12 พ.ย.66 พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยว่า นักการเมืองที่ยึดมั่นหัวใจประชาชนจะพิสูจน์ตัวตนด้วยการปฏิบัติตามสัญญาประชาคมที่ให้ไว้กับประชาชนอย่างไม่บิดพริ้ว สถานการณ์ทางการเมืองเดินมาถึงจุดการออกอิทธิฤทธิ์ตระบัดสัตย์
โดยเป็นเครื่องมือที่ฝ่ายอำนาจเก่าวางอุบายให้เกิดขึ้น เพื่อนำมาใช้เป็นสนิมเนื้อในตนไว้กัดกร่อนพรรคการเมืองแกนนำรัฐบาล ซึ่งเริ่มจากโกหกประชาชนจนเกิดรัฐบาลข้ามขั้ว เมื่อกลายเป็นความชาชินแล้วก็จะกล้าโกหกซ้ำตามมาอย่างไม่แยแสประชาชน
ประจักษ์ชัดจากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท รัฐบาลคุยโวอวดอ้างจะทำตามนโยบายได้แน่ แต่ความจริงมันเป็นการทำที่ไม่ตรงปก บอกว่าไม่กู้เงินก็กู้ บอกว่าจะแจกแบบทั่วหน้าก็ไม่ใช่ เวลาการแจกก็เลื่อนไปเรื่อย นโยบายหลักอื่นที่หาเสียงไว้ก็มาแนวเดียวกันไม่ว่าจะเป็นประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปฏิรูปกองทัพ ล้วนมีแนวโน้มออกมาเป็นแนวการทำที่ไม่ตรงปกทั้งสิ้น
"เป็นการบิดพริ้วสัญญาประชาคม เป็นการตระบัดสัตย์ซ้ำซาก รูปการณ์รัฐบาลลักษณะนี้มันจะเกิดขึ้นในปลายยุคของถิ่นกาขาว คือเห็นกงจักรเป็นดอกบัว เห็นผิดเป็นชอบ อีกไม่นานสถานการณ์บ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงใหญ่สู่การเป็นยุคของประชาวิไลเข้ามาแทนที่ ประชาชนคนรุ่นใหม่เจ้าของอธิปไตยเขากำลังมุ่งมั่นดำเนินการอยู่อย่างเป็นขั้นเป็นตอนและมันใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางแล้ว" พล.ท.ภราดร ระบุ