svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ยังไร้ทางออก! กองทัพเรือ ถก ตัวแทนบริษัทจีน เปลี่ยนเรือดำน้ำเป็นเรือฟริเกต

07 พฤศจิกายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ยังไร้ทางออก! กองทัพเรือ ถก ตัวแทนบริษัทจีน เปลี่ยนเรือดำน้ำเป็นเรือฟริเกต ระบุ ไม่มีอำนาจตัดสินใจ "สุทิน" เชื่อติดเงื่อนไขบริษัทขาดทุน รอเจรจาจีนคาดจบ ธ.ค.นี้

7 พฤศจิกายน 2566 นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเข้าชม งานนิทรรศการอุปกรณ์ป้องกันประเทศหรือ Difense & Security 2023 ถึงความคืบหน้าการเจรจากับตัวแทน บริษัท CSOC ที่รับต่อเรือดำน้ำให้กองทัพเรือไทย หลังขอเปลี่ยนเป็นเรือฟริเกต ว่า การเจรจากับตัวแทนบริษัทจีนวันนี้(7 พ.ย.) เป็นการพูดคุยกันของ กองทัพเรือ นำโดย พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ ผู้ช่วย ผบ.ทร. ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ซึ่งเป็นการพูดคุยระดับวงเล็ก และได้รับรายงานว่า บริษัทไม่มีอำนาจตัดสินใจ ต้องเป็นหน่วยงานระดับรัฐ เพราะเขาอยู่ภายใต้รัฐบาลจีน ต้องรอการตัดสินใจของรัฐบาลจีนเท่านั้น

แต่ตนยังเชื่อว่า การเจรจาเพื่อขอเปลี่ยนเรือดำน้ำเป็นเรือฟริเกต มีความเป็นไปได้ เพียงแต่ต้องพูดคุยกันอีกสักระยะ มีหลายอย่างที่ต้องปรับจูน ตกลงกันให้ได้ ส่วนข้อติดขัดนั้น ทางบริษัทจีนก็ยังไม่ได้บอกรายละเอียด แต่น่าจะเป็นนโยบายของบริษัทจีนเอง เพราะเขาได้ผลิตและลงทุนแล้ว เราไม่ซื้อเขาจะมีปัญหาเรื่องขาดทุน เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องหาทางดูแลชดเชย ซึ่งต้องจบกันที่ระดับนโยบาย คงไม่จบที่ระดับปฏิบัติ

เมื่อถามถึงท่าทีของกองทัพเรือ ที่ยังยืนยันจะเอาเรือดำน้ำติดเครื่องยนต์จีน นายสุทิน กล่าวว่า ก็ไม่ทราบ แต่ที่เป็นทางการ เขาเสนอทางออกหลายทาง แน่นอนเข้าใจได้ว่ากองทัพเรืออยากได้เรือดำน้ำ และเราก็อยากให้ แต่มันเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น ซึ่งทางกองทัพเรือก็ยอมรับว่าอยากได้ แต่เมื่อไม่ได้จะทำอย่างไร

เมื่อถามว่า มีทางออกที่ 3 หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า คงมี แต่ทางกองทัพเรือ เสนอมาเพียง 2 ข้อก่อนคือ ไม่เรือฟริเกต ก็เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง หรือ OPV แต่อาจจะมองเป็นทางออกที่ 3 ก็ได้ เขาบอกว่าของเก่า หากได้ก็เอา

เมื่อถามว่า สามารถบอกให้ชัดได้หรือไม่ว่า จะไปพูดคุยกับรัฐบาลจีนเมื่อไร นายสุทิน กล่าวว่า ขอให้ระดับนโยบายพูดคุยกันก่อน เชื่อว่าจะคุยกันภายในธันวาคมนี้ แต่ยังระบุวันที่ชัดเจนไม่ได้ เพราะไม่ทราบว่าทางจีนจะพร้อมเมื่อไร แต่คิดว่าก่อนปีใหม่น่าจะจบ

