา ได้รับการแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกฯ ในรัฐบาลทักษิ 1 ก่อนที่เวลาต่อมา "จักรภพ" จึงเข้าสู่สนามการเมืองแบบเต็มตัว เมื่อปี 2548 และปี 2549 ในนามผู้สมัคร สส.กรุงเทพ พรรคไทยรักไทย แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ทั้ง 2 ครั้ง ก่อนต่อมาได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองเลขาธิการนายกฯ ในรัฐบาลทักษิณ 2

ภายหลังเกิดรัฐประหาร เมื่อปี 49 และพรรคเพื่อไทยถูกยุบ "จักรภพ" ถือเป็นอีกหนึ่งบุคคลในการร่วมก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม "พีทีวี" หรือ People television โดยยังคงทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการวิเคราะห์การเมือง และยังเป็นหนึ่งในแกนนำ นปก. ก่อนพัฒนากลายเป็น นปช.

ภายหลังการเมืองเริ่มสงบ "จักรภพ" ถูกแต่งตั้งในรัฐบาล “สมัคร สุนทรเวช” ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ โดยมีหน้าที่กำกับดูแลสื่อมวลชนภาครัฐ คือ สถานที่โทรทัศน์ช่อง 11 หรือ “เอ็นบีที” ในปัจจุบัน
"จักรภพ เพ็ญแข" ถึงไทยแล้ว เปิดใจลี้ภัย 15 ปี พร้อมสู้ทุกคดี ขอโอกาสรับใช้ชาติ
สำหรับสาเหตุทำให้ต้องลี้ภัย เนื่องจากการปาฐกถาที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย หรือ เอฟซีซีที เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2550 ซึ่งได้พูดช่วงหนึ่ง ถึงกรณีที่ตัวเองถูกจับกุมในฐานะแกนนำ บริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ และการบรรยายเป็นภาษาไทยต่อเครือข่ายคนรักทักษิณ ที่นครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ในปีเดียวกัน เพราะมีเนื้อหาล่อแหลม

ก่อนเป็นประเด็นถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งความต่อกองปราบ เพื่อดำเนินคดีตามมาตรา 112 ฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จากประเด็นนี้ ทำให้ฝ่ายค้านเวลานั้น คือ พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ได้มีการทำหนังสือถึง สมัคร เพื่อให้พิจารณาปลดจากตำแหน่ง

ทว่า เรื่องราวดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง จนวันที่ 30 พ.ค. 2551 "จักรภพ" จึงได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง โดยให้เหตุผลต่อการตัดสินใจ ก็เพื่อให้รัฐบาลมีความเข้มแข็ง

กระทั่งวันที่ 20 เม.ย. 2552 "จักรภพ" ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอฟพี ผ่านทางโทรศัพท์เป็นที่แรก พร้อมกับยืนยันว่าตัวเองได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว

logoline