2 กมธ. เชื่อปัญหาที่ดิน ส.ป.ก.เขาใหญ่ จะจบลงด้วย "วันแมพ"

6 มีนาคม 2567 ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมของ คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย  ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ และคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  สภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 2 เพื่อพิจารณาข้อพิพาทที่ดิน ส.ป.ก. ทับที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา 

มี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ ,ตัวแทนกฤษฎีกา ป.ป.ช.  ,กรมแผนที่ทหาร ,สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) เข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการ ขาดเพียงตัวแทน ส.ป.ก. ที่ไม่ได้มาร่วมชี้แจง โดยอ้างว่าติดงานวันสถาปนา

โดยช่วงแรก มีการรายงานการลงพื้นที่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ของคณะกรรมาธิการฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าเป็นพื้นที่สมบูรณ์ ไม่เหมาะไปออก ส.ป.ก. ซึ่งการลงพื้นที่มีชาวบ้านมายื่นหนังสือว่า ได้ยื่นรายชื่อขอ ส.ป.ก. แต่ไม่ปรากฎรายชื่อว่าจะได้รับจัดสรร  รวมทั้ง ขอให้ ป.ป.ช. ไปดูรายชื่อคนที่ได้ มีความเชื่อมโยงกลุ่มนายทุนหรือไม่ โดยเฉพาะจุดที่ 3 ที่ลงพื้นที่ เป็นเขาลาดชัน ไม่เหมาะกับเป็นพื้นที่การเกษตร เพราะต้องระเบิดเขา เกรงการเปลี่ยนมือแล้วนำไปใช้ผิดหลักเกณฑ์ ที่ดินไม่ตกถึงมือเกษตรกร 

ด้าน นายชัยวัฒน์ ได้ชี้แจงข้อตกลงของ กระทรวงทรัพย์ และ กระทรวงเกษตรฯ ที่ได้หารือร่วมกัน พร้อมถาม กรมแผนที่ทหารยึดโยงจากหมุดไหนในการออกแผนที่

ขณะที่ ผู้แทนกรมแผนที่ทหาร ชี้แจงถึงการให้เจ้าหน้าที่ไปสำรวจ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ไปชี้จุดด้วย ยืนยันการสำรวจและรังวัดยึดหลักวิชาการ และได้รับมอบหมายไปสำรวจ เพราะกรมแผนที่ทหารได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าหน้าที่เทคนิคของวันแมพ ที่ไปสำรวจพื้นที่ดังกล่าวด้วย พร้อมอธิบายถึงการบันทึกในสมุดรังวัด ว่ามีการเดินผ่านร่องเขาลูก เขาใหญ่ ทำให้ทราบเส้นแนว และการลงพื้นที่ไม่เจอหมุดไม้ เจอแต่หมุดซีเมนต์ที่ถูกนำไปปักไว้ จึงยึดภูมิประเทศที่เป็นคลอง ร่องน้ำ และพบเขาช่องลม ที่น่าจะเป็นจุดสำรวจเดิมเมื่อปี 2503 และการเทียบกับภาพถ่ายทางอากาศในทุกปี ตั้งแต่ 2496-2555   

ขณะที่ นายชัยวัฒน์ อธิบายเสริมจากภาพถ่ายว่า ในปี 2525 มีแนวกันไฟป่า และปี 2526 เริ่มมีปัญหาที่ทำกินในแปลงปลูกป่า และมีการเผาป่า ซึ่งขณะนั้นประกาศให้เป็นพื้นที่อุทยานแล้ว พร้อมตั้งข้อสังเกตการไปเดินสำรวจตามร่องห้วย ที่ไม่ยึดหมุด ทำให้พื้นที่ขยับออกห่างจากหลักเดิมที่มีอยู่อย่างถูกต้อง ตามหลักหมุดตามแนวเขตพระราชกฤษฎีกา การเอาร่องห้วย และสอบถามประชาชน จะทำให้แนวเขตไม่ตรง การยึดหมู่บ้าน รวมถึงขอบแนวของหมู่บ้านนั้น ทำไม่ได้ แต่ต้องยึดจากวัด เพราะวัดเป็นศูนย์กลางของหมู่บ้าน 

นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า เขาลูกช้างอยู่ในอุทยานเขาใหญ่ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย มีถนนเป็นแนวแบ่งเขตอุทยานแห่งชาติ การพิจารณาแผนที่จะต้องยึดแผนที่แนวท้ายพระราชกฤษฎีกาเป็นหลัก และขณะนี้มีคณะกรรมการวันแมพ ซึ่งจากปี 2550 ครม.ให้ถ่ายทอดแผนที่ขนาด 1 ต่อ 4,000  ซึ่ง ส.ป.ก. ก็ต้องไปถ่ายทอดแผ่นที่ขนาด 1 ต่อ 4,000   แล้วนำมาทาบกับแผนที่ของกรมอุทยานฯ เพื่อให้คณะกรรมการวันแมพ พิจารณา ตามที่มีการตกลงเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2567 อย่างไรก็ตาม แม้จบในเรื่องแผนที่ แต่จะจบทุกอย่างไม่ได้ การออก ส.ป.ก. เจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จะต้องมีความผิด และการออก ส.ป.ก.ในพื้นที่ดังกล่าว ยังประกาศทับที่นิคมสร้างตนเองด้วย 

