"วิสุทธิ์" มั่นใจไม่มีสส.เพื่อไทยโดดอภิปรายไปรับ "ทักษิณ" ที่เชียงใหม่

11 มีนาคม 2567 อีกหนึ่งเวทีที่รัฐบาลเตรียมเผชิญ โดยเฉพาะกับการเปิดอภิปรายทั่วของ สว. ตามมาตรา 153 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 25 มี.ค.นี้ และตามมาด้วยจากฝั่ง สส. ฝ่ายค้าน ที่จะขอเปิดอภิปรายตามมาตรา 152 ด้วยเช่นกัน จึงกลายเป็นศึกคู่ขนานที่ยากหลีกเลี่ยง

รัฐบาลไร้ปัญหาเจอ สว.-สส. เปิดอภิปราย

โดย "นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ" สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล กล่าวว่า การที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายตามมาตรา 152 นั้น เชื่อว่ารัฐบาลไม่มีปัญหา และมั่นใจว่า รัฐบาลพร้อมที่จะตอบการอภิปรายครั้งนี้ ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นจากการถูก สว.ซักฟอก ก็เป็นการอภิปรายของฝ่ายค้านไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

อย่างไรก็ตาม เพราะในการอภิปรายครั้งนี้รัฐบาลยังไม่ได้ใช้เงินงบประมาณสักบาท ซึ่งร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 จะเข้า ที่ประชุมในวาระ 2 และ 3 ในวันที่ 20 มี.ค. และเชื่อมั่นว่ารัฐบาลไม่มีความกังวล และคงจะไม่ต้องเตรียมองครักษ์ไว้พิทักษ์รัฐบาล เพราะเชื่อว่ารัฐบาลตอบได้

นอกจากนี้ อีกทั้งทางรัฐบาลเองก็มี สส.ในสภา ซึ่งมีความพร้อม ถ้าอภิปรายอยู่ในระเบียบข้อบังคับ ก็ไม่มีปัญหา อย่าไปพาดพิงบุคคลภายนอก หรือพูดเกินเลย ก็จะเป็นการกระทบกัน แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาของสภา และเป็นความสวยงามของประชาธิปไตย 

ใครจะไปพบ "ทักษิณ" ไม่มีกฎหมายห้าม

สำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นช่วงเดียวกับที่ "นายทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไป จ.เชียงใหม่ จะมี สส.พรรคเพื่อไทยหรือ สส.พรรคร่วมรัฐบาลไปต้อนรับ จะต้องมีการกำชับหรือไม่นั้น ซึ่งที่ผ่านมามีแต่คนถามประเด็นนี้ แต่ภายในพรรคเพื่อไทย ไม่ได้มีการพูดคุยกันในประเด็นนี้ เป็นเรื่องที่ดีที่นายทักษิณจะไปกราบไหว้บรรพบุรุษ เพราะนายทักษิณเป็นคนเหนือ

"สิ่งที่คนเหนือเคารพเทิดทูนคือบรรพบุรุษ ผู้มีพระคุณ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ในเดือน เม.ย. ก็จะไปกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนทั่วไปเดือน เม.ย. ก็ถือโอกาสกราบไหว้พ่อแม่ หรือผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ รวมถึงคนที่จากโลกนี้ไปแล้ว ซึ่งเป็นประเพณีที่ดีงามของคนเหนือ" ประธานวิปรัฐบาล ระบุ 

สำหรับการนายทักษิณที่จะไปกราบไหว้บรรพบุรุษไม่ใช่เรื่องแปลกส่วนใครจะไปด้วยตนไม่ทราบ สส.ในพรรคก็ไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ และตนก็ไม่ทราบว่านายกฯ จะไปพบนายทักษิณหรือไม่ แต่เชื่อว่า ก็ไม่ได้มีข้อห้ามในกฎหมาย ไม่มีเรื่องอะไรผิด หากจะเคารพนับถือกัน ประชาชนจะไปหานายทักษิณ ด้วยความคิดถึง ที่ออกประเทศไทยไป 17 ปีก็เป็นเรื่องปกติที่ทำได้กฎหมายไม่ได้ห้าม

