ย้อนเหตุ "ร.ล.สุโขทัย" อับปาง ก่อนไทย-สหรัฐฯ ร่วมปฏิบัติการเก็บกู้

เหตุการณ์ "เรือหลวงสุโขทัย" อับปาง เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2565 ระหว่างปฏิบัติหน้าที่นำทหารเรือและเจ้าหน้าที่รวม 106 นาย เดินทางจากฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี มุ่งหน้าไปร่วมงานเทิดพระเกียรติ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หรือ "เสด็จเตี่ย" เนื่องในวันครบรอบ 142 ปี วันคล้ายวันประสูติ องค์พระบิดาของทหารเรือไทย ณ ศาลเสด็จเตี่ย ต.หาดทรายรี อ.เมืองชุมพร โดยขณะนั้นเจอคลื่นลมแรงจนเรือเอียง น้ำทะเลไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้า ส่งผลให้เครื่องยนต์ดับ ก่อนจมลงทะเล

ไทม์ไลน์ 15 ชม.

18 ธ.ค. 2565

17.16 น. น้ำทะเลเข้า เรือหลวงสุโขทัย

18.17 น. เครื่องยนต์ดับ เครื่องไฟฟ้าดับ ระบบการสื่อสารล่ม 

19.37 น. เรือหลวงกระบุรี ออกเดินทางจากบางสะพานไปช่วย เรือหลวงสุโขทัย

19.56 น. เรือหลวงสุโขทัยเอียง 45 องศา

20.30 น. เรือหลวงอ่างทอง ออกเดินทางจากสัตหีบไปช่วย เรือหลวงสุโขทัย

20.52 น. เรือหลวงกระบุรี เดินทางถึง เรือหลวงสุโขทัย

21.03 น. เรือเอียง 80 องศา

23.08 น. เรือหลวงสุโขทัย ปลดแพชูชีพ

23.20 น. เรือหลวงสุโขทัย เริ่มจมจากทางท้ายเรือถึงป้อมปืนหัว

23.46น. เรือหลวงสุโขทัย จม

23.50 น. เรือทัก (ขนดิน-ขนทราย) จากบางสะพาน 2 ลำ เดินทางถึง เรือหลวงสุโขทัย ช่วยเก็บคนตกน้ำได้ 30 คน

9 ธ.ค. 2565

00.38 น. ช่วยเหลือคนตกน้ำได้รวมแล้ว 45 คน

01.06 น. เฮลิคอปเตอร์ "Seahawk" ถึงจุดเกิดเหตุ ปล่อยแพชูชีพ 8 แพ

01.12 น. ช่วยเหลือคนตกน้ำได้ 49 คน

02.30 น. เรือหลวงกระบุรี นำคนเจ็บสาหัส ส่งกลับสายแพทย์ที่บางสะพาน

03.14 น. ช่วยเหลือคนตกน้ำได้รวมแล้ว 73 คน

03.50 น. เรือหลวงกระบุรี ถึง บางสะพาน

04.32 น. ลำเลียงผู้ป่วย 3 นาย ขึ้นจากเรือหลวงกระบุรี

06.30 น. เรือหลวงอ่างทอง ถึงที่เกิดเหตุ บ.ดอร์เนีย เข้าพื้นที่ บินลาดตระเวนค้นหาผู้ประสบภัย

08.30 น. รวมลูกเรือที่ปลอดภัยแล้ว 73 ราย 

ผบ.ทร. สั่งตั้งศูนย์ช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัย


ต่อมา พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในขณะนั้น เปิดเผยภายหลังเยี่ยมผู้บาดเจ็บว่า คงต้องดูว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร เบื้องต้นจากการสอบถามผู้รับบาดเจ็บทราบว่า เริ่มจากน้ำปริมาณมากเข้าทางหัวเรือทางเรือก็พยายามที่จะปั๊มน้ำออก ตามขั้นตอนในการปฏิบัติ แต่ด้วยสภาพคลื่นลมแรง ทำให้น้ำเข้ามามาก ระบบที่สำคัญ เช่น ระบบเครื่องไฟฟ้า หรือเครื่องยนต์ และเครื่องจักร สูญเสียไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งสุดท้าย ไม่สามารถที่จะสูบน้ำ ออกจากเรือได้ทัน จึงไม่สามารถรักษาเรือไว้ได้

