svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

DSI เปิดปฏิบัติการล่า 2 นายทุน อยู่เบื้องหลังจ่ายเงินสั่งนำเข้าหมูเถื่อน

อธิบดี DSI นำทีมเปิดปฏิบัติการล่าตัว 2 นายทุน อยู่เบื้องหลังจ่ายเงินสั่งนำเข้าหมูเถื่อน อึ้งตรวจสอบพบมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีเอี่ยวด้วย

26 ตุลาคม 2566 ความคืบหน้าปฏิบัติการกวาดล้างจับกุม ขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบของรัฐบาล โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดยเมื่อช่วงสายวันนี้ (26 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ นำโดย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ และ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน ได้ลงพื้นที่ ซ.ประชาอุทิศ 13 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ เพื่อเปิดปฏิบัติการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 2 จุด 

จุดแรกเป็นของบริษัท เดอะ กู๊ด ช็อป จำกัด THE GOOD SHOP CO., LTD เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และพยานวัตถุเพิ่มเติม ก่อนนำเข้าประกอบสำนวนคดีพิเศษที่ 59/2566 โดยการตรวจค้นในวันนี้ เป็นการขยายผลการจับกุม กรรมการของบริษัทชิปปิ้งเอกชน 6 ราย (5 บริษัท) จึงพบเส้นทางการเงิน และเอกสารที่เกี่ยวข้องว่า บริษัท เดอะ กู๊ด ช็อป จำกัด รับหน้าที่เป็นผู้จ่ายเงิน ให้กับบริษัทชิปปิ้งเอกชนแห่งหนึ่ง เพื่อสั่งซื้อเนื้อสุกรแช่แข็ง ก่อนนำเข้าประเทศไทย ผ่านพิธีการศุลกากร โดยการสำแดงเท็จ เป็นผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง (Frozen Food)
DSI เปิดปฏิบัติการล่า 2 นายทุน อยู่เบื้องหลังจ่ายเงินสั่งนำเข้าหมูเถื่อน
 

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า บริเวณด้านหน้าอาคารพาณิชย์ 2 คูหา 4 ชั้น อยู่ปากซอยวัดเทพนิมิตต์ แสดงชื่อเป็นป้ายร้านจำหน่ายเนื้อวัว เนื้อสัตว์ และเครื่องในประเภทต่าง ๆ แช่แข็ง ส่วนบริเวณชั้นล่างเปิดเป็นร้านจำหน่ายเบียร์และไวน์ ส่วนบริเวณชั้นบนพบเปิดเป็นลักษณะห้องอาหารและสำนักงาน อีกทั้งบริเวณด้านหลังของอาคารพบว่า มีจุดที่ใช้ในการสไลด์เนื้อสัตว์แช่แข็ง และมีการติดตั้งตู้แช่ อยู่ภายในอาคารอีกด้วย ระหว่างการเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่ไม่พบเจ้าของอาคาร จึงได้ประสานเจ้าของอาคาร ให้มาพบพนักงานสอบสวนภายใน 1 ชั่วโมง
DSI เปิดปฏิบัติการล่า 2 นายทุน อยู่เบื้องหลังจ่ายเงินสั่งนำเข้าหมูเถื่อน  

จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจค้นยังจุดเป้าหมายที่ 2 เป็นอาคารพาณิชย์ 1 คูหา 4 ชั้น ห่างจากจุดแรกประมาณ 100 เมตร ลักษณะเป็นอาคารสำนักงาน และมีตู้แช่เนื้อสัตว์ อยู่ที่ด้านหลังอาคารอีกจำนวนหนึ่ง จุดนี้เจ้าหน้าที่พบพนักงานของบริษัทจำนวนหนึ่ง จึงได้นำกำลังเข้าไปตรวจค้น พร้อมกับนำเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เข้าไปตรวจสอบ เก็บพยานหลักฐาน เป็นเอกสารและเนื้อสัตว์แช่แข็ง เพื่อนำไปตรวจสอบว่า มีความเกี่ยวข้องกับคดีที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กำลังติดตามอยู่หรือไม่ (คดีหมูเถื่อน 161 ตู้) 
DSI เปิดปฏิบัติการล่า 2 นายทุน อยู่เบื้องหลังจ่ายเงินสั่งนำเข้าหมูเถื่อน
 

พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า จากสืบสวนสอบสวนพบว่า บริษัทที่เข้าตรวจค้นวันนี้ มีความเกี่ยวข้องกับตู้คอนเทนเนอร์ ประมาณ 21 ตู้ จากทั้งหมด 161 ตู้ ซึ่งนอกเหนือจากการนำเข้าเนื้อหมู จำนวนดังกล่าวแล้ว ยังพบว่า มีขบวนการแอบลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน เข้ามาที่ท่าเรือแหลมฉบัง ตั้งแต่ปี 64 อีกรวมแล้วกว่า 2,385 ตู้ 

