"อนุทิน" ลุ้น ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชะตา "ศักดิ์สยาม" รอดหรือไม่

17 มกราคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึง กรณี ศาลรัฐธรรมนูญ นัดวินิจฉัย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ขาดความเป็นรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ กรณีเป็นผู้ถือหุ้นห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ว่า ต้องรอฟังคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวเชื่อว่า ตุลาการต้องใช้เวลาอ่านพอสมควร ซึ่งตนเองได้ให้กำลังใจ นายศักดิ์สยาม โดยเฉพาะในการประชุมพรรคภูมิใจไทยเมื่อวานนี้(16 ม.ค.) ตนได้เป็นตัวแทนลูกพรรคกล่าวให้กำลังใจ

ส่วน นายศักดิ์สยาม จะเดินทางไปฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเองหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เนื่องจากมีขั้นตอนของศาลที่จะต้องแจ้งรายชื่อและขออนุญาตเข้ารับฟัง  ซึ่งตนเองติดภารกิจไปประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาจจะติดตามในการถ่ายทอดสดของศาลรัฐธรรมนูญก็เป็นไปได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากศาลวินิจฉัยว่า นายศักดิ์สยามไม่ผิด จะดึงตัวมาร่วมงานกับคณะรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “การปรับคณะรัฐมนตรีเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี และอำนาจอยู่ที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเคยพิสูจน์ให้เห็นแล้ว ตั้งแต่รัฐบาลที่ผ่านมาว่า เรื่องปรับคณะรัฐมนตรีไม่ใช่เป็นเรื่องคอขาดบาดตายของพรรค เมื่อไรก็เมื่อนั้น เมื่อนายกรัฐมนตรีจะปรับค่อยมาพิจารณา ถ้าไม่ปรับก็อยู่ตามเดิม ซึ่งพรรคภูมิใจไทยไม่เคยไปขอ หากไปขอแล้วก็ไม่รู้ว่านายกฯ จะปรับให้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ เพราะเรื่องแบบนี้มีอะไรสำคัญกว่านั้นอีกมาก”

สำหรับบรรยากาศศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้(17 ม.ค.) ที่จะมีการอ่านคำวินิจฉัยในคดี ที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ว่า สมาชิกภาพ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่ จากการยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วน และยังคงเป็นผู้ถือหุ้น และเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกร้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ

โดยก่อนหน้านี้ หน่วยงานความมั่นคง ได้แจ้งต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า อาจมีสถานการณ์ที่มีสิ่งบอกเหตุ หรือข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า อาจจะมีเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัย และความไม่สงบเรียบร้อยเกิดขึ้น ดังนั้นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญ คุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และเพื่อให้การดำเนินกระบวนพิจารณาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ ประธานศาลรัฐธรรมนูญจึงมีคำสั่งให้เฉพาะผู้ร้อ, ผู้ถูกร้อง, ผู้รับมอบอำนาจหรือผู้รับมอบฉันทะ หรือผู้ที่ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาต รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น อยู่ในห้องพิจารณาคดีได้

พร้อมประกาศเขตอำนาจศาล กำหนดอาณาบริเวณ หรือพื้นที่ที่กำหนด ให้ศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยต่อไป ในวันพุธ ที่ 17 มกราคม 2567 เวลา 00.01 นาฬิกา ถึงเวลา 23.59 นาฬิกา รวมไปถึงการนัดวินิจฉัยคดีในวันที่ 24 มกราคม 2567 และวันที่ 31 ม.ค.2567

โดยบรรยากาศรอบสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีกลุ่มมวลชนใดมาชุมนุม มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คอยรักษาความสงบเรียบร้อยตามปกติ โดยมีการนำแผงเหล็กมากั้นตลอดแนวด้านหน้าสำนักงาน  เจ้าหน้าที่หรือบุคคลที่จะเข้าออกตัวอาคารราชบุรีเรกฤทธิ์ ที่ตั้งของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ จะต้องติดบัตรแสดงตน หรือแลกบัตรตามประกาศพื้นที่ควบคุม ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกมาก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 นายศักดิ์สยาม เดินทางเข้ารับการไต่สวนด้วยตัวเอง และบอกเพียงว่ารายละเอียดทั้งหมดต้องรอคำวินิจฉัย เพราะได้แจ้งข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วนไปแล้ว อย่างไรก็ตาม นายศักดิ์สยาม ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติการปฎิบัติหน้าที่ ตั้งแต่ 3 มีนาคม 2566