svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"เศรษฐา"หนุนเชียงใหม่สร้างรถไฟฟ้ายกระดับเดินทาง-เสริมท่องเที่ยว

11 มกราคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"นายกฯ" หนุนสร้างรถไฟฟ้าเชียงใหม่ เปลี่ยนรถสองแถวแดงเป็น EV ยกระดับคมนาคม-เสริมท่องเที่ยว แก้จราจรแออัด เพื่อช่วยลดปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ขอบคุณทุกหน่วยทำงานบูรณาการทุกมิติ ลั่นรัฐบาลมาแค่ 4 เดือน เห็นการทำงาน"ทีมไทยแลนด์"ชัดเจน ย้ำนิมิตรหมายดี พ.ร.บ.อากาศสะอาด เข้าสภา

11 มกราคม 2567 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการต่างๆ ที่เชื่อมโยงระบบขนส่งและเดินทางในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ โดยมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ประกอบด้วย

  • นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม
  • นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม
  • นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย
  • นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์
  • นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 


โดย นายกฯ กล่าวในที่ประชุมว่า ตนและครม. มีความห่วงใยกับสถานการณ์หมอกควันและไฟป่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อพื้นที่ภาคเหนือหลายจังหวัด จึงต้องการหารือแนวทาง การแก้ไขปัญหาและวิธีการป้องกันที่ถูกต้อง จากการที่ได้มาตรวจราชการ เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2566 ต้องขอบคุณทุกหน่วยงานข้าราชการไม่ว่าจะเป็นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานความมั่นคง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และกองทัพ ที่ช่วยกันให้ปัญหาต่างๆได้รับการแก้ไขและคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ขอเน้นให้ทุกฝ่ายทุกหน่วยงานบูรณาการความร่วมมือโดยยึดหลักแนวทางการดำเนินงานนี้ 

 

นายกฯ กล่าวอีกว่า สถานการณ์ต้องดีขึ้นทุกวัน ด้วยการทำงานเต็มหน้าที่อย่างจริงจัง ขอให้แบ่งหน้าที่และพื้นที่ความรับผิดชอบเอ็กซเรย์พื้นที่ความรับผิดชอบของตัวเอง ว่ายังมีปัญหาใดที่จะต้องแก้ไขเร่งด่วนและรายงานให้ตนทราบทุกวัน ถ้าไม่ดีกว่าเดิมต้องแจ้งให้ทราบว่ามีอุปสรรคอะไร เป็นความประสงค์ของรัฐบาลนี้ ที่อยากจะคืนอากาศบริสุทธิ์แก่ประชาชนภาคเหนือให้ได้โดยเร็วที่สุด การบริหารจัดการแก้ไขปัญหาหมอกไฟป่าต้องมีแนวทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อความยั่งยืน เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติต้องมีข้อมูลที่ชัดเจนแม่นยำ เพื่อให้การแก้ไขเป็นไปได้อย่างรวดเร็วในการดูแลประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม ขอให้จังหวัดและหน่วยงานราชการโดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น ดูแลประชาชนให้ครอบคลุมทุกมิติ สุขภาพอนามัยของเด็ก โดยเฉพาะผู้สูงอายุในกรใช้ชีวิตความเป็นอยู่ การรณรงค์ใส่หน้ากาก จัดพื้นที่เซฟตรงศูนย์พักพิงของประชาชน ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลให้ประชาชนมีหน้ากากกรองฝุ่นที่มีประสิทธิภาพ สามารถเข้าถึงเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพ และราคาที่เข้าถึงได้ ต้องให้ความสำคัญกับการสร้างจิตสำนึกประชาชนในการรับรู้ข่าวสาร ยกระดับความตื่นตัวให้ประชาชนรู้ถึงภัยของ PM2.5  

 

"ขอความร่วมมือประชาชนดูแลพื้นที่ป่าลดการเผา เพราะปัญหานี้ไม่ใช่ของคนใด หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหา เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชุมชนจะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาในระยะยาว ต้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันสร้างอากาศบริสุทธิ์ และปฏิบัติให้ได้" นายกฯ กล่าว  

ขณะเดียวกัน การคมนาคมต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย จากการที่ตนได้ลงพื้นที่ มีการพูดคุยกับส่วนงานราชการหลายหน่วยงาน รู้สึกกันดีเมื่อเทียบตัวเลขปีที่แล้วของ PM 2.5 พบว่าปัญหาฝุ่นลดลงไปหลายเท่าตัว การแสดงแผนที่ Red Zone อย่างมีในนัยพิสูจน์ทราบได้ว่า จากการลงพื้นที่แก้ไขปัญหา จึงทำให้ตัวเลขลดลงอย่างมีนัย ส่งผลอย่างยิ่งเรื่องการท่องเที่ยว โดยเฉพาะพื้นที่ดอยอินทนนท์มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจาก 13,000 คน เป็น 17,000 คนต่อวัน

อย่างไรก็ดี แสดงให้เห็นว่าเรื่องการมี PM 2.5 น้อยลง ดูจากกราฟเป็นเรื่องที่ดี ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมกันบูรณาการ วันนี้ (11ม.ค.) จะมีการพูดคุยกันหลายเรื่อง โดยเฉพาะการคมนาคม ซึ่งหลายเรื่องยึดโยงถึง PM 2.5 ด้วย ไม่ใช่แค่การเผาป่าอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องที่ใช้เรื่องการเปลี่ยนแปลงระบบคมนาคม กระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้และจะจัดสรรงบประมาณให้เป็นลำดับความสำคัญต้นๆในการที่จะดำเนินการเหล่านี้ต่อไป 

 

"ขอให้ทุกท่านช่วยกัน ซึ่งการทำงาน 2 เดือนที่ผ่านมาต้องกราบพระคุณทุกท่าน ทุกหน่วยงาน ที่ทำงานประสานงานกันอย่างดี ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นจุดศูนย์รวมของจิตใจและช่วยกันประสานให้ทุกฝ่าย เหมาะสำหรับการเป็นแม่แบบไปใช้ในจังหวัดต่างๆที่ทำงานร่วมกันอย่างดีเยี่ยม ระหว่างฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ สาธารณสุข เกษตร คมนาคม คือเป็นแม่แบบที่ดีมากต้องขอชื่นชม" นายเศรษฐา ระบุ 

 

จากนั้น นายกฯ รับฟังข้อเสนอของทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องของการแก้ไขปัญหาจราจรและการคมนาคมที่ติดขัด โดยเฉพาะบริเวณหน้ากองบิน 41 และถนนนิมมานเหมินทร์ โดย นายเศรษฐา ระบุว่า หลังกลับจากเชียงใหม่จะเชิญ รมว.คมนาคม ผู้บัญชาการทหารอากาศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเรื่องการแก้ไขปัญหานี้ต่อ ส่วนข้อเสนอการจะทำรถไฟฟ้าเชื่อมต่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวและการลดการใช้รถยนต์ เพื่ออากาศสะอาด ลดความแออัดในเมืองเป็นสิ่งที่ดี เห็นด้วยควรสร้างรถไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม เพราะนักท่องเที่ยวมา จ.เชียงใหม่ ในระดับต้นๆ ถือเป็นเมืองที่ใหญ่มาก แต่ยังไม่มีระบบของรถไฟฟ้า ตรงนี้น่าจะนำมาพิจารณา ถือว่ามีประโยชน์ต่อประชาชนและเศรษฐกิจหลักของประเทศ ทั้งนี้ ในระหว่างก่อสร้างไม่ต้องห่วงเรื่องปัญหาจราจร จะทำจริงก็ต่อเมื่อวงแหวนการจราจรข้างต้นเสร็จก่อนเพื่อแบ่งเบาภาระการจราจรลงไปได้ และขอบคุณที่ช่วยกันคิดในเรื่องของการท่องเที่ยวมาอย่างเต็มที่ เชื่อว่าจะทำให้ความมั่นใจดีขึ้น

ส่วนเรื่องการพัฒนารถแดงไฟฟ้าถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นเอกลักษณ์สำคัญของ จ.เชียงใหม่ และเป็นเสน่ห์ของการท่องเที่ยว ซึ่งต้องให้ความสำคัญต่ออากาศสะอาดด้วย หากเรื่องรถแดง ผู้ต้องการทำรถ EV และต้องการการสนับสนุนเรื่องดอกเบี้ยต่ำ ต้องฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นรูปธรรมและขอให้เป็นวาระสำคัญ ในการพูดคุย หาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อมาสนับสนุนจุดนี้ โดยเฉพาะธนาคารที่อยากมีส่วนช่วยเหลือสังคมและอยากจะมาช่วยดูแลตรงนี้

 

"ผมเชื่อว่าการพัฒนาระบบคมนาคม ซึ่งถ้าหากพี่น้องชาวเชียงใหม่และภาคเหนือได้มานั่งฟัง ก็น่าจะมีขวัญและกำลังใจขึ้นอีกเยอะ เพราะจากการทำงานบูรณาการของทุกภาคส่วน ถือว่าเป็นการทำงานที่คิดมาอย่างครบวงจรแล้ว แต่ต้องการประสานงานที่ดี ซึ่งผมอยากจะเห็นผู้ว่าราชการทุกจังหวัด มีความสามารถที่จะผนึกกำลังอย่างที่ผู้ว่าฯเชียงใหม่ ได้ทำไว้  ถือเป็นตัวอย่างที่ดี วันนี้ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็มา ช่วยทำให้ความมั่นใจสูงอย่างแน่นอน เพราะจะทำให้มองเห็นไม่ใช่แค่แผนปฏิบัติการเร่งรัด (ควิกวิน) อย่างเดียว แต่เรามีแผนการทำงานที่ชัดเจนและอาจจะกลายเป็นแผนเพิ่ม 4-5 เท่า ได้อย่างชัดเจน สอดคล้องกับเรื่องฟรีวีซ่าที่รัฐบาลได้ทำ" นายกฯ กล่าว 

 

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา ผู้ว่าฯ ททท. ได้มาพูดคุยกับตนเรื่องเที่ยวบินอินเดียที่เข้ามาประเทศไทยน้อย ซึ่งจากการที่ตนได้เจอกับเอกอัครราชทูตอินเดีย ประจำประเทศไทย ก็จะมีการทำเอ็มโอยู เพื่อให้มีสายการบินเข้ามาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่บินเข้ามา คือ นักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย รองลงมา คือ นักท่องเที่ยวจีน และประเทศที่ 3 ที่ทำให้ตนแปลกใจคือประเทศเกาหลี เพราะจากที่ตนเดินทางมาเชียงใหม่ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ก็เจอแต่นักท่องเที่ยวเกาหลี คาดว่าที่เชียงใหม่มีสนามกอล์ฟเยอะ จึงทำให้นักท่องเที่ยวเกาหลีเดินทางมา 

อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่เดินทางมาคือปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งได้มีการบริหารจัดการไปอย่างดีเยี่ยม รวมถึงการคมนาคมก็ต้องไม่ทำให้รถติด เพราะจะทำให้ไม่อยากมา ซึ่งรัฐบาลได้ตอบโจทย์ในระยะใกล้ ระยะกลางและระยะยาวแล้ว อย่างบูรณาการเต็มที่ รวมถึงมีการรักษาเรื่องดีๆของเชียงใหม่ไว้ด้วย อาทิ รถสองแถวแดงที่ถือเป็นไฮไลท์คู่บ้านคู่เมือง จ.เชียงใหม่ โดยพยายามจะเปลี่ยนให้เป็นรถไฟฟ้า ตนเชื่อว่าทุกอย่างมีการคิดกันมาอย่างดีมาก ทำให้การทำงานเชื่อมต่อระหว่างกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย ท้องถิ่น และทุกฝ่ายได้มาพูดคุยกัน รวมถึงพรรคการเมืองเองก็จะทำให้ จ.เชียงใหม่ มีศักยภาพที่โดดเด่นได้

 

"ถ้าวันนี้พี่น้องชาวเชียงใหม่มาได้ยิน ได้ฟังในสิ่งที่เรามาหารือกัน เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดีมากๆ และอยากจะนำโมเดลดังกล่าวไปใช้ในหลายจังหวัด รวมถึงในพื้นที่ภาคใต้และพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งเชื่อมั่นว่าถ้าหากเราร่วมใจกันเช่นนี้ จะทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนสนับสนุนเราอย่างดี ถึงแม้ว่ารัฐบาลนี้มาเพียงแค่ 4 เดือน แต่ก็เห็นการทำงานของทีมไทยแลนด์อย่างชัดเจน ที่ทุกคนได้ทุ่มเทกันอย่างเต็มที่ รวมถึงคนที่ทำงานปิดทองหลังพระอย่างฝ่ายความมั่นคง กองทัพ ที่ทำงานในการป้องกันไฟป่าแม้เป็นจุดเล็กๆแต่ก็ไม่ควรมองข้ามไป ผมจึงขอให้รักษาตรงนี้ไว้และดำเนินการต่อไป" นายกฯ กล่าว

 

นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องงบบูรณาการให้ข้อคิดตามหลักการทำงาน ถ้าปี 67 ทำงานมีผลชัดเจน เชื่อว่าเรื่องงบเป็นเรื่องที่สามารถพูดคุยได้ไม่มีปัญหา เพียงแค่ต้องการเหตุผลที่ชัดเจน ส่วนเรื่องปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 เรื่องสำคัญคือลดจุดความร้อน หรือ ฮอตสปอต การทำแนวกันไฟที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน สร้างความเข้าใจกับประชาชน ลดการเผา ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และต้องไม่เผาวัชพืชเปลี่ยนทำเป็นปุ๋ย เพื่อจะใช้เป็นพลังงานทดแทนได้ ขณะเดียวกันก็มีการปลูกป่าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น เชื่อว่าจุดความร้อนและค่า PM2.5 จะลดลง และวันนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี พ.ร.บ.อากาศสะอาดได้เข้าสภาแล้ว มีความคืบหน้าอย่างชัดเจน

logoline