ส่วนจะเกี่ยวข้อง ในการสั่งเนื้อหมูแช่แข็งรวมกว่า 100 ตู้ หรือไม่ ดีเอสไอจะดำเนินการตรวจสอบย้อนหลัง ไปยังข้อมูลของตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด และจะรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน ประกอบเข้ากับสำนวนด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว มักมีการสำแดงเท็จ เป็นสินค้าแช่แข็งประเภทอื่น (Frozen Food) แต่ภายในเป็นเนื้อหมู และเนื้อสัตว์เถื่อน เบื้องต้น ดีเอสไอได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อขอศาลออกหมายจับบุคคล 2 ราย ซึ่งเป็นนายทุนเบื้องหลัง และอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว
DSI เปิดปฏิบัติการล่า 2 นายทุน อยู่เบื้องหลังจ่ายเงินสั่งนำเข้าหมูเถื่อน  

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า นอกจากจะพบเส้นทางการเงิน ที่นายทุนได้สั่งซื้อ และโอนไปยังบริษัทชิปปิ้งเอกชนแล้ว ยังได้มีการโอนเงิน ไปยังเจ้าหน้าที่รัฐอีกส่วนหนึ่ง โดยมีการติดต่อขอนำเข้าสำแดงสินค้า กับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานหนึ่ง ผ่านการดำเนินการกับบุคคลเดิมซ้ำ ๆ  จนเชื่อได้ว่า เจ้าหน้าที่รัฐคนดังกล่าว  อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อหาความชัดเจนก่อนดำเนินกาตามขั้นตอนกฎหมาย 

ส่วนกรณีที่มีการสงสัยว่า บริษัทดังกล่าวนี้ จะเป็นพื้นที่กระจายเนื้อหมูเนื้อวัวเถื่อน ในพื้นที่ดอนเมืองด้วยหรือไม่นั้น เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าว มีร้านบุฟเฟ่ต์ ชาบู หมูกระทะปิ้งย่าง เป็นจำนวนมาก ตนมองว่า มีความเป็นไปได้ เพราะพบว่า ภายในบริเวณจุดตรวจค้น มีอุปกรณ์ที่ใช้ในการสไลด์เนื้อสัตว์แช่แข็ง และพบห้องเย็น อยู่ภายในจุดตรวจค้นทั้ง 2 จุดนี้ด้วย 

นอกจากนี้ ภายในอาคารพาณิชย์จุดแรก ยังพบเนื้อหมูต้องสงสัยจำนวน 2 กล่อง กล่องละ 10 กก. รวมน้ำหนัก 20 กก. จึงได้ให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นำกลับไปตรวจสอบว่า เป็นเนื้อหมูเถื่อน หรือเชื่อมโยงกับเนื้อหมูเถื่อนที่ถูกอายัดไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ 
โดย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ  

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า จากการตรวจสอบย้อนหลัง พบการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน จำนวนกว่า 2,385 ตู้ทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากภาษี 1,192 ล้านบาท ซึ่งจะมีการเรียกร้องค่าเสียหาย กับขบวนการที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง รวมถึงผู้ประกอบการรายใด ที่รับซื้อเนื้อหมูเถื่อน จากบริษัทต่าง ๆ เหล่านี้ ก็จะถูกดำเนินคดีในฐานความผิดเดียวกัน และอาจต้องร่วมรับผิดชอบ ความเสียหายดังกล่าวด้วย 

ส่วนแนวทางการทำลายเนื้อหมูเถื่อน ที่เหลืออีก 140 ตู้ ซึ่งยังอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบังนั้น หลังจากที่มีการฝังกลบทำลายแล้ว 20 ตู้ เผา 1 ตู้ ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์สระแก้ว เหลืออีก 140 ตู้ ที่จะต้องทำลายที่เดิม แต่ปรากฏว่า ได้รับข้อร้องเรียนเรื่องกลิ่นเหม็นเน่า จึงได้มีการประชุมกันใหม่ และลงมติกันว่าจะย้าย 140 ตู้ที่เหลือ ไปฝังกลบทำลาย ที่ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ปราจีนบุรี

แต่ขณะนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ได้ต่อต้าน เนื่องจากเกรงเรื่องโรคระบาด และกลิ่นเหม็นเน่ารบกวน กรมปศุสัตว์จึงอยู่ระหว่างการทำความเข้าใจ กับประชาชนในพื้นที่ และพิจารณาเรื่องการฝังกลบทำลายตามขั้นตอน ทั้งนี้ ดีเอสไอและคณะกรรมการทำลายเนื้อหมูเถื่อน ได้ตั้งเป้าจะทำลายเนื้อหมูทั้งหมด ภายในสิ้นเดือน ต.ค. นี้ แต่หากติดปัญหาดังกล่าวก็เชื่อว่า น่าจะไม่ทันตามกรอบเวลาที่มีอยู่ จึงอาจพิจารณาขยายกรอบเวลาออกไป เพื่อความสบายใจ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่