svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

ชาวบ้าน 2 ตำบล ปราจีนฯ ค้าน DSI ฝังกลบซากหมูเถื่อน

27 ตุลาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

DSI ยังฝั่งกลบหมูเถื่อนไม่สำเร็จ หลังชาวบ้าน จ.สระแก้ว ร้องจนต้องย้ายพื้นที่มาปราจีนฯ เจอมติชาวบ้าน 2 ตำบล ค้านอีก “ไม่เอา" ฝังกลบซากหมูเถื่อน 140 ตู้คอนเทนเนอร์ หวั่นกระทบสิ่งแวดล้อม โรคระบาดสัตว์

วันที่ 27 ตุลาคม 2566 เวลา 12.40 น. จากกรณีที่กรมปศุสัตว์ และ DSI เตรียมขนย้ายซากหมูเถื่อนของกลางในคดีที่ลักลอบนำเข้าผิดกฎหมาย มาฝังกลบทำลายในพื้นที่ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ปราจีนบุรี หมู่ 6 ตำบลหาดนางแก้ว อำเกอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 140 ตู้ ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนักรวม กว่า 3 ล้านกิโลกรัม ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ รับไว้เป็นคดีพิเศษเลขที่ 59 / 2566 เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 อยู่ระหว่างรวบรวมสำนวน และวัตถุพยานให้ครบถ้วน เพื่อรอการส่งมอบของกลางซากชิ้นส่วนสุกรให้กับกรมปศุสัตว์นำไปทำลาย ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ต.ค.2566 นายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหว ได้มีการโพสต์คลิปลง TikTok  "แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ระบุว่า DSI-กรมปศุสัตว์ กำลังเอาเนื้อหมูเกือบ 1 ล้านกิโลกรัม จากท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี มาฝังกลบทำลายที่ศูนย์วิจัยสัตว์ปีกจังหวัดปราจีนบุรี หมู่ที่ 6 ตำบลหาดนางแก้ว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี "  ชาวบ้าน 2 ตำบล ปราจีนฯ ค้าน DSI ฝังกลบซากหมูเถื่อน ทำให้ผู้นำชุมชน รวมถึงชาวบ้านได้รับรู้ข่าวสาร และพบว่าที่ศูนย์วิจัยสัตว์ปีกจังหวัดปราจีนบุรี มีการขุดหลุมเป็นร่อง คาดว่าเตรียมใช้ในการฝังกลบ บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่จริง โดยภายหลังชาวบ้านรับทราบข่าวสารผ่านโลกโซเชียล ชาวบ้านใน 2 ตำบล จาก ต.หาดนางแก้ว และ ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี ซึ่งมีพื้นที่ติดกับศูนย์ฯ มีความเป็นห่วง และกังวลเรื่องอันตรายด้านสิ่งแวดล้อม ที่อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะเรื่องโรคระบาดสัตว์ จึงไม่ยินยอมให้มีการนำมาฝังกลบ และได้มารวมตัวกันเพื่อแสดงพลังต่อต้าน "ไม่เอาหมูเถื่อนเข้าพื้นที่" ที่บริเวณปากทางเข้าบ่อศูนย์วิจัยสัตว์ปีกจังหวัดปราจีนบุรี ตลอดทั้งคืน แสดงจุดยืนคัดค้านการนำซากหมูเถื่อนมาฝังกลบที่นี่ และได้คอยเฝ้าระวังอยู่ที่บริเวณปากทางเพื่อขัดขวาง ไม่ให้มีรถบรรทุกขนเนื้อหมูเถื่อนเข้ามา

ชาวบ้าน 2 ตำบล ปราจีนฯ ค้าน DSI ฝังกลบซากหมูเถื่อน นอกจากนี้ นายประเสริฐ ก้อนสันทัด ปุศสัตว์อำเภอกบินทร์บุรี ได้มีหนังสือราชการ ปจ 0208/965 ลง 26 ต.ค.66 แจ้งถึงนายสมเกียรติ สมโภชน์นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหาดนางแก้ว(อบต.)  อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ให้แจ้งแก่ประชาชนในพื้นที่ เรื่องการทำประชาคมกรณีจะนำเนื้อสุกรมาฝังทำลาย ตามที่กรมปศุสัตว์ได้รับมอบเนื้อสุกรนำเข้าผิดกฎหมายจากกรมสวบสวนคดีพิเศษ ที่สิ้นสุดคดีแล้วเพื่อนำไปฝังทำลายตามระเบียบของทางราชการ ที่เหลืออีก จำนวน 140 ตู้คอนเทนเนอร์  โดยจะนำไปฝังทำลายในพื้นที่ของทางราชการ ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ปราจีนบุรี ตำบลลาดตะเคียน อำเกอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อเป็นสร้างการรับรู้ และชี้แจ้งความเป็นมา และวิธีการฝังกลบเนื้อสุกรดังกล่าว ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ สำนักงานปศุสัตว์อำเภอกบินทร์บุรี ในฐานะหน่วยงานตัวแทนกรมปศุสัตว์ในพื้นที่ ได้หารือกับส่วนราชการหลายหน่วยงาน และเป็นความคิดเห็นของประชาชน ณ วัดหาดสูง หมู่ที่ 2 ตำบลหาดนางแก้ว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเป็นผู้ทำประชาคม  ชาวบ้าน 2 ตำบล ปราจีนฯ ค้าน DSI ฝังกลบซากหมูเถื่อน ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการทำประชาคม เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ที่ศาลาการเปรียญวัดหาดสูง หมู่ 2 ต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มีประชาชน 2 ตำบล คือ ต.หาดนางแก้ว,ต.ลาดตะเคียน และพื้นที่ใกล้เคียงรวมกว่า 300 คน มารวมประชุมจนแน่นศาลาฯ พร้อมถือป้ายระบุข้อความเชิงต่อต้าน หรือแสดงออกว่าไม่เอาเนื้อหมูเถื่อนมาฝังกลบทำลายในพื้นที่

