svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

นักวิชาการ ชี้ แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นเดิมพันครั้งใหญ่ของเพื่อไทย

07 ตุลาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นักวิชาการชี้ การสื่อสารแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทยังคลุมเครือ เชื่อ"เพื่อไทย"หวังใช้นโยบายประชานิยมกู้คะแนนเสียง ด้านหอการค้าเชียงใหม่ระบุ เม็ดเงินต้องลงสู่ระดับล่าง การกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเรื่องดี แต่ต้องมีแผนระยะยาวด้วย

วันที่ 7 ตุลาคม 2566 หลังจากที่มีแถลงการณ์ของนักวิชาการ 99 คน ทั้งคณาจารย์เศรษฐศาสตร์ และผู้มีชื่อเสียงในแวดวงการเงินการคลังของประเทศ รวมถึงอดีตผู้ว่าการฯ และผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย  ซึ่งต่างมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพราะเป็นนโยบายที่ “ได้ไม่คุ้มเสีย” และในแถลงการณ์ยังระบุอีกว่า รัฐบาลควรจะคำนึงถึงความยั่งยืนของทางการคลังในระยะยาว หากมีความจำเป็นต้องช่วยเหลือกลุ่มคนรายได้น้อย ก็ควรช่วยเหลือแบบเจาะจง ไม่ใช่แบบเหวี่ยงแหที่กำลังจะทำอยู่นะขณะนี้ 

รศ.ดร.ฐิติวุฒิ บุญยวงศ์วิวัชร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  กล่าวว่า  ตอนนี้การสื่อสารทางการเมือง รวมถึงการสื่อสารเกี่ยวกับนโยบายภาครัฐ ยังมีปัญหา ในประเด็นของความสมเหตุสมผลของนโยบาย ที่กำลังมีนักวิชาการรวมทั้งประชาชนกังวลและสงสัยอยู่  ซึ่งฝ่ายที่คัดค้านก็เรียกร้องให้ยกเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท  และมีคำอธิบายที่สมเหตุสมผลในการคัดค้าน  ตนเองคิดว่าเมื่อมีข้อมูลอีกชุดหนึ่งที่สวนทางกับรัฐบาล  ก็อาจจะสร้างความไม่มั่นใจให้กับประชาชนได้  

รศ.ดร.ฐิติวุฒิ บุญยวงศ์วิวัชร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

สิ่งหนึ่งที่ต้องตั้งข้อสังเกตคือ คนทุกกลุ่มมีความจำเป็นที่จะได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาทหรือไม่ ซึ่งจะแตกต่างกับนโยบายการแจกเงินของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งตอนนั้นเป็นการแจกเงินให้ประชาชนในช่วงที่มีสถานการณ์วิกฤติ เป็นการอัดฉีดเงินให้คนในหลายกลุ่มเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งหากมองในปัจจุบันก็ยังไม่เห็นวิกฤติอะไรที่ต้องแจกเงินให้กับคนทุกกลุ่มในจำนวนเงินเท่านี้ 

หากมองในทางการเมือง พรรคเพื่อไทยก็ต้องการที่จะทำตามนโยบายที่เคยหาเสียงไว้กับประชาชนในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งหากนโยบายนี้ไม่สามารถทำได้ ก็จะมีคำถามเกิดขึ้นมาว่า พรรคเพื่อไทยทำไมไม่สามารถทำตามคำมั่นที่ให้ไว้กับประชาชนได้ ทำให้ในตอนนี้พรรคเพื่อไทยเหมือนทุ่มหมดหน้าตักเพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงฟื้นฟูความเชื่อมั่น ความนิยมของประชาชน ในพรรคเพื่อไทยกลับมาอีกครั้ง 

ในช่วงการเลือกตั้ง  "พรรคเพื่อไทย" มุ่งเน้นนำเสนอนโยบายประชานิยมให้กับประชาชน  แต่นโยบายประชานิยมก็ไม่สามารถทำให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งได้  ดังนั้นการกลับมาของพรรคเพื่อไทยก็ยังเกาะในเรื่องของนโยบายประชานิยมอยู่  แต่หากมาดูในขณะนี้ ไม่ใช่เพียงความเสี่ยงของพรรคเพื่อไทยอย่างเดียว  แต่เป็นความเสี่ยงเป็นการเดิมพันของ การคลังของประเทศไทยด้วย

นักวิชาการ ชี้ แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นเดิมพันครั้งใหญ่ของเพื่อไทย

ด้าน รศ.ดร.ฐิติวุฒิ นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานหอการค้า จังหวัดเชียงใหม่ ให้ความเห็นว่า ประเด็นการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ทุกวันนี้ ตนเองขอแยกเป็น 2 ส่วน  ในส่วนแรกหากจะนำมากระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ตรงนี้ตนเองเห็นด้วย แต่ต้องนำเม็ดเงินลงไปถึงระดับล่าง ต้องให้เงินลงไปถึงร้านค้าที่อยู่ในชุมชนหรือ SME ขนาดเล็ก เพื่อให้เงินเข้าสู่ระบบ เพราะหากนโยบายนี้ออกมาแล้ว  ประชาชนนำเงินไปใช้จ่ายในร้านค้าหรือธุรกิจที่อยู่อันดับต้นๆ ก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไร  จากนั้นเมื่อทำการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นแล้ว  รัฐบาลจะต้องมีแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาวด้วย 

รศ.ดร.ฐิติวุฒิ นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานหอการค้า จังหวัดเชียงใหม่

ในส่วนที่สองคือการใช้จ่ายของประชาชนเมื่อได้รับเงิน 10,000 บาทมา รัฐบาลต้องมีแนวทางกำหนดการใช้จ่ายเงิน 10,000 บาทอย่างชัดเจน เพื่อให้เงินจำนวนนี้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งต่อตัวผู้ใช้และประเทศ ต้องมีมาตรการออกมารองรับให้เงินเหล่านี้เข้าสู่ระบบอย่างแท้จริง สภาพเศรษฐกิจประเทศไทยในระดับล่าง ตอนนี้ยังถือว่าน่าเป็นห่วง ยังไม่มั่นคง โดยเฉพาะร้านค้าขนาดเล็กหรือ SME ขนาดเล็ก จึงอยากให้เงินจำนวนนี้เข้าไปสนับสนุนคนกลุ่มนี้มากกว่า  ดีกว่าจะนำเงินไปซื้อสินค้าในบริษัทใหญ่ๆ 

นักวิชาการ ชี้ แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นเดิมพันครั้งใหญ่ของเพื่อไทย

ส่วนที่มีผู้ที่ออกมาคัดค้านนโยบายนี้  อาจจะมองว่าเป็นนโยบายประชานิยม และอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับการเงินการคลังในอนาคต  เงินที่นำมาแจกให้กับประชาชนก็คือเงินภาษีของประชาชน ดังนั้นรัฐบาลต้องมีการพูดคุยกับทุกฝ่าย หารือ รวมถึงวางแผนในระยะยาว ที่จะหาเงินเข้าประเทศ ให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทย

logoline