นอกจากนี้ กองทัพเรือได้มีการจัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือ ที่กองเรือยุทธการ เพื่อประสานงานกับครอบครัวของผู้ที่ยังสูญหาย

20 ธ.ค. 2565 กองทัพเรือยังคงปฏิบัติการค้นหา 30 กำลังพลของเรือหลวงสุขโทัย ที่ประสบเหตุ 

สรุปยอดผู้เสียชีวิต-รอดชีวิต

18 ม.ค. 2566 หลังจากเหตุการณ์ "เรือหลวงสุโขทัย" อับปาง ผ่านไปครบ 1 เดือน กองทัพเรือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงเดินหน้าค้นหากำลังพลที่สูญหายอย่างต่อเนื่อง โดยสรุป ยอดผู้เสียชีวิต และสูญหาย มีดังนี้

• กำลังพลเสียชีวิต 24 นาย 
• สูญหาย 5 นาย
• รอดชีวิต 76 นาย

ทั้งนี้ กองทัพเรือได้ให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวกำลังพลกองทัพเรือ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง โดยได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสิทธิกำลังพล ดำเนินการเพื่อให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน แก่ครอบครัวของกำลังพลในด้านต่าง ๆ อย่างเต็มที่

ผบ.ทร. เผย ของบ 200 ล้านกู้เรือหลวงสุโขทัย ยันเป็นไปตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง

1 มิ.ย. 2566 พล.ร.อ.เชิงชาย (ผบ.ทร. ในขณะนั้น) เปิดเผยว่า กองทัพเรือได้เสนอของบประมาณจากงบกลาง จำนวน 200 ล้านบาท เพื่อมาปฏิบัติภารกิจในการกู้เรือ และได้เตรียมพร้อมทำสัญญากับบริษัทที่จะเข้ามาดำเนินการ ซึ่งจำนวนเงินที่เสนอไปทางกระทรวงกลาโหม 200 ล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณ และต้องขออนุมัติจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่วนสำนักงบประมาณจะพิจารณาจัดสรรงบให้เท่าไรนั้น จะแจ้งให้กองทัพเรือทราบต่อไป 

สำหรับงบประมาณที่เสนอเป็นไปตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างโดยกองทัพเรือมีความพร้อมที่จะจัดจ้าง บริษัทที่จะทำการกู้เรือทันทีที่งบประมาณอนุมัติ ซึ่งขณะนี้มีบริษัทที่มาเสนอแล้วประมาณ 4-5 บริษัท

ทร.ไทย-สหรัฐฯ เตรียมกู้เรือหลวงสุโขทัย ช่วงฝึกคอบร้าโกลด์ 19 ก.พ. - 4 มี.ค. 67

26 ม.ค. 2567 พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ระบุว่า เขาเป็นคนไปเจรจากับ "สหรัฐฯ" ช่วยเคลียร์ "เรือหลวงสุโขทัย" เบรกบริษัทจีนชะลอกู้เรือออกไปก่อน อาจทิ้งไว้ให้เป็นอนุสรณ์สถานใต้ทะเล ส่วนงบกู้เรือนั้น ก็พร้อมส่งคืนหากไม่ได้ใช้ 

2 ก.พ. 2567 มีรายงานว่า สถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ออกเอกสารข่าว ความว่า กองทัพเรือไทย และกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา จะร่วมกันดำเนินภารกิจกู้เรือหลวงสุโขทัยแบบจำกัด ซึ่งเรือหลวงสุโขทัยได้อับปางลงในอ่าวไทยเมื่อปี 2565