ชาวบ้าน 2 ตำบล ปราจีนฯ ค้าน DSI ฝังกลบซากหมูเถื่อน โดยมี นายพงษ์สิทธิ์ เนื่องจำนงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี , นายสัตวแพทย์ ต้นพงศ์ คำพลงาม นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ กองสารวัตรและกักกันสัตว์ กรมปศุสัตว์ นายสัตวแพทย์เพิ่มพร ฉายเพิ่มศักดิ์ ปศุสัตว์จังหวัด จ.ปราจีนบุรี,นายประเสริฐ ก้อนสันทัด ปศุสัตว์อำเภอกบินทร์บุรี , และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับฟังการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ พร้อมรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้าน 

อย่างไรก็ตาม ภายหลังนายสัตวแพทย์ ต้นพงศ์ ได้ชี้แจงวัตถุประสงค์การนำซากสัตว์มาฝังกลบในพื้นที่ และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ปรากฏว่า ชาวบ้านกว่า 300 เสียงใน 2 ตำบล มีมติไม่เห็นด้วย และห้ามนำซากสัตว์จำนวนมากมาฝังกลบในพื้นที่โดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลประการใดก็ไม่ให้มีการนำซากหมูมาฝังกลบในพื้นที่  ชาวบ้าน 2 ตำบล ปราจีนฯ ค้าน DSI ฝังกลบซากหมูเถื่อน ด้านนายสัตวแพทย์เพิ่มพร กล่าวว่า ต้องยอมรับมติของประชาชนที่มาร่วมประชาคมในครั้งนี้ ชาวบ้านทุกคนขอคัดค้านไม่ให้นำซากสัตว์มาฝังกลบในพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำเรื่องทั้งหมดเสนอต่อส่วนที่เกี่ยวข้องระดับสูงให้ทราบต่อไป 

ขณะ น.ส.นพวรรณ สามพล ชาวบ้านหมู่ที่ 6 ต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี กล่าวว่า ตนเองและชาวบ้านทุกคน รวมถึงหมู่บ้านใกล้เคียง ขอคัดค้านการที่จะนำซากหมูมาฝังในพื้นที่ดังกล่าว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ชาวบ้านทุกคนขอคัดค้านไม่ให้นำซากสัตว์มาฝังกลบในพื้นที่เด็ดขาด เพราะพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านอาศัยแหล่งน้ำ และใช้บ่อน้ำตื้นทำการเกษตรเลี้ยงชีพ เกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำเสียไหลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติที่ชาวบ้านใช้ในการเกษตรมีมลพิษในพื้นที่ 

นายสุนทร คมคาย อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน อ.กบินทร์บุรี (ทสม.) NGO. และ อดีตผู้สมัคร สส.ปราจีนบุรีเขต 3 กล่าวว่า ตนเองและชาวอำกบินทร์บุรี และเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน อ.กบินทร์บุรี (ทสม.) ยืนยันร่วมแสดงพลังในการต่อต้าน ไม่ต้องการให้มีการนำซากหมูเถื่อน จำนวน 140 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือราว 3 ล้านตัน มาฝังกลบที่พื้นที่ศูนย์ฯ หวั่นได้รับผลกระทบด้านภาวะมลพิษ ,เชื้อโรคระบาด  ชาวบ้าน 2 ตำบล ปราจีนฯ ค้าน DSI ฝังกลบซากหมูเถื่อน ก่อนหน้านี้เคยได้รับผลกระทบจากการหลอมสารซีเซี่ยม-137 ในตำบลหาดนางแก้ว ไปไม่นาน วันนี้วิกฤติภาวะสิ่งแวดล้อมพื้นที่ ต .หาดนางแก้ว,ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มากพอแล้ว เนื้อหมูเถื่อนเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อม ประกอบกับพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เป็นแหล่งเพาะแม่หมูอันดับ 2 ของประเทศ จะเสี่ยงต่อการตลาด ไม่มีใครอยากได้ลูกหมู เพราะเสี่ยงต่อโรคระบาด ดังนั้น ทางรัฐบาลหรือส่วนกลาง ก่อนจะทำอะไรต้องถามคนในพื้นที่ก่อน

ชาวบ้าน 2 ตำบล ปราจีนฯ ค้าน DSI ฝังกลบซากหมูเถื่อน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ DSI เคยนำซากหมูเถื่อนไปฝั่งกลบในพื้นที่สำนักงานศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ของกรมปศุสัตว์ แต่ชาวบ้านก็ต่อต้านเช่นเดียวกัน และไม่ให้ฝั่งกลบต่อ แม้ว่าจะมีการเตรียมพื้นที่เสร็จเรียบร้อย และพ่นยาฆ่าเชื้ออย่างต่อเนื่องก็ตาม ขณะเดียวกัน ได้มีการจัดทำประชาคมขึ้น ซึ่งชาวบ้านมีมติไม่ให้ฝั่งซากหมูเถื่อนในพื้นที่ และให้ขนย้ายซากหมูออกจากพื้นที่กลับไปยังท่าเรือแหลมฉบังเร็วที่สุด เนื่องจากซากหมูเริ่มเน่า และส่งกลิ่นเหม็น สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่อาศัยใกล้พื้นที่บ่อฝั่งกลบ  และหวั่นว่าจะกระทบต่อสภาพแวดล้อม

logoline