"ยืนยันว่ายังเป็นแนวทางเดิมคือเรือฟริเกต ขอเดินไปในแนวทางนี้ก่อน เพียงแต่ไม่รู้ว่าหากเจรจาไปแล้วจะลงตัวอย่างไร " นายสุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า หากเจรจาไม่ลงตัว ต้องกลับไปแนวทางเดิม คือเรือดำน้ำ ใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ใช่ ถ้าเป็นเครื่องยนต์เยอรมัน ก็โอเค

เมื่อถามย้ำว่า ประเด็นหลักที่กองทัพเรือได้พูดคุยกับตัวแทนบริษัทจีนคืออะไร นายสุทิน กล่าวว่า การพูดคุยเรื่องการเปลี่ยนเป็นเรือฟริเกต

เมื่อถามว่า เรือดำน้ำ หากสุดท้ายแล้วต้องติดเครื่องยนต์จีน รับได้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ต้องเป็นมติของคณะรัฐมนตรี(ครม.) ไม่ใช่สุทินคนเดียว เพราะเป็นการแก้ไข TOR การแก้ไขเงื่อนไขข้อตกลง หากต้องกลับมาแนวทางนี้ก็ต้องเป็นการตัดสินใจของครม. ซึ่งนายกรัฐมนตรี อยากให้จบโดยให้เป็นไปตามข้อตกลง หรือใกล้เคียงข้อตกลงมากที่สุด และกฎหมายทำได้ รวมถึงกองทัพได้ประโยชน์ ประเทศไม่เสียประโยชน์ นายกฯ ยึดหลักนี้อยู่

เมื่อถามว่า ทางกองทัพเรือ ได้รายงานการพูดคุยกับตัวแทนบริษัทจีน อย่างไรบ้าง นายสุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้รายงาน เพราะยังคุยไม่จบ และกำลังพูดคุยกันอยู่

เมื่อถามว่า หากกองทัพเรือต้องการให้พิจารณาเรือดำน้ำจีนอีกครั้ง ต้องมีข้อมูลอะไรมาเสนอหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ที่ผ่านมาเขาก็พิจารณาในแง่ของเทคโนโลยี แต่ต้องพิจารณาข้อกฎหมายประกอบข้อตกลง รวมถึงระเบียบราชการของไทย เพราะฉะนั้นแม้เทคโนโลยีจะได้ แต่กฎหมายทำได้หรือไม่ รวมถึงระเบียบปฏิบัติ คนอนุมัติ คนเซ็น ทำได้หรือไม่ อันนี้ในรายงานเขาไม่ได้เอาปัจจัยนี้มาประกอบ

เมื่อถามว่า ขนาดแค่เปลี่ยนเครื่องยนต์ยังยุ่งยาก การเปลี่ยนเรือทั้งลำจะไม่ยุ่งยากกว่าหรือ นายสุทิน กล่าวว่า อยู่ที่การเริ่มต้นและเจตนา ซึ่งเจตนาเราอยากทำให้ถูกกฎหมาย แต่ถ้าของเดิมไม่ถูกกฎหมายแล้วไปบิดให้ถูกกฎหมายก็ต้องดู

เมื่อถามว่า เข้าใจกองทัพเรือหรือยังว่าทำไมจำเป็นต้องมีเรือดำน้ำ นายสุทิน กล่าวว่า ความจริง แม้ไม่ได้มานั่งเป็นรัฐมนตรีกลาโหม ก็เข้าใจว่าเพื่อนบ้านมี เราก็ควรมี แต่ของเรา พอจะมี ก็มีปัญหาในทางปฏิบัติ ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากให้เขาแต่ก็เกิดปัญหาเช่นนี้ หากจีนได้เครื่องยนต์เยอรมันมาติดให้ก็จบ เราไม่ได้ขัดข้องอะไร

เมื่อถามว่า กองทัพเรือควรมองหาเทคโนโลยีอื่นมาทดแทนเรือดำน้ำหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ก็ที่คุยกันที่เสนอมาก็ต้องหาเทคโนโลยีปราบเรือดำน้ำนั่นก็คือเรือฟริเกต 3 มิติ

logoline