30 พฤศจิกายน 2566 "ซอฟต์พาวเวอร์" คือ อีกหนึ่งเป้าหมายที่รัฐบาลเตรียมผลักดัน เพื่อใช้เป็นจุดแข็งกระตุ้นและสร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศ โดยมี "น.ส.แพทองธาร ชินวัตร" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติเป็นแม่ทัพนำทีมในเรื่องนี้
โดย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานคณะกรรมการ แถลงผลการประชุมครั้งที่ 2 ประจำปี 2566 ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการที่แต่ละโครงการ กิจกรรม และอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ไทย เสนอ รวม 5,164 ล้านบาท ได้แก่
นพ.สุรพงษ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไปหารือกับสำนักงบประมาณ ซึ่งโครงการบางส่วน อาจมีงบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐอยู่แล้ว หรือบางสาขาตั้งงบประมาณน้อยกว่าที่จะต้องใช้ จึงอาจต้องมีการทบทวนให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ ก่อนส่งให้คณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณาอีกครั้งในเดือนม.ค.
ด้าน นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเฟสติวัล กล่าวถึงการจัดกิจกรรม World Water Festival เพื่อส่งเสริมประเพณีอันงดงามของไทยสู่สายตาชาวโลก ให้คนทั่วโลกหันกลับมามองประเทศไทยอีกครั้งผ่านประเพณี วัฒนธรรม และกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งจะต้องมีการจัดให้เป็นระบบร้อยเรียงเป็นเรื่องราว 77 จังหวัดทั่วประเทศ ตลอด 365 วัน และคณะกรรมการจะจัดทำแอพคลิเคชั่น เพื่อนำเสนอเรื่องราวซอฟต์พาวเวอร์ไทยทั้ง 10 ด้าน เพื่อให้คนทั้งโลกมีความเข้าใจมากขึ้น รักเมืองไทยมากขึ้น และเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าคณะกรรมการได้มีการจัดเตรียมกิจกรรมไว้กว่า 10,000 กิจกรรม 365 วันทั่วไทย โดยวาระแห่งชาติ คือ การจัดกิจกรรม "มหาสงกรานต์ World water Festival" ให้ประเทศไทยเป็นเจ้าแห่งสงกรานต์โลก ที่ไม่มีใครสามารถอ้างสิทธิ์ได้ โดยจะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ ผ่านงานมหาสงกานต์ตลอดเดือนเม.ย. โดยมีศูนย์กลางที่ถนนราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร และรวบรวมเรื่องราวทั้ง 77 จังหวัดผ่านขบวนแห่ เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวสิ่งสุดยอดในจังหวัดนั้น ๆ ตลอด 3 วัน 3 คืน และจะมีเวทีกิจกรรมโดยรอบ ซึ่งมีเวทีใหญ่ที่สนามหลวง และเวทีย่อยที่ลานคนเมือง และลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ โดยจะมีการออกร้าน และจัดแสดงวัฒนธรรมไทย ซึ่งครอบคลุม 11 ซอฟต์พาวเวอร์
นอกจากนั้น ยังจะมีการแสดงระดับโลก และนักร้อง นักแสดงระดับโลก มาร่วมเฉลิมฉลองปีใหม่ไทยด้วย โดยจะจัดอย่างครอบคลุมทุกมิติซอฟต์พาวเวอร์ไทย เพื่อให้คนทั่วโลกนึกถึงสงกรานต์ แล้วจะต้องมาเฉลิมฉลองที่ประเทศไทยเท่านั้น เพื่อมาเล่นน้ำร่วมกันบนถนนราชดำเนิน โดยจะมีการประดับสถานที่ให้สวยงานให้เป็นที่กล่าวขานทั่วโลก และนอกเหนือกรุงเทพมหานครแล้ว ยังจะเลือกจังหวัดจุดเด่นในแต่ละภาค ซึ่งบางจังหวัดจัดกิจกรรมทั้งก่อน และหลังวันที่ 13 เม.ย. โดยจะจัดกระจายทุกภาคทั่วทั้งเดือน เพราะกิจกรรมในแต่ละพื้นที่ก็จะมีความสนุกสนานไม่เหมือนกัน
"นักท่องเที่ยวสามารถเลือกท่องเที่ยวได้ และผลที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ ประชาชนจะมีรายได้ และเกิดการจ้างงานในระดับหมู่บ้านทุกจังหวัด ซึ่งจะมีการจัดอบรมต่อยอดการจัดเฟสติวัล ให้เป็นอาชีพ โดยมีการประเมินว่า รายได้จากการจัดงานดักล่าวเพียงกิจกรรมเดียว จะสะพัดไม่ต่ำกว่า 35,000 ล้านบาท โดยหลังจากนี้ คณะกรรมการจะมีการประชุมร่วมกันอีกครั้ง เพื่อสรุปกิจกรรมทั้งหมดภายในเดือนธ.ค. และจะมีการพิจารณางบประมาณทั้งหมดในเดือนม.ค.นี้" นางชฎาทิพ กล่าว
นพ.สุรพงษ์ กล่าวเสริมว่า สำหรับงบประมาณที่จะนำมาใช้จัดกรรมมหาสงกรานต์นี้ อาจจะต้องขอใช้งบกลาง เพื่อมาดำเนินการในกิจกรรมดังกล่าวบางส่วน เพราะบางงบประมาณแต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้อง มีงบประมาณอยู่แล้ว และที่ต้องใช้งบกลาง เนื่องจากงบประมาณปกติ โดยพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ นั้น สภาผู้แทนราษฎร ไม่สามารถพิจารณาให้แล้วเสร็จในวาระที่ 3 ได้ทันต่อการจัดกิจกรรมมหาสงกรานต์ครั้งนี้ โดยคณะกรรมการชุดใหญ่จะสรุปงบทั้งหมด ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติต่อไป