17 พฤศจิกายน 2566 นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า วันนี้ (17 พ.ย.) ตนได้เข้าพบ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อรับนโยบายการปราบปรามสินค้าเกษตรเถื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหา “หมูเถื่อน-เนื้อเถื่อน” ของกรมปศุสัตว์ ที่ตนกำกับดูแล เพื่อให้แนวทางการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรฯ เป็นหนึ่งเดียว ตามนโยบายของ รมว.เกษตรฯ ที่ถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล
นายไชยา กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากระทรวงเกษตรฯ ได้ประกาศสงครามสินค้าเกษตร ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “หมูเถื่อน” ที่สร้างความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคสัตว์ สร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกร เนื่องจากเป็นการแทรกแซง กลไกราคาสินค้าภายในประเทศ รวมถึงสร้างความเสี่ยงต่อสุขภาพผู้บริโภค การแก้ปัญหาหมูเถื่อน จะต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน วันนี้จึงไม่ใช้แค่ “กรมปศุสัตว์” เท่านั้น ที่จะสามารถแก้ปัญหาได้ ต้องใช้กลไกที่มีอยู่ทุกอย่าง วันนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ กำลังดำเนินคดีกับนายทุน และบริษัทลักลอบนำเข้า กรมปศุสัตว์เอง ก็ต้องเข้มงวดเพิ่มมากขึ้น
นายไชยา กล่าวว่า ล่าสุด อธิบดีกรมปศุสัตว์ ได้ส่งหนังสือด่วน ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อขอให้สั่งการปศุสัตว์จังหวัดและปศุสัตว์อำเภอ ในการเข้มงวดตรวจสอบ ควบคุม กักกัน กำกับดูแลในการเคลื่อนย้ายสัตว์ ซากสัตว์ และดำเนินคดีให้เป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด และสั่งการด่านกักกันสัตว์ทุกด่านให้เข้มข้น”
นายไชยา กล่าวต่อไปว่า วันนี้ตนรับนโยบายจาก ร.อ.ธรรมนัส ให้เดินหน้าปราบปราม “หมูเถื่อน” เป็นการประกาศสงคราม แบบไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพลใดทั้งสิ้น นอกจากนั้นยังเดินหน้ารักษาเสถียรภาพราคาหมู เพื่อให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู สามารถประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน ซึ่งเห็นได้จากการที่กระทรวงเกษตรฯ ดำเนินการปราบปราม “หมูเถื่อน” ส่งผลให้ราคาหมูหน้าฟาร์มขยับขึ้น สร้างความดีใจให้กับผู้เลี้ยงหมู”
เมื่อถามถึงประเด็นความขัดแย้งในกระทรวงเกษตรฯ นายไชยา กล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน กระทรวงเกษตรฯ เป็นหนึ่งเดียว และพร้อมทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ยืนยันไม่เคยขัดแย้งอะไรกัน ทั้งตนและ ร.อ.ธรรมนัส มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ในการทำงาน เราเข้าใจกัน วันนี้เรายิ่งแน่นแฟ้นทำงาน เพื่อเกษตรกรมากขึ้น
เสียงสัมภาษณ์ รมช.เกษตรฯ