svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"นราพัฒน์"ชี้เป็นเรื่องดี"มาดามเดียร์"ลงชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

"นราพัฒน์" มองเป็นเรื่องดี "มาดามเดียร์" เสนอตัวลงชิงหัวหน้าพรรค เตือนอย่ารีบแก้สัดส่วนองค์ประชุม หากทำอาจถูกมองเอื้อประโยชน์บางกลุ่ม ย้ำใครแพ้ชนะ ทุกฝ่ายควรเคารพ เพื่อให้ประชาธิปัตย์เดินหน้าต่อไป

29 พฤศจิกายน 2566 "นายนราพัฒน์ แก้วทอง" รักษาการองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเสนอตัวลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค กล่าวว่า การที่ "น.ส.วทันยา บุนนาค" ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. ซึ่งประกาศตัวลงชิงหัวหน้าพรรคด้วยนั้น ส่วนตัวยังยืนยันลงชิงหัวหน้าพรรคเช่นเดิม และเห็นว่าเป็นเรื่องดีที่มีคนมาลงชิงหัวหน้าพรรค เพราะพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าเป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของ และเปิดโอกาสให้กับทุกคนอยู่แล้ว

"การที่ น.ส.วทันยา มาลงชิงหัวหน้าจะทำให้ภาพดีขึ้น เพราะเท่ากับว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องการการเปลี่ยนแปลง และมีคนรุ่นใหม่ๆ สนใจเข้ามาร่วมบริหารและปรับปรุงพรรค และผสมผสานกับคนรุ่นเดิมๆได้ จึงถือเป็นภาพที่ดีและเป็นจุดแข็งของพรรค ที่จะสามารถอธิบายกับพี่น้องประชาชน และสมาชิกพรรคได้ ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะกลับมาสร้างมนต์ขลังอีกครั้งหนึ่ง" นายนราพัฒน์ กล่าว 

สำหรับข้อเสนอที่ให้ลดสัดส่วนองค์ประชุม สส. ที่จะใช้ในการโหวต 70 ต่อ 30 ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าผ่านไปตั้งแต่การประชุมครั้งที่แล้วว่า การกำหนดสัดส่วนองค์ประชุม 70 ต่อ 30 ซึ่งถูกใช้มาทุกครั้ง หากจะมายกเว้นในครั้งนี้ก็จะดูว่า เหมือนการยกเว้นเฉพาะกิจ แล้วเอื้อประโยชน์ให้กับบางกลุ่ม จึงเห็นว่าควรต้องเป็นไปตามครรลองเดิม และหากเสียงส่วนใหญ่คิดว่าน่าจะยกเลิก เป็น 40 หรือเท่าเทียมกันหมด ก็น่าจะเป็นการเลือกตั้งในครั้งหน้า เพราะยังมีเวลาในการที่จะปรับโครงสร้าง หรือแก้ไขข้อบังคับ หรือเขียนกฎกติกาอะไรเพื่อให้เหมาะสมกับยุคสมัย ก็ขอเป็นครั้งต่อๆไปที่จะทำ

"เพราะเรื่องนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมาในการประชุมครั้งที่แล้วค่อนข้างมากว่าในอดีตที่เคยทำมาให้สัดส่วนในการโหวต สส. 70% แล้วเหตุใดครั้งนี้ สส.ที่ได้มา 30 กว่าคน ไม่มีความหมายหรืออย่างไร แล้วจะไปลดทอนสิทธิ์สส.เหล่านั้น เพื่ออะไร ในเมื่อการเลือกครั้งที่แล้วยังให้สิทธิ์ สส. 70 ต่อ 30 แล้วเหตุใดครั้งนี้ สส.ใหม่ไม่มีสิทธิ์ที่จะขับเคลื่อนพรรคตามที่พวกเขาต้องการหรือ ดังนั้น จึงเห็นว่าหากจะปรับหรือแก้ไขก็สามารถทำได้แต่คงไม่ได้หมายความว่า มีกำหนดการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคออกมาแล้ว จะแก้กันเฉพาะกิจเฉพาะหน้า เพื่อประโยชน์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งคิดว่าไม่เหมาะสม" นายนราพัฒน์ ระบุ

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการเลือกหัวหน้าพรรคแล้ว ก็จะต้องมีคนที่แพ้ แล้วออกไป แต่เห็นว่าหากพรรคเป็นประชาธิปไตยจริง ก็ควรต้องยอมรับเสียงข้างมาก ซึ่งหากตนชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค น.ส.วทันยา ก็เป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในแผนที่ตนจะดึงมาร่วมงาน ให้ช่วยในเรื่องของการสื่อสารองค์กร ซึ่งถือเป็นงานที่ถนัดอยู่แล้ว และหากน.ส.วทันยาชนะ ก็ขึ้นอยู่กับจะใช้บริการตนหรือไม่ หรือจะมีทีมอย่างไรก็แล้วแต่ เพราะถือเป็นสิทธิ์และอำนาจ ของคนที่ได้รับฉันทามติจากเมืองสมาชิก

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าหลังการเลือกตั้งแล้วพรรคจะแตก นายนราพัฒน์ กล่าวว่า อะไรจะเกิดขึ้น ก็เกิดขึ้นได้ทุกอย่างแต่ถามว่าในนามของสมาชิกพรรคและอยู่กับพรรคมานาน ไม่อยากเห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ตนจึงเรียกร้องมาตลอดว่า พรรคจะเดินหน้าได้ต้องมีเอกภาพ เพราะฉะนั้นต้องมาร่วมกันสร้างเอกภาพ แพ้หรือชนะนั่นคือประชาธิปไตย ก็ต้องมีวินัยและยอมรับมติ

"บางครั้งพวกเราก็ไม่ได้เห็นด้วยกับบางมติ แต่ก็ต้องมีวินัย และเคารพมติ แล้วพรรคจะเดินไปข้างหน้าได้ จากนั้นก็สื่อสารให้กับพี่น้องประชาชนได้เข้าใจได้ แต่ถ้าต่างคน ต่างคิด ต่างทาง ก็ไม่มีความเป็นเอกภาพ และสุดท้ายหลายคนก็ห่วงว่าพรรคจะไปไม่ได้และพรรคจะแตก ดังนั้น อยู่ที่พวกเราต้องช่วยกัน" รักษาการรองหัวหน้าพรรค กล่าว