ทั้งนี้ พร้อมฝากไปยังคนบางส่วนอย่าจมอยู่กับนายทักษิณ แล้วเอามาเป็นประเด็นการเมืองซึ่งมองว่าไม่เกี่ยวกัน คนที่จะไปกราบไหว้บรรพบุรุษหรือคนที่เคารพนับถือ เป็นสิทธิ์ของประชาชนคนทั่วไป

สส.เพื่อไทยห้ามไปต้องอยู่สภาเพื่อประชุม

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงความเหมาะสมต่อ สส. เพื่อไทยที่อาจจะไปต้อนรับนั้น ตนได้พูดคุยกับ "นายสรวงศ์ เทียนทอง" เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้กำชับเป็นเด็ดขาด ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สส.พรรคเพื่อไทยจะต้องอยู่เข้าร่วมการประชุมสภาทำหน้าที่ในสภา และเชื่อว่าไม่มีใครไปและเชื่อว่าในการประชุมสภา จะประชุมสภาร่วมกันในการพิจารณากฎหมาย และทำหน้าที่ 
 
ส่วนจะมีคนโดดประชุมไปหรือไม่นั้น ส่วนตัวเชื่อว่ายาก พร้อมย้ำว่ามีความเชื่อมั่นว่าไม่มีใครไป นอกจากจะเป็นอดีต สส. ตนก็ไม่ทราบ เพราะไม่ได้ติดต่อกัน หากจะไปก็เป็นสิทธิ์ แต่ สส.ของพรรคเพื่อไทยในวันประชุมอยู่สภาฯ ครบ

"ในการประชุมสภาไม่ถึงกับต้องกำชับ สส.หรือกำหนดบทลงโทษ เพราะเชื่อมั่นว่า ในจิตสำนึกรับผิดชอบของอำนาจหน้าที่ ที่ประชาชนมอบให้เชื่อว่า สส.จะมาร่วมประชุมโดยเฉพาะวันพุธและวันพฤหัสบดี สำหรับกรณีที่รัฐมนตรีมาตอบกระทู้ในสภา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความพึงพอใจมาก และเชื่อว่าในสัปดาห์นี้รัฐมนตรีทั้งหลาย จะมาตอบกระทู้โดยพร้อมเพรียงกัน" นายวิสุทธิ์ ระบุ

"อิ๊งค์" เยือนกัมพูชาเป็นเรื่องภายในระหว่างพรรค

ขณะที่ นายสรวงศ์ กล่าวถึงกรณีที่ "น.ส.แพทองธาร ชินวัตร" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะไปเยือนประเทศกัมพูชาในสัปดาห์หน้านั้น เป็นการเชิญภายในระหว่างพรรคการเมืองกับพรรคการเมือง ซึ่งอาจจะมีการถกกันในประเด็นการทำพรรค โดยพรรคเพื่อไทยได้เปลี่ยนผู้บริหารพรรคชุดใหม่ และจากการที่ "สมเด็จฮุน เซน" อดีตนายกฯ ของประเทศกัมพูชา ได้มาเยี่ยมนายทักษิณ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ก็ได้มีการพูดคุยกับ น.ส.แพทองธาร ที่อยากจะเชิญพรรคเพื่อไทย ไปแลกเปลี่ยนการทำพรรค โดยคนรุ่นใหม่

ทั้งนี้ ส่วนตัวมั่นใจว่าทางกัมพูชาเองก็อยากจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะนอกจากบุตรชายของสมเด็จ ฮุนเซน คือ "ฮุน มาเนต" นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของกัมพูชาแล้ว ส่วนมากคนในพรรคก็ยังเป็นคนรุ่นเก่าอยู่ จึงอยากมีการแลกเปลี่ยนกับพรรคเพื่อไทย