ด้าน ตัวแทนคณะกรรมการกฤษฎา กล่าวว่า การพิจารณาจะต้องยึดแนวเขตที่มาก่อนเป็นที่ตั้ง ที่ผ่านมากฤษฎาเคยท้วงติง การประกาศเขตปฎิปรูปเป็นเขตอำเภอของ ส.ป.ก. ไม่ใช่พื้นที่เฉพาะที่แยกออกมาที่จะดำเนินการปฎิรูป  

ขณะที่ ตัวแทน ป.ป.ช. กล่าวว่า มีการส่งเรื่องร้องเรียนไปที่ ป.ป.ช.  และอยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริง เสนอคณะกรรมการพิจารณาหาผู้กระทำผิด รวมถึงการหาผู้ที่ไม่อยู่ในข่ายที่ได้รับ ส.ป.ก.     

นายอภิชาติ ศิริสุนทร ประธาน กมธ.ที่ดินฯ จึงได้มอบหลักฐานให้ ป.ป.ช. โดยเป็นรายชื่อผู้ที่ได้รับการจัดสรรที่ดินจาก ส.ป.ก. จำนวน 58 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มี 10 ราย ที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ แต่ได้รับกระจัดสรรจาก ส.ป.ก.

ทั้งนี้ นายสุริยน พัชรครุภานนท์  รอง ผอ.สคทช. ยืนยัน จะมีการจัดลงสำรวจพื้นที่เพื่อความชัดเจน ซึ่งที่ประชุมก็เห็นด้วยและจะร่วมลงพื้นที่ด้วยเช่นกัน เชื่อว่าทุกอย่างจะจบที่คณะกรรมการวันแมพ

"ชัยวัฒน์" ไม่กังวล หลังถูก ส.ป.ก.โคราช แจ้งความ ปมถอน 27 หมุด 

นายชัยวัฒน์ เปิดเผยถึงกรณีถูก ส.ป.ก. โคราช แจ้งความเอาผิด ปมถอน 27 หมุด ว่า เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ซึ่งก็เป็นข้อดี เพราะเขายืนยันว่าเป็นหลักของ ส.ป.ก. เราก็ไม่ต้องไปพิสูจน์ เพราะปกติต้องนำหลัก ส.ป.ก. ไปให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ ว่าหลักนี้มาจากไหน ซื้อล็อตไหน ใครเป็นคนจัดซื้อจัดจ้าง ใครเป็นผู้รับ แต่เมื่อ ส.ป.ก. โคราช บอกว่าเป็นหลักของเขา ก็มาแจ้งความว่าตนลักทรัพย์สินของรัฐเท่านั้น ซึ่งตนไม่ได้กังวล และจะได้มั่นใจว่าเป็นหลักของเขาจริงๆ 

ทั้งนี้ จากการฟังคำชี้แจงของ ส.ป.ก. ทำให้ไม่มั่นใจว่าหลัก ส.ป.ก. ถือได้ด้วยหรือ ใส่ถุงหิ้วไปแล้วอยากปักที่ไหนก็ได้ใช่หรือไม่ เพราะปกติการออกไปรังวัดหรือปักหลักปักหมุด ต้องใช้แผนงานแผนเงิน ต้องจ้างแรงงาน ต้องใช้รถยนต์ขนหลักไปปักให้กับชุมชน พร้อมทั้งมีช่างรังวัดไปปักด้วย ตรงนี้ต้องให้ความชัดเจนต่อสังคม แต่ตนฟังแล้วเหมือนกับว่าเดินถือมาอยากจะปักริมห้วยริมแม่น้ำก็ปัก เป็นเรื่องตลก ซึ่งในระบบราชการทำไม่ได้

