10 กันยายน 2566 นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิป ส.ส.พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการอภิปรายคำแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา 11-12 ก.ย.นี้ ว่า ขณะนี้พรรคก้าวไกลได้วางตัวสส.ในการอภิปรายยู่ที่ประมาณ 30 บวกลบ โดยวางไว้ 3 กรอบใหญ่คือ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ซึ่งการอภิปรายในวันแรก จะเน้นเรื่องนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล ส่วนนโยบายเชิงการเมือง จะอยู่ในวันที่ 12 ก.ย.
ทั้งนี้ หลังจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี อ่านคำแถลงนโยบายเสร็จสิ้น ก็จะตามด้วยแกนนำพรรคก้าวไกล ที่ตอนนี้วางตัวให้ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ด้านเศรษฐกิจ เป็นคนอภิปรายคนแรก จากนั้น คาดว่าจะตามด้วยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
“เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต จนถึงขณะนี้พบว่า คนในรัฐบาลยังไม่มีความเข้าใจเรื่องเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่บอกว่าจะนำมาใช้กับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต รองรับการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ มองดูแล้วเหมือนกับจะเป็นการทำแบบผิดฝาผิดตัว เพราะเวลาตั้งนโยบาย เราต้องตั้งโจทย์หลักให้ชัด แล้วนำเครื่องมือที่เหมาะสมมาใช้ ไม่ใช่เอาสองโจทย์คือ กระตุ้นเศรษฐกิจกับเทคโนโลยีบล็อกเชน มารวมกันแล้วพยายามจะทำให้ได้ เพราะหวังว่าทำครั้งเดียวแล้วจะได้สองอย่าง แต่มันอาจไม่ได้เหมาะสมกับสภาพที่เป็นก็ได้ ส่วนนโยบายเชิงเศรษฐกิจดิจิทัล โดยภาพรวมในคำแถลงนโยบายก็ไม่เห็นอะไรที่เป็นรูปธรรม ไม่เข้าใจว่ารัฐบาลชุดนี้เข้าใจเรื่อง อีโคซิสเต็ม มากน้อยแค่ไหน” นายปกรณ์วุฒิ กล่าวและกล่าวต่อ
ได้ยินมาว่ารัฐบาลมีแนวคิดจะทำ Matching fund ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนเสนอไว้ตั้งแต่สภาฯชุดที่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าตัว Matching fund อย่างเดียว งบประมาณอาจไม่เพียงพอ เพราะยังมีกฎระเบียบที่ไม่เอื้อให้เกิดการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล ดังนั้นไม่ว่าจะให้งบประมาณไปขนาดไหนมันก็เติบโตไม่ได้ ถ้ากฎระเบียบที่มีอยู่ไม่เอื้อให้เติบโต จึงควรมีภาพรวมรายละเอียดที่ชัดเจนมากกว่านี้ ว่าจะทำเรื่องอื่นๆ อย่างไร
นอกจากเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เรื่องอื่นๆ สส.ก้าวไกล ก็ได้เตรียมการอภิปรายไว้เช่นกัน อาทิ การไม่ระบุถึงนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เรื่องค่าแรงขั้นต่ำที่เขาเคยหาเสียงไว้ ส่วนนโยบายเชิงการเมือง ก็จะมีการอภิปรายเช่นกัน เช่น แนวทางการปฏิรูปกองทัพ
นอกจากนี้ ยังไม่มีการะบุว่า จะให้มีการทำประชามติเพื่อนำไปสู่การให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) แสดงให้เห็นอะไรทางการเมือง โดยมองว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยพูดมาตลอด รวมถึงสื่อสารไว้ในเว็บไซต์พรรคเพื่อไทย ว่าสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้มี ส.ส.ร. แต่ในคำแถลงนโยบายกลับไม่มีการเขียนไว้ แสดงให้เห็นว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีความเป็นเอกภาพในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือเป็นสัญญาณไม่ดีต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ขณะที่ นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคก้าวไกลได้ข้อสรุปในการวางตัวสส.ที่จะอภิปรายแล้ว โดยทุกเรื่องที่ประชาชนสนใจจะนำมาอภิปรายซักถามรัฐบาลแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต หรือการไม่มีการเขียนเรื่องค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ไว้ในคำแถลงนโยบาย และยังพบว่าคำแถลงนโยบายรัฐบาล เขียนไว้แบบลอยมาก ไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรม ไม่ได้บอกว่าจะเปลี่ยนอะไรไปสู่อะไร พูดไปเรื่อย แต่บางเรื่องเช่น รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นเรื่องที่คนจับต้องได้ กลับไม่เขียนไว้ในนโยบาย เขียนแต่ว่าจะพัฒนา ปรับปรุง แต่ไม่มีอะไรรูปธรรม ไม่มีทิศทาง จะไปทางซ้ายหรือไปทางขวา ไม่ใช่มาเขียนแบบวาดดาวไว้ล้านดวง แต่ไม่บอกว่าจะไปดวงไหนกันแน่