
21 มกราคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงสภาพอากาศและค่าฝุ่น PM 2.5 จ.เชียงใหม่ดีขึ้น หลังหน่วยงานต่างๆร่วมกันแก้ปัญหาอย่างบูรณาการว่า เช้าวันนี้( 21 ม.ค.) ได้ดูรายละเอียดตัวเลขอยู่ที่ 12 เป็นสีเขียวดี แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะถ้าเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกับปีที่แล้วดีขึ้นมาก
ทั้งนี้ก่อนขึ้นเครื่องตนได้เจอกับทหาร ตำรวจ และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่ถือว่าเป็นซุปเปอร์ผู้ว่าฯประสานงานได้ดีหมด แต่ถ้าต้องการอะไรก็ขอให้บอกมา ขอให้ร่วมมือกันทำงาน รักกัน หนักนิดเบาหน่อยก็ให้ช่วยเหลือกันไป มีอะไรก็ขอให้บอกมา ซึ่งผลที่ออกมาดีในวันนี้ ไม่ได้บอกว่าต่อไปจะดีหรือไม่ แต่เราพยายามอย่างเต็มที่และวันนี้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ก็ลดไปถึง 4-5 เท่าแล้วในช่วงเวลาเดียวกัน เป็นเรื่องที่น่าชื่นใจและจะทำกันต่อไป
จากการที่ได้ไปเจอกับสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ได้มีการคุยกันในเรื่องนี้และมีการขอร้องกันไปส่วนที่กรุงเทพฯ ยังมีปัญหาอยู่ ก็เข้าใจ
ส่วน กรณีที่ศาลปกครองเชียงใหม่ขอให้นายกฯ และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ทำแผนแก้ปัญหาฝุ่นภายใน 90 วัน นับแต่คำพิพากษา
และเรื่องพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. … จะส่งเรื่องไปเมื่อไร นายกฯ กล่าวว่า แน่นอนก็ต้องทำตามคำสั่งของศาลปกครอง และจะเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาพูดคุย เพื่อปรับปรุงแผนตามที่ศาลปกครองขอมา แน่นอนว่าก็ต้องทำตาม
ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ได้รับรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งอยู่ในช่วงที่น่าห่วงใย เนื่องจากมีระดับค่าฝุ่นปานกลางจนถึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน แม้ว่าได้เตรียมการและบูรณาการกับหลายภาคส่วนแล้วก็ตาม
โดยในส่วนของ ทส. ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปกำกับดูแลตามภารกิจล่วงหน้าไว้อยู่แล้ว ทำให้หลายพื้นที่สถานการณ์เบาบางลง ขณะเดียวกัน ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ต้องช่วยกันควบคุมแก้ไข โดยเฉพาะช่วงนี้เข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวอ้อยและเตรียมพื้นที่ท้องนา เพื่อเริ่มฤดูกาลเพาะปลูกใหม่ จึงทำให้มีการเผาในปริมาณสูงขึ้น แม้จะให้มีการจับตาอย่างใกล้ชิด ก็ยังพบว่ามีการลักลอบเผา
ส่วน กทม.และปริมณฑล ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากมลพิษจากท่อไอเสียและโรงงานอุตสาหกรรม จึงได้มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการแก้ไขปัญหา อีกทั้งการตรวจตรารถควันดำ ให้มีมาตรการเข้มข้น ตรวจ จับ ปรับ ตามความเหมาะสม เพื่อให้ได้เกิดความตื่นตัว ร่วมมือกับภาครัฐในการแก้ไขปัญหา
"จากนี้ไปมาตรการต่างๆ จะมีความเข้มข้นมากขึ้น อะไรที่ทำไปแล้วไม่ได้ผลก็จะต้องมีการทบทวน ปรับปรุง เราพยายามแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ขอให้ประชาชนมั่นใจ และขณะนี้เครื่องมือสำคัญในการจัดการกับฝุ่น PM 2.5 คือ ร่างพ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด กำลังเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญจะใช้เวลาแปรญัตติ 15 วัน ถือว่ารัฐบาลได้ผลักดันร่างกฎหมายอย่างเร่งด่วน"
ทั้งนี้ เชื่อว่าหากร่างกฎหมายผ่านขั้นตอนของสภาฯและมีการประกาศใช้จริง จะสามารถบริหารจัดการ ปัญหามลพิษทางอากาศได้อย่างเป็นระบบ ครอบคลุมทั้งในประเทศและมลพิษข้ามพรมแดน
ขณะที่ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข้อมูลย้อนหลังในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ปริมาณ PM 2.5 ลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นไปตามที่ นายเศรษฐา นายกฯ เอาจริงเอาจัง มุ่งผลเป็นรูปธรรม ย้ำชัด ประชาชนต้องมีอากาศที่ดีหายใจ เพื่อสุขภาพแข็งแรง
โดย เมื่อเปรียบเทียบค่าฝุ่น PM 2.5 วันนี้ ย้อนหลัง 5 ปี ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ค่าฝุ่นวันที่ 21 มกราคม 2567 อยู่ที่ 16.7 น้อยกว่าปีก่อนในวันเดียวกันมากกว่า 1 เท่าตัว
21 มกราคม 2563 = 53 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
21 มกราคม 2564 = 58 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
21 มกราคม 2565 = 26 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
21 มกราคม 2566 = 36 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
21 มกราคม 2567 = 16.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
"เป็นไปตามวิสัยทัศน์ และความตั้งใจของนายกฯ ที่กำหนดไว้ว่า ต้องการให้ประชาชนมีอากาศสะอาดหายใจ เป็นไปตามสิทธิขั้นพื้นฐานที่ประชาชนพึงมี ลดฝุ่นควันพิษในทุกสาเหตุ สั่งการแก้ไขปัญหา เอาจริงเอาจังในทุกปัจจัย ซึ่งรัฐบาลเชื่อมั่นว่าสภาพอากาศจะต้องดีขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกหน่วยงาน" นายชัย กล่าว