svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ก้าวไกล ยื่นกฤษฎีกา อ้าง ม.53 กู้เงิน 5 แสนล้าน ไม่เข้าเงื่อนไขกฎหมาย

07 ธันวาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ก้าวไกล" ยื่นกฤษฎีกา อ้างมาตรา 53 พ.ร.บ.วินัยการเงินและการคลัง ไม่เข้าเงื่อนไขออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้าน แนะดันเข้างบประมาณปี 67 พร้อมชื่นชมโครงการแก้หนี้นอกระบบ เสนอนิรโทษกรรมให้เจ้าหนี้นอกระบบ ที่สามารถเจรจาลูกหนี้โดยผ่านกลไลรัฐได้

7 ธันวาคม 2566 ที่อาคารรัฐสภา นายจุลพงษ์ อยู่เกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงว่า ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เกี่ยวกับการออกพ.ร.บกู้เงิน 5 แสนล้านบาทของรัฐบาลเพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยเสนอข้อเท็จจริงให้คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ทราบ เป็นการประกอบการพิจารณาข้อกฎหมายของคณะกรรมการกฤษฎีกา หลังกระทรวงการคลังจะส่งหนังสือไปสอบถาม โดยเฉพาะข้อกฎหมายมาตรา 53 ของพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ.2561 ซึ่งมีเงื่อนไขสำคัญทางเศรษฐกิจ เกี่ยวกับความจำเป็นเร่งด่วน และวิกฤตที่มีการโต้เถียงกันมาก รวมถึงการที่ไม่สามารถตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ทัน ซึ่งต้องครบองค์ประกอบ 2 ข้อนี้ก่อน จึงจะเป็นการกู้เงินตามพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังมาตรา 53 ได้

ส่วนตัวจึงเห็นว่าการเสนอพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทของรัฐบาล ที่แยกออกมาจากพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ไม่เข้าเงื่อนไขสำคัญตามมาตรา 53  อีกทั้ง กว่าร่างกฎหมายพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 จะเข้าสู่วาระการประชุมของสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลยังมีเวลานำเงินกู้ 5 แสนล้านบาท ไปใส่ในร่างกฎหมายงบประมาณปี 67 ได้ทัน พร้อมยืนยันไม่ได้เสนอความเห็นให้กฤษฎีกา เกี่ยวกับความจำเป็นเร่งด่วนวิกฤตเศรษฐกิจหรือไม่ เพราะส่วนตัวเห็นด้วยกับเลขาธิการกฤษฎีกาว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาไม่มีหน้าที่ตอบรัฐบาลว่า ขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศไทยมีภาวะจำเป็นเร่งด่วนและวิกฤต ถึงขนาดต้องกู้เงิน 5 แสนล้านบาท หรือไม่ อย่างไรก็ตามจะติดตามเรื่องนี้ จากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไป

นอกจากนี้ขอชื่นชม โครงการแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาล แต่ขอแสดงความเห็นว่า การให้ลงทะเบียนลูกหนี้โดยเปิดเผยนั้น ในทางปฏิบัติไม่เกิดผลสำเร็จ เพราะหนี้นอกระบบทั้งหมดคิดอัตราดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ผิดกฎหมาย ถ้าเจ้าหนี้นอกระบบเปิดเผยตัวเอง เท่ากับยอมรับผิดกฎหมายอาญา ลูกหนี้นอกระบบจะกลายเป็นผู้เสียหาย เจ้าหนี้นอกระบบจะกลายเป็นจำเลย และยังไม่นับเรื่องการหวาดเกรงอิทธิพลเจ้าหนี้นอกระบบ

ดังนั้นเชื่อว่า การลงทะเบียนไม่ได้ผลและตลอด 7 วันที่ผ่านมา มีการลงทะเบียนจำนวนที่น้อยมาก มูลหนี้กว่า 3,000 ล้านบาท แต่สำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า มีหนี้ครัวเรือนมากกว่า 3 ล้านล้านบาท หนี้นอกระบบกว่า 8 แสนครัวเรือน จึงขอตั้งคำถามไปยังรัฐบาลว่า จะแก้ปัญหาอย่างไร พร้อมกันนี้ยังเสนอให้รัฐบาลทำควบคู่ไปกับการลงทะเบียนการไกล่เกลี่ยหนี้ นิรโทษกรรมให้เจ้าหนี้นอกระบบ ที่สามารถเจรจาลูกหนี้โดยผ่านกลไกของรัฐได้ 

อีกทั้งขั้นตอนทางราชการ ทำให้ลูกหนี้ต้องแบกรับดอกเบี้ยนอกระบบไปอีก 3 เดือน ซึ่งอาจมากกว่าเงินต้น จึงขอเสนอแก้หนี้นอกระบบภาพรวมอย่างยั่งยืนคือ รัฐบาลควรสร้างกลไกธุรกิจกับนายทุนหนี้นอกระบบ ใช้ธนาคารเปิดกองทุนกำหนดดอกเบี้ยต่ำ โดยประชาชนเข้าถึงกลุ่มแหล่งเงินกู้รายย่อยได้ ให้รัฐบาลมาเป็นตัวช่วยด้วยการค้ำประกันหนี้ และให้รัฐบาลสร้างช่องทางหารายได้ให้ประชาชน มีการจ้างงาน มีค่าแรงรายชั่วโมงเพื่อให้คนทำงานประจำหารายได้เพิ่ม หลังเวลาเลิกงานหรือวันหยุด โดยไม่กระทบงานประจำ และขอให้รัฐบาลพิจารณาอย่างรอบด้าน ก่อนแถลงโครงการต่างๆเพราะเกรงจะแก้ปัญหาไม่ได้ แล้วจะเป็นการซ้ำเติมปัญหาให้ลูกหนี้นอกระบบ

logoline