18 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ย. เวลา 17.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น นครซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ ช้ากว่าเวลาที่กรุงเทพ 15 ชั่วโมง) โดย "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี และรมว.การคลัง พร้อมเปิดโอกาสให้ตัวแทนชุมชนชาวไทยในสหรัฐฯ 180 คน เข้าพบ
โดยนายเศรษฐา กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนเองเคยเรียนอยู่อเมริกา 6 ปีเต็ม พยายามหางานทำที่นี่ แต่มีปัญหาเรื่องใบอนุญาตทำงาน (work permit) และวีซ่า อีกทั้งผลการเรียนอยู่ในระดับปานกลาง ไม่ได้เรียนเก่งมากจนมีบริษัทต้องการตัว จึงกลับไปทำงานบริษัทต่างชาติในไทย
"ผมมีความไม่สบายใจ และถูกล้อเลียนจากฝ่ายตรงข้ามตลอดเวลา ว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่จะสร้างอนาคตให้ลูกหลานคนไทย แต่ลูกชายสองคนของตัวเอง ไม่ยอมกลับเมืองไทย ยังทำงานอยู่เมืองนอก ซึ่งพยายามที่จะหัวเราะให้กับมุขตลกตรงนี้ให้ได้ แต่ความจริงไม่ใช่เรื่องขมขื่นอะไร ดีใจที่ลูกทั้งสองคนมีความสุข ที่อยู่ในต่างประเทศ ใช้ชีวิตและอิสรภาพได้ แม้ในฐานะผู้ปกครอง จะอยากให้เขากลับไปใช้ชีวิตที่เมืองไทยดีกว่า" นายเศรษฐา กล่าว
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับโดยตรงว่าประเทศไทยไม่มีข้อเสนอที่ดีกว่า แม้แต่หลายคนในที่นี้ รัฐบาลก็อยากให้กลับมาทำงาน เพื่อสนับสนุนประเทศ และนี่ก็คือเหตุผลที่เข้ามาทำงานการเมือง เพราะอยากทำให้ประเทศดีขึ้น
จากนั้น นายกฯได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนชุมชนไทย สอบถามในหลายประเด็น โดยมีนักศึกษาไทยคนหนึ่ง ตั้งคำถามกับนายกฯว่า ทำอย่างไรจะประสบความสำเร็จแบบนายกฯ ซึ่งนายกฯกล่าวว่า สิ่งที่ต้องทำ 2 อย่าง คือ ต้องทำงานหนัก และมีวินัย พร้อมยกตัวอย่าง ลูกทั้ง 3 คน ซึ่งเรียนจบในมหาวิทยาลัยชื่อดังของโลก ตนเองไม่ได้สั่งแค่มองตาก็รู้ใจ ขอให้ลูกทำงานก่อน 3 ปี โดยใช้คำแรงว่า "ให้เป็นขี้ข้าก่อน" ทำงานให้รู้ระบบ
ก่อนจะเป็นเจ้านายคน หรือ แม้แต่ตนเองเมื่อเรียนจบปริญญาโทจากต่างประเทศ ก็ต้องกลับมาทำงานตอกบัตรเข้างานเหมือนกับคนทั่วไป ดังนั้น อยากให้ทุกคนตระหนักว่า การจะประสบความสำเร็จได้ ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นเหมือน "มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก" ไม่ใช่ฝัน เพียงอย่างเดียว แล้วจะประสบความสำเร็จ หากจะให้ตนเองแนะนำ ก็ขอแนะนำว่า สิ่งที่จะทำให้ฝันเป็นจริงก็คือ "ตื่น" ต้องตื่นขึ้นมาทำ