พร้อมเลือกตั้ง อบจ. เตรียมเปิดตัว 4-5 จังหวัด

ส่วนการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งท้องถิ่นระดับ อบจ.นั้น พรรคได้มีการเตรียมในจังหวัดที่มีความพร้อม ซึ่งเป็นจังหวัดที่ค่อนข้างมีเอกภาพ สส. และผู้สมัครให้ความเห็นชอบร่วมกัน โดยจะไม่ส่งลงหมดทุกจังหวัด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเมืองท้องถิ่นเป็นพื้นฐานสำคัญ ที่จะมาช่วยผลักดันการเมืองระดับชาติ เพราะงบประมาณต่างๆ เมื่อกระจายไปสู่ระดับท้องถิ่นแล้ว การเมืองระดับชาติก็ต้องพึ่งพาระดับท้องถิ่นพอสมควร ส่วนจังหวัดที่มีความพร้อมในการส่งผู้สมัครก็จะมีการเปิดตัว ประมาณ 4-5 จังหวัด และจะทยอยเปิดไปเรื่อยๆ

หมดยุคบ้านใหญ่หลังมีกระแสไหลเข้าก้าวไกล

ส่วนกระแสบ้านใหญ่ขณะนี้เหมือนกำลังไหลเข้าพรรคก้าวไกลนั้น ซึ่งคำว่าบ้านใหญ่คิดว่าล้าสมัยไปแล้ว อุดมการณ์ต่างๆ และการทำพรรคการเมืองก็มีความคิดเห็นที่ตรงกันและแตกต่างกันบ้าง คำว่าบ้านใหญ่คือครอบครัวที่มีพื้นฐานทางการเมืองในจังหวัดต่างๆ ซึ่งประชาชนก็เข้าใจอยู่แล้วว่า ใครอยู่ในพื้นที่ไหน โดยเฉพาะการเมืองท้องถิ่น และต้องยอมรับว่าการเมืองท้องถิ่นต้องอยู่กับประชาชน

"ราเมศ" ยัน ปชป. พร้อมอภิปราย

ด้าน "นายราเมศ รัตนะเชวง" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ในส่วนของพรรคได้มีการเตรียมการในเรื่องการอภิปรายทั่วไปมาสักระยะหนึ่งแล้ว โดยคณะกรรมการบริหารพรรคได้มีการพูดคุยเรื่องนี้มาตั้งแต่การประชุม กก.บห.นัดแรก และมอบหมายให้ "นายเดชอิศม์ ขาวทอง" สส.สงขลา และเลขาธิการพรรค พร้อมนายนริศ ขำนุรักษ์ รับผิดชอบในส่วนของการดำเนินกิจการทางการเมืองในสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนการกำหนดประเด็นในที่ประชุม สส.ของพรรคจะมีการประชุมพูดคุยกันในทุกวันอังคาร

ทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่

"ประชาธิปัตย์เราทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง ตรงไปตรงมา การอภิปรายนอกจากการซักถามข้อเท็จจริง รวมถึงข้อเสนอแนะแล้ว การชี้ให้สังคมได้เห็นว่า กว่า 6 เดือน ภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สอบตกในเรื่องการทำงาน ไม่เหมือนที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ต่อพี่น้องประชาชน พูดอย่างทำอย่าง พูดแล้วไม่ทำ เหมือนที่เคยบอกไว้ว่าเป็นรัฐบาลที่หน้าไหว้หลังหลอก" นายราเมศ ระบุ 

อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (12มี.ค.) จะมีการพูดคุยเรื่องนี้ในที่ประชุม สส. เพื่อเตรียมความพร้อมในการอภิปรายอย่างเข้มข้น โดย "นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน" หัวหน้าพรรค ได้ย้ำตลอดว่าให้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้เต็มที่ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศให้มากที่สุด