ภารกิจร่วมครั้งนี้จะดำเนินการภายใต้การฝึกคอบร้าโกลด์ 2024 ระหว่าง 19 ก.พ. - 4 มี.ค.นี้ และเกิดขึ้นได้เพราะมิตรภาพอันยาวนานระหว่างกองทัพเรือของทั้งสองประเทศ ตลอดจนการฝึกซ้อมร่วม การปฏิบัติการ และความสัมพันธ์ระหว่างภาคประชาชนตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา เรามุ่งมั่นที่จะปฏิบัติภารกิจกู้เรือแบบจำกัดร่วมกันอย่างปลอดภัยและละเอียดถี่ถ้วน เพื่อเชิดชูเกียรติเหล่าทหารเรือที่สูญหายและนำมาซึ่งข้อสรุปให้แก่ครอบครัวและเพื่อนๆ ของพวกเขา

16 ก.พ. 2567 กองทัพเรือ เผยความร่วมมือไทย-สหรัฐฯ ในการกู้เรือหลวงสุโขทัยแบบจำกัด เริ่มปฏิบัติภารกิจ 22 ก.พ. 2567 แต่ยังไม่ได้ยกขึ้นมาทั้งลำ โดยกองทัพเรือของทั้งสองประเทศ มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติภารกิจร่วมกันให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ด้วยความปลอดภัย โดยเฉพาะการบันทึกภาพทั้งภายในและภายนอกของตัวเรือ เพื่อใช้ประกอบกับการสอบสวนที่ได้ดำเนินการไว้ก่อนหน้านี้ ให้ทราบถึงสาเหตุ

กองทัพเรือบวงสรวง เสด็จเตี่ย ก่อนเริ่มปฏิบัติการค้นหา-ปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย

ต่อมา วันที่ 19 ก.พ. 2567 พล.ร.อ.อะดุง (ผบ.ทร.) เป็นประธานในพิธีสักการะบวงสรวง พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ก่อนเริ่มปฏิบัติการการค้นหาและปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย ณ ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ จ.ชุมพร เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการค้นหา และปลดวัตถุอันตราย 

ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวให้โอวาทกำลังพลที่เข้าร่วมปฏิบัติการ โดยมีใจความสำคัญ ขอให้กำลังพลทุกนายปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายให้สัมฤทธิ์ผลตามวัตถุประสงค์ของการปฏิบัติการ และขอให้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการไว้ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และหวังว่าจะได้รับข่าวดีจากการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้

เปิด 4 ขั้นตอนปฏิบัติ ค้นหาและปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย


สำหรับปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย มีการปฏิบัติ 4 ขั้นตอน คือ 

ขั้นที่ 1 การเตรียมการและเคลื่อนกำลัง เป็นการเตรียมและทดสอบอุปกรณ์ การประชุมวางแผน การฝึกดำน้ำร่วมกับ กองทัพเรือสหรัฐฯ เพื่อสร้างความคุ้นเคยก่อนปฏิบัติงานร่วมกัน 

ขั้นที่ 2 การสำรวจและค้นหาผู้สูญหาย จะสำรวจภายนอกตัวเรือ และทำการค้นหาผู้สูญหาย

ขั้นที่ 3 การเก็บกู้ยุทโธปกรณ์ และปลดวัตถุอันตราย จะเก็บกู้สิ่งอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ และการจัดการกับวัตถุที่เป็นอันตราย รวมถึงการเก็บกู้สิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจของกำลังพลกองทัพเรือ

ขั้นที่ 4 การเดินทางกลับและการสรุปผล จะลำเลียง ขนย้ายอุปกรณ์ที่เก็บกู้ได้ขึ้นสู่ท่าเรือและสรุปผลการปฏิบัติ

สำหรับการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ กองทัพเรือไทย และกองทัพเรือสหรัฐ จะเริ่มปฏิบัติภารกิจในวันที่ 22 ก.พ. นี้ คาดว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจในวันที่ 14 มี.ค. 2567