svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

จ้องถล่มกันขนาดนี้ รัฐบาลก็ว้าวุ่นเลย

10 กันยายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ยังไม่ทันได้เริ่มบริหาร ก็ว้าวุ่นสะแล้ว กับรัฐบาลเศรษฐา 1 ที่ต้องแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 11-12 ก.ย.นี้ แต่โดนจ้องถล่มจากฝ่ายค้าน และสว.

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทุกฝ่ายต่างจับจ้องไปที่คำแถลงนโยบายของรัฐบาล และคาดหวังว่ารัฐบาลเพื่อไทยรอบนี้ จะทำเพื่อประชาชนตามที่ได้หาเสียงเอาไว้

เริ่มต้นจากนายคำนูญ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะวิปวุฒิสภา กล่าวว่า คำแถลงนโยบายรัฐบาลกระชับ แต่สว.หลายคนยังมีความสงสัยในนโยบายรัฐบาลหลายแง่มุม โดยเฉพาะนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล เพื่อกระตุกเศษฐกิจ รวมถึงนโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือส.ส.ร. ทำให้อาจจะมีการลุกขึ้นอภิปรายกันมากในประเด็นนี้

คำนูญ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา

เช่นเดียวกันกับนายวัยชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา แม้จะมองว่า คำแถลงนโยบายของรัฐบาลกระชับ และมีครบทุกนโยบายของพรรคการเมือง อีกทั้งรายละเอียดไม่ผูกมัดเกินไปนั้น แต่ยังต้องการความชัดเจนในเรื่องที่มา ของส.ส.ร. และกรอบเวลาในการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ พร้อมเตือนให้รัฐบาลใหม่เร่งทำผลงานให้ประชาชนยอมรับเพื่อลดข้อครหา และเพื่อต่อสู้กับฝ่ายค้านให้ได้

ขณะที่เสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวว่า เตรียมที่จะอภิปรายนโยบายที่พรรครัฐบาลได้หาเสียงไว้อย่างกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท และนโยบายที่มีการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะเกรงว่ารัฐบาลอาจไม่มีเสถียรภาพในการบริหาร เนื่องจากมีหลายพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล จึงจะเสนอแนวทางเพื่อให้รัฐบาลสามารถบริหารงานไปได้อย่างราบรื่น พร้อมขอให้รัฐบาลระมัดระวังในการใช้อำนาจ เพราะอาจจะกระทบต่อความรู้สึกประชาชน

เสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา

ทั้งนี้ แม้สว.จะมองว่าเนื้อหาคำแถลงนโยบายสั้น กระชับ แต่ฝากฝั่งของฝ่ายค้านที่ไม่ละสายตา จับทั้งคำสัมภาษณ์ พิจารณาทั้งนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภามองว่าสั้นเกินไป ไม่มีรายละเอียดครอบคลุมนโยบาย ซึ่งโต้โผใหญ่ในซีกฝ่ายค้านคือพรรคก้าวไกล ที่เตรียมคนอภิปรายไว้มากถึง 60 คน และเน้นพิเศษไปที่กระเป๋าเงินดิจิทัล การแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะนโยบายด้านการทหารแต่ดูเหมือนจะออกมาถล่มตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มแถลง

 

จ้องถล่มกันขนาดนี้ รัฐบาลก็ว้าวุ่นเลย

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ทีมนโยบายพรรคก้าวไกล ที่จี้ไปที่นโยบายยกเลิกเกณฑ์ทหาร ที่ดูเหมือนเป็นการปรับลดตามแผนของกองทัพ แต่อาจมีช่องว่างกลายเป็นการบังคับคนที่ไม่อยากเป็นทหารให้มาเป็นทหาร โดยนี่เป็นคำถามสำคัญที่พรรคก้าวไกลอยากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่คือนายสุทิน คลังแสงได้ชี้แจง และไม่เพียงเท่านี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่จะต้องเตรียมรับมือกับการติดตามนโยบายปฏิรูปกองทัพ และเรื่องงบซื้อเรือดำน้ำที่นายสุทิน ยืนยันว่าจบสวย แต่จะตรงตามความต้องการของประชาชนหรือไม่

พรรคฝั่งรัฐบาลแกนนำหลักอย่างพรรคเพื่อไทย แม้แสดงความมั่นใจในคำแถลงแต่ฝากถึงฝ่ายค้านว่าครั้งนี้ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเพียงการติชมนโยบายเท่านั้น เพราะรัฐบาลประชาธิปไตยต้องการฟังกระจกเงาสะท้อนการทำงาน ดังนั้น ภารกิจแถลงนโยบายเพียงแค่ 29 ชั่วโมง ถือเป็นวิบากรรมแรกที่รัฐบาลเศรษฐาจะต้องรับมือ 

logoline