"เศรษฐา"ลุยน้ำ มอบถุงยังชีพชาวคำเขื่อนแก้ว รับปากเงินดิจิทัลทำแน่
"เศรษฐา" ลุยน้ำ มอบถุงยังชีพ -อุปกรณ์การเกษตร ชาวบ้านทรายงาม บอกทำได้แค่ยิ้มแห้ง เพราะเห็นประชาชนลำบาก รับปากเงินดิจิทัลทำแน่
7 ตุลาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายเกรียง กัลป์ตินนท์ รมช.มหาดไทยและนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม พร้อมคณะสส.ในพท้นที่จ.อุบลราชธานี และยโสธร เดินทางลงพื้นที่ บ้านทรายงาม ต.กุดกุง อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร เพื่อพบปะประชาชนและมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
โดยนายกรัฐมนตรีและคณะได้นั่งรถบรรทุก 6 ล้อของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ.หมายเลขทะเบียน 53-7093 กรุงเทพมหานคร ลุยน้ำท่วมสูงกว่า30- 60 เซนติเมตร ระยะทาง 4 กิโลเมตร มายัง วัดบ้านทรายงาม
โดยทันทีที่มาถึงมีประชาชนให้การต้อนรับอย่างเนืองแน่น พร้อมผูกผ้าขาวม้าผ้าประจำถิ่นให้นายกรัฐมนตรี ก่อนที่นายกรัฐมนตรีและคณะจะกราบนมัสการพระครูจิตรการ โกวิท เจ้าอาวาสวัด พร้อมถวายผ้าไตรจีวรและสังฆทาน จากนั้นเจ้าอาวาสได้มอบพระพุทธรูป พร้อมผูกแขนให้กับนายกรัฐมนตรีและคณะ และเจ้าอาวาสกล่าวว่าชาวบ้านฝากถามเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต ว่าได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีจึงกล่าวยืนยันว่า ต้องทำครับ เพราะมีคนต่อต้านไม่กี่คนหรอกครับ แต่ก็ทำแน่ เพราะมีความสำคัญที่รับปากกับประชาชนไว้
โดยนายกรัฐมนตรีได้แวะทักทายผู้เฒ่าผู้ในหมู่บ้าน โดยนางเกรียง ได้สอบถามชาวบ้านว่าใครรอเงินดิจิทัลวอลเล็ตอยู่บ้าง คุณยายจึงตอบกลับว่า รออยู่ แต่ใช้ไม่เป็น นายเศรษฐา จึงตอบกลับว่า ไม่เป็นไร บัตรประชาชนใบเดียวก็พอแล้ว พร้อมขอให้ช่วยดูแลกัน และรัฐบาลก็จะช่วยให้ดีขึ้น ขณะเดียวกันคุณยายได้อวยพรนายกรัฐมนตรี ก่อนจะชมว่านายกตัวจริงหล่อ ตัวสูงเลย ก่อนที่ชาวบ้านที่เป็นผู้เฒ่าผู้แก่จะกล่าวแซวกันเองว่า จับมือได้แต่อย่าบายหรรม ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะกันในวง
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวทักทายประชาชนว่า เห็นทุกท่านยิ้มก็เป็นขวัญและกำลังใจอย่างล้นหลามให้เราทำงาน ผมอยากยิ้มเยอะกว่านี้ แต่ยิ้มไม่ออกเพราะเดินทางเข้ามานี่ก็ลำบาก ขนาดมาแค่หนเดียวยังลำบากเลย เพราะเจอแต่ภาวะน้ำท่วม รับการรายงานว่าท่วมแล้ว ท่วมอีก ท่วมทีนึงเป็นเดือน ตนก็มีความไม่สบายใจ มีความเห็นใจทุกท่าน การสัญจรไปมาลำบากหรือเปล่า ไปหาหมอก็ลำบาก พืชผลเสียหาย วันนี้มีรัฐมนตรีช่วยมากันหลายคน ซึ่งเป็นที่บ่งบอกว่าเราให้ความสำคัญกับปัญหาของประชาชน อำเภอคำเขื่อนแก้วทุกท่าน
ขณะที่เรื่องของการป้องกันน้ำท่วมทำได้หลายมิติ ระยะยาวแน่นอนว่าเราจะต้องมีบทการบริหารจัดการน้ำ ตามที่รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีได้บอกไปว่าในระยะยาวจะต้องมีการบริหารจัดการน้ำ มีการขุดคูของเพิ่มและสร้างเขื่อนสร้างฝ่ายเพิ่มซึ่งถือเป็นระยะยาว ส่วนในระยะสั้นเรื่องของการปล่อยน้ำและกักน้ำ ทางกรมชลประทานรับปากว่าจะไปทบทวนดูแลวิธีการกักน้ำปล่อยน้ำอีกครั้ง ซึ่งจะต้องมีการบริหารจัดการกันไป
ส่วนภาวะอุทกภัยหรือน้ำท่วมเกิดขึ้น หน่วยงานทุกหน่วยงานพร้อมไม่ว่าจะเป็น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของมหาดไทย ทหารพัฒนา กระทรวงกลาโหม เข้ามาปฏิบัติเพื่อบำรุงสุขเราไม่อยากให้ถึงแล้ว จริงๆต้องไม่ท่วม ขณะที่รมช.คมนาคม ท่านสัญญาน่าจะทำถนนให้และสะพานอีก 2 สะพาน ตรงนี้จะต้องจัดการโดยเร็ว
ขณะนั่งรถเข้ามาตอนได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่รัฐหลายท่านพูดว่าที่นี่อำเภอนี้มีความผูกพันกันเยอะมาก มีโครงสร้างสถาบันครอบครัวที่แข็งแรง พี่น้องไม่มีการออกไปทำงานนอกเขต อย่างไรก็อยากจะอยู่ในเขตนี้เพื่อช่วยเหลือเจือด้วยกัน ดูแลผู้แก่ผู้เฒ่าด้วยกัน ผลดีตรงนี้ไม่มีใครทราบผมมาที่นี่ไม่มีใครบ่นเรื่องปัญหายาเสพติด เพราะสถาบันครอบครัวแข็งแรงคนแก่เฒ่าดูแลลูกหลานดีมีเวลาพูดคุยกันให้ความอบอุ่นแก่ครอบครัว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีและเป็นสังคมตัวอย่าง ที่หลายๆอำเภอหลายจังหวัด ควรที่จะนำไปพัฒนาต่อ
"วันนี้ดีใจที่ได้มาพบปะพูดคุย แต่มาในสภาพที่มีน้ำท่วม ก็ไม่ได้มีเท่าไหร่ อยากจะมาในบริบทที่สามารถมีรอยยิ้ม ได้อย่างจริงจัง วันนี้ก็ยิ้มฝืดๆหน่อยเพราะมาถึงก็เห็นน้ำท่วมท่านอยู่ทุกวันผมมาวันเดียวยังเศร้าใจเลยเข้าใจถึงความลำบาก วันนี้ที่มาที่นี่มาพร้อมกันกับเจ้าหน้าที่ร้านทุกฝ่ายทุกคนเข้าใจ และสัญญาว่าจะกลับมาดูแล"
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพและเครื่องมือทางการเกษตรให้กับประชาชนที่วัดทรายงาม และระหว่างนั่งรถลุยน้ำกลับนายกรัฐมนตรีได้ลงจากรถ เดินลุยน้ำแจกถุงยังชีพยังบ้านประชาชน
ขณะที่ในช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีจะนำคณะลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการบำบัดผู้ติดยาเสพติด “โครงการนาคาพิทักษ์รักษ์ประชา”ที่ สถานีตำรวจภูธรหัวโทน ตำบลหัวโทน อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