ส่วนการชี้แจงในห้องประชุมกรรมาธิการ ดูเหมือนกรมอุทยานฯ กับกรมแผนที่ทหาร ยังเถียงกันเรื่องเส้นแผนที่นั้น นายชัยวัฒน์ ยอมรับว่า ใช่ ซึ่งกรมแผนที่ทหารพยายามโชว์ร่องรอย จึงทำให้เห็นการย้อนหลังถึงปี 2496 ทางเราก็อธิบายว่าที่เห็นร่องรอยเป็นตารางล็อกๆ ก็คือสวนป่า ไม่ใช่ชาวบ้านเข้าไปทำกิน หรือเป็นการจัดที่ทำกินของชาวบ้านดั้งเดิม ซึ่งตรงนี้เคลียร์แล้ว ก็เป็นไปในทางเดียวกัน ขณะเดียวกัน กรมแผนที่ทหาร ยอมรับว่า ไม่ได้ยึดหมุด แต่ยึดจากฟิลด์บุ๊ค รวมถึงพื้นที่ข้างเคียงว่ามีร่องห้วย และถามชาวบ้านว่าตรงนี้เป็นยอดเขาอะไร แต่ห้วยยาวเป็น 10-20 กม. ก็ไม่ใช่ว่าจะเอาตรงนี้ แต่ไม่เป็นไร เพราะได้ข้อสรุปแล้วในกรรมาธิการ และแจ้งกับ สคทช. แล้วว่า จากนี้หน่วยงานต่างๆไม่ว่าจะเป็นกรมอุทยานฯ , ส.ป.ก. , กรมแผนที่ทหาร , กรมพัฒนาที่ดิน , ฝ่ายปกครอง ให้ลงไปรังวัดพร้อมกัน และเอาเครื่องมือของแต่ละหน่วยงานไปด้วย แล้วไปวางกันในระบบ ซึ่งเชื่อว่าจะยอมรับกันได้ ดังนั้นแผนที่ที่จะเดินหน้าต่อไปก็ไม่ต้องคุยเรื่องแผนที่ทหารแล้ว ถ้าตนรับได้ก็ไม่ต้องถึงศาลปกครอง หรือฟ้องศาลต่อไป 

เมื่อถามว่าเส้นที่ขีดออกมา ที่จะไปลงพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร รับได้ใช่หรือไม่ นายชัยวัฒน์ บอกว่า ใช่ เพราะตนลงไปเอง กรมแผนที่ทหารไปเอง หน่วยงานต่างๆ ก็ไปเอง จะได้มีพยานยืนยันว่าที่เดินกัน มันถูกต้องเส้นทางไหน เพราะเป็นการทำงานร่วมกัน ไม่มีความขัดแย้ง ถ้าทุกคนหวังดีต่อประเทศชาติ ไปด้วยกันได้แน่นอน

ส่วนที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าให้ยึดเส้นของแผนที่ทหาร จะทำให้เส้นของกรมแผนที่ทหาร มีสถานะเหนือเส้นแผนที่ของหน่วยงานอื่นหรือไม่ นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังไม่ได้รับรองว่าเส้นของแผนที่ทหารเอามาใช้ในเคสนี้ แต่วันนี้ ส.ป.ก. เอาเส้นนี้มาฟ้องว่าอยู่ในเขต ส.ป.ก. ถึงมาแจ้งความตน ซึ่งในหลักการก็ต้องคุยกัน แต่ตนไม่ได้โกรธ ก็ถือว่าเป็นไปตามที่คาดหมายไว้อยู่แล้ว เส้นนี้ต้องมาตกลงกันครั้งต่อไป ว่าจะต้องเริ่มแบบไหนถึงจะถูกที่สุด

เมื่อถามว่า หวังใจว่าจะคุยกับ ส.ป.ก. อย่างไรให้มันจบ แต่ทุกครั้งที่กรรมาธิการเชิญมา ส.ป.ก. ก็ไม่ได้มาสักที นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า วันนี้ก็เสียใจ เพราะ 2 ครั้งที่มาชี้แจงกรรมาธิการ ทาง ส.ป.ก. ไม่มีผู้แทนมาตอบ อย่างวันนี้อ้างว่าเป็นวันสถาปนา ส.ป.ก.  ซึ่งมันก็ต้องมีความรับผิดชอบ เพราะวันนี้มีการประชุม ต้องมาชี้แจงและนำข้อมูลมาให้กรรมาธิการได้รับทราบ และตอบข้อโต้แย้ง แต่วันนี้ได้ฟังตังแทนจากคณะกรรมการกฤษฎีกา ก็พูดชัดเจนว่า พื้นที่ดังกล่าวต้องถูกจำแนก โดยมีแผนงาน แผนเงิน ลงไป ถึงจะจัดทำรูปแปลงได้

สำหรับรายชื่อผู้ที่ได้รับการจัดสรร ส.ป.ก. ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่นั้น กรมอุทยานฯ มีสิทธิ์ใช้อำนาจในการเพิกถอนได้หรือไม่ นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ทางกรรมาธิการ มีรายชื่อมาแล้ว ว่ามีกว่า 10 คน จาก 58 คน ที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ แต่ได้รับการจัดสรร พร้อมย้ำว่า ไม่ว่าข้าราชการกลุ่มใด ก็ควรมีสิทธิ์ได้รับจัดสรร หากไม่มีที่ดินทำกินจริงๆ ไม่ใช่เป็นกลุ่มทุนที่มีที่ทำกิน มีหลักทรัพย์ มีอะไรต่างๆ มันไม่ควรจะได้ ซึ่งต้องแยกกัน อีกทั้งการที่ตนต่อว่า ส.ป.ก. ก็ว่าคนที่ทำผิด ทำทุจริต ไม่ได้ว่าเหมารวม