
7 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พร้อมคณะ ลงพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการบำบัดผู้ติดยาเสพติด "โครงการนาคาพิทักษ์รักษ์ประชา" ที่ สถานีตำรวจภูธรหัวโทน ตำบลหัวโทน อำเภอสุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
โดยเมื่อนายกฯ เดินทางมาถึงได้มีประชาชนมารอต้อนรับพร้อมถือแผ่นป้ายไวนิล มีข้อความระบุว่า "เราต้องการเงินดิจิทัล 10,000 บาท /เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000บาทเมื่อไหร่จะได้/เศรษฐกิจร้อยเอ็ดแย่ เอาเงิน 10,000 บาทมาเยียวยาก่อนได้ไหม /ท่านนายกฯเมื่อไหร่จะได้เงินหมื่นครับ
ขณะที่ นายกฯได้ทักทายและถ่ายรูปกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง พร้อมกล่าวแซว "นายกิตติ สมทรัพย์" สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ที่เดินมาพร้อมกันว่า "คุณจะมาถ่ายรูปกับผมทำไมหละเฮ้อ" ก่อนที่จะชูนิ้วโป้งเพื่อถ่ายรูปร่วมกับประชาชนพร้อมกับกล่าวว่า "เงินหมื่น"
ขณะที่ นายเศรษฐา กล่าวว่า วันนี้ (7ต.ค.) ถือเป็นวันที่ 2 ในการลงพื้นที่ภาคอีสาน สำหรับทริปนี้เพื่อมาดูเรื่องปัญหาน้ำท่วมที่ จ.อุบลราชธานี และ จ.ยโสธร ส่วน จ.ร้อยเอ็ด เมื่อก่อนก็ประสบปัญหาเดียวกัน แต่ดีใจกับสถานการณ์ที่ผ่านมา แต่เรื่องสำคัญ คือ ปัญหาปากท้อง ซึ่งภูมิภาคนี้ต้องพึ่งพาทางการเกษตรค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกข้าว ซึ่งรัฐบาลนี้มีนโยบายชัดเจน พร้อมจะมีการปรับเปิดตลาดใหม่ๆ ทำให้รายได้สุทธิต่อหัวสูงขึ้น
"รัฐบาลตระหนักดีว่าท่านมีภาระ ซึ่งมีการประกาศพักหนี้ทั้งต้นทั้งดอก 1 ปี ออกไปก่อน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมไปถึงมีการประกาศลดค่าไฟและค่าน้ำมันดีเซล ทำให้ประชาชนขณะนี้ลืมตาอ้าปากได้ มีขวัญและกำลังใจในการทำงานต่อไป" นายกฯ ระบุ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่กัดกินสังคมไทยค่อนข้างมากไม่ใช่ที่นี่ที่เดียว แต่ต้องชื่นชมสถานีตำรวจนี้ ยอมไม่ได้ที่จะให้ลูกหลานต้องเป็นทาสของยาเสพติด ที่นี่เป็นที่ที่หนึ่งที่ทำได้ดีมาก ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัด ได้กล่าวไปแล้วว่า เราอาศัยชุมชนป้องกันปราบปรามอย่างครบวงจร โดยไม่ใช้ความรุนแรง ใช้ความแข็งแกร่งของครอบครัวเข้ามาช่วย ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่รัฐทุกคนที่ช่วยกันดูแล และบำบัดผู้เสพที่เป็นผู้ป่วย และคืนสู่อ้อมกอดของพ่อแม่พี่น้องได้ และหวังว่าโมเดลนี้ จะถูกนำไปใช้ในตำบล อำเภอ อีกหลายๆอำเภอ เพื่อเป็นการป้องกันปราบปรามการจัดยาเสพติดอย่างบูรณาการต่อไป
ขณะเดียวกัน นายกฯ ยังชื่นชมการบูรณาการความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการของสถานีตำรวจภูธรหัวโทน สามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างเป็นรูปธรรม ต้องขอชื่นชม ดังนั้นขอให้หน่วยงานราชการบูรณาการและเป็นเสาหลักในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ร่วมกัน ปราบปรามผู้มีอิทธิพลดำเนินการอย่างจริงจังและเป็นระบบขณะที่ผู้ค้าต้องถูกปราบปรามอย่างเคร่งครัดและยึดทรัพย์โดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ ขอเน้นย้ำรัฐบาลนี้เอาจริงกับเรื่องยาเสพติด เพราะเป็นเรื่องที่กัดกร่อนสังคมไทยมาอย่างยาวนานถึงเวลาที่จะต้องจัดการต่อไป สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นหน่วยงานสำคัญที่จะช่วยผลักดันเรื่องนี้ได้ จึงขอฝาก ถ้าเป็นไปได้อยากให้เอาหัวโทนโมเดลนี้ ไปแพร่ขยายในทุกสถานีตำรวจทำงานร่วมกับชุมชนทุกชุมชน และหน่วยงานรัฐทุกหน่วยงานในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งต่อไป ตนจะสั่งการในเรื่องนี